14 มิ.ย. เวลา 05:47 • ข่าวรอบโลก

✈️ เครื่องบินอินเดียตกสยอง เสียชีวิต 241 ราย – ‘Black Box’ คือกุญแจไขปริศนา

Air India crash: Black boxes will give investigators more certainty of what happened
📍 เกิดอะไรขึ้น?
เกิดเหตุเครื่องบิน Boeing 787-8 Dreamliner เที่ยวบินของ Air India ตกลงใส่หลังคาหอพักแพทย์ในเมือง Ahmedabad ประเทศอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 241 ราย นับเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ
📦 ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การกู้คืนกล่องดำทั้ง 2 กล่อง — เครื่องบันทึกเสียงห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder) และเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (Flight Data Recorder) — ถือเป็นกุญแจสำคัญในการไขข้อเท็จจริงช่วงนาทีสุดท้ายของเที่ยวบินที่มีการแจ้ง Mayday ต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินภายในไม่ถึง 1 นาทีหลังเครื่องขึ้น
🧠 ใครบ้างที่ร่วมสืบสวน?
🔍 คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของอินเดีย (AAIB)
🇺🇸 คณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐ (NTSB)
🏭 บริษัท Boeing และ GE Aerospace (ผู้ผลิตเครื่องยนต์)
🌐 ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
ทั้งนี้ ทีมสืบสวนจะจัดประชุมเชิงเทคนิคเพื่อแบ่งทีมตรวจสอบจุดต่างๆ เช่น เครื่องยนต์ กล่องดำ โครงสร้างเครื่องบิน และจะสอบประวัติการบิน-สภาพร่างกายของนักบินอย่างละเอียด
🕹️ Dreamliner – เครื่องบินแห่งความหวังหรือความเสี่ยง?
แม้ Boeing 787-8 Dreamliner จะถูกยกย่องว่าเป็นเครื่องบินสมัยใหม่ที่ปลอดภัยสูง ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านผู้โดยสารใน 14 ปีที่ผ่านมา แต่ Boeing กลับเผชิญมรสุมจากกรณี 737 MAX ในอดีต และล่าสุดยังมีเหตุปลั๊กประตูหลุดกลางอากาศในรุ่น 737-9 อีกด้วย
💬 “นี่คือช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของ Boeing” – Peter Goelz อดีตผู้บริหาร NTSB กล่าว
🔮 สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้?
⏳ หากข้อมูลในกล่องดำไม่เสียหาย นักวิเคราะห์เชื่อว่า เราอาจทราบสาเหตุของอุบัติเหตุภายใน 1 สัปดาห์
🧾 ข้อมูลจากเสียงในห้องนักบินจะช่วยระบุสิ่งที่นักบินพยายามรับมือช่วงวินาทีสุดท้าย และเหตุผลของการส่ง Mayday
🇹🇭 ผลกระทบต่อประเทศไทย
📈 ความกังวลต่อความปลอดภัยการบินทั่วโลกอาจกระตุ้นให้หน่วยงานกำกับดูแลในไทย อย่าง กพท. หรือกรมการบินพลเรือน ตรวจสอบความพร้อมของสายการบินและสนามบินภายในประเทศอย่างเข้มข้นขึ้น
✈️ สายการบินที่ใช้เครื่อง Boeing อาจถูกจับตามองและต้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ทั้งในสายตานักลงทุนและผู้โดยสาร
💥 หุ้นไทยที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
มีหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (SET/mai) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินโดยตรงและอ้อม ซึ่งอาจได้รับผลกระทบเชิงลบหรือบวก ดังนี้:
🔴 หุ้นกลุ่มธุรกิจการบินและสนามบิน – เสี่ยงถูกกดดันจากความกังวลด้านความปลอดภัย
📉 AAV (Asia Aviation) – สายการบินต้นทุนต่ำ อาจเผชิญแรงขายจากความกังวลด้านภาพลักษณ์และต้นทุนประกันภัย
📉 BA (Bangkok Airways) – แม้ไม่ใช้ Boeing 787 แต่ความหวาดกลัวของผู้โดยสารอาจกดดันยอดจอง
📉 AOT (Airports of Thailand) – ความกังวลด้านความปลอดภัยในสนามบินต้นทางและปลายทาง อาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานจากมาตรการเข้มงวด
🟡 หุ้นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น อาหารบนเครื่อง ซ่อมบำรุง
🛠️ BAFS (ธุรกิจบริการน้ำมันการบิน) – หากความถี่การบินลดลงในระยะสั้น อาจกระทบรายได้จากการเติมน้ำมัน
🍱 NRF (ธุรกิจอาหารแช่แข็ง-พร้อมทาน) – หากมีสัญญากับสายการบิน อาจได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อลดลง
🟢 หุ้นที่อาจได้อานิสงส์ หากตลาดปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย
💡 SAT (Somboon Advance Technology – ธุรกิจชิ้นส่วน) และ
⚙️ STANLY (Thai Stanley Electric – ระบบไฟเครื่องบิน/รถ) – หากมีการลงทุนเพิ่มระบบความปลอดภัยในเครื่องบิน อาจเป็นโอกาสในการขายชิ้นส่วนหรือระบบ
📌 สรุป
เหตุการณ์เครื่องบินตกในอินเดียครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญที่เขย่าอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ทั้งในเชิงความมั่นใจของผู้โดยสาร มาตรฐานด้านความปลอดภัย และแรงกดดันต่อบริษัทผู้ผลิตอย่าง Boeing รวมถึงกระทบต่อผู้ประกอบการในตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจการบินด้วยเช่นกัน
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#AirIndiaCrash #Boeing787 #IndiaPlaneCrash #BlackBoxInvestigation #Cataclysm #ภัยพิบัติทางอากาศ #โลกสะเทือน #ข่าวต่างประเทศ #StockAtlasAnalysis #หุ้นไทย
📰 Reference:
RNZ – Air India crash: Black boxes will give investigators more certainty of what happened, experts say

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา