วันนี้ เวลา 03:03 • ข่าว

วิบากกรรม Boeing 787 ยังไม่จบ! เครื่องบินตก สู่บททดสอบความปลอดภัย

วิบากกรรม 'โบอิง' ยังไม่จบ! โศกนาฏกรรมครั้งแรกของเครื่องบิน 787 Dreamliner ความท้าทายใหม่ของซีอีโอ ในการเรียกคืนความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยจากตลาดโลก
บริษัท “โบอิง” (Boeing) บริษัทอุตสาหกรรมการบินและอวกาศสัญชาติอเมริกา กลับเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินแอร์อินเดียได้ประสบอุบัติเหตุตกระหว่างขึ้นบิน ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบิน Boeing 787-8 Dreamliner โดยกรมการบินพลเรือน (DGCA) คาดว่า เที่ยวบินดังกล่าวมี ผู้โดยสาร 232 คน ลูกเรือ 10 คน รวม 242 คน
สถานการณ์นี้เป็นบททดสอบสำคัญสำหรับบริษัท และ “เคลลี ออร์ตเบิร์ก” ซีอีโอของบริษัทที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนส.ค.อีกครั้ง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เครื่องบินของโบอิงเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ราคาหุ้นบริษัทโบอิงร่วงลงเกือบ 5% ในวานนี้(12 มิ.ย.68) เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของบริษัทโบอิง
ในช่วง 9 เดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง ออร์ตเบิร์กได้นำพาบริษัทผ่านพ้นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลายอย่าง ทั้งเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ถาโถมเข้ามา
📍ย้อนวิบากกรรม ‘โบอิง’
โบอิง เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อแผงลำตัวของเครื่องบินรุ่น 737 MAX ที่เพิ่งส่งมอบให้สายการบินเกิดหลุดออกระหว่างการบิน ทำให้ซีอีโอของโบอิงในขณะนั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง และโดนตรวจสอบด้านความปลอดภัย และปัญหาในการผลิตของบริษัทอย่างเข้มงวดอีกครั้ง
นอกจากนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ช่างเครื่องประกาศหยุดงานประท้วงจน ทำให้สายการผลิตเครื่องบินส่วนใหญ่ต้องหยุดชะงัก และมีปัญหาด้านการผลิต และสูญเสียบุคลากรในส่วนปฏิบัติการด้านการป้องกันประเทศ
ยิ่งไปกว่านั้น โบอิงยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ในเรื่องความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน (Air Force One) ลำใหม่ และยังถูกสำนักงานการบินและอวกาศแห่งชาติ (NAO) ตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์อีกด้วย รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของโบอิง
1
เรื่องนี้กลายเป็นความท้าทายสำหรับสถานะ “การเงิน” ของบริษัท เนื่องจากในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทโบอิงได้รายงานผลขาดทุนสุทธิเกือบ 12,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นตัวเลขขาดทุนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563
อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่โบอิงก็ใช้เงินสดไปน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ โบอิงยังระบุว่ามียอดคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่กว่าครึ่งล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี
โฆษณา