เมื่อวาน เวลา 10:30 • สุขภาพ

"สามเหลี่ยมสมดุล" คืออะไร? ทำไมถึงช่วยเด็กลดภาวะอ้วน-น้ำหนักเกินได้

สามเหลี่ยมสมดุลคืออะไร?
"สามเหลี่ยมสมดุล" เป็นแนวคิดของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการดูแลสุขภาวะของเด็ก ที่สามารถช่วยลดปัญหาภาวะอ้วนและน้ำหนักเกินในเด็กวัยเรียนได้ โดยมีองค์ประกอบ 3 ด้านในการให้เด็กปรับพฤติกรรมจนเกิดความสมดุล คือ
1.อาหาร มีการรับประทานอาหารที่ดี ปลอดภัย ตามหลักโภชนาการ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และเป็นไปตามสัดส่วน 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วนและข้าวหรือแป้ง 1 ส่วน
2.การเล่นขยับร่างกาย จะช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตที่แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เกิดการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินที่ทำให้อ้วน โดยควรออกกำลังกาย 60 นาทีต่อวัน
3.การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ประมาณ 9-12 ชั่วโมง จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซม หลั่งฮอร์โมนเจริญเติบโตได้ดี
ทำไมต้องใช้สามเหลี่ยมสมดุล?
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. และประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส. กล่าวว่า เพราะโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของการเสียชีวิตทั้งหมดของคนไทยหรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจของไทยถึง 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะปัญหาอ้วนและน้ำหนักเกินถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของเด็ก จึงต้องปลูกฝังให้เด็กรู้จัก "สามเหลี่ยมสมดุล"
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ กรรมการกองทุน สสส. และประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส.
"จุดคานงัดสร้างการเปลี่ยนแปลงคือ การสร้างแรงจูงใจอย่างไรให้เด็กเกิดพฤติกรรมเหล่านี้ โดยเริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาลและประถม เพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดย สสส.พยายามสนับสนุนภาคีเครือข่ายในแต่ละพื้นที่ให้มีการดำเนินงานเรื่องสามเหลี่ยมสมดุลในสถานศึกษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งดูแลเด็กนักเรียนระหว่างวันและขยายไปสู่การทำความเข้าใจพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อให้การดูแลเด็กไปถึงที่บ้าน" นายวิเชษฐ์กล่าว
ผลลัพธ์ของสามเหลี่ยมสมดุลดีอย่างไร?
จากการลงพื้นที่ศึกษาดูงาน “ฮ่วมใจ๋ ฮ่วมก่อสุข (ภาวะ)” ถอดบทเรียนด้านการบริหารจัดการพื้นที่สุขภาวะในโรงเรียน ปรับพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพให้เด็กและเยาวชน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 9-11 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีโรงเรียนอนุบาลเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ จ.ลำปาง เป็นต้นแบบการดำเนินงานเรื่องสามเหลี่ยมสมดุล
นายสุนธร ธรรมสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ จ.ลำปาง กล่าวว่า โรงเรียนฯ ร่วมกับ สสส. พัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมห้องเรียนพ่อแม่ “The Parents Lab” ภายใต้แนวคิด “สามเหลี่ยมสมดุล” เน้นการมีส่วนร่วมทั้งในระดับนักเรียนและครอบครัว ดำเนินงานด้วยกลยุทธ์ 3 สร้างคือ
นายสุนธร ธรรมสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ จ.ลำปาง
1) สร้างความรู้ความเข้าใจ ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
2) สร้างพื้นที่ให้เด็กมีส่วนร่วมออกแบบสื่อและจัดกิจกรรมปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจผ่านการมีส่วนร่วม
3) สร้างเครือข่ายความร่วมมือ บ้าน โรงเรียน ชุมชน และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและขยายผลโครงการสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
ขณะที่จินตนา ปันดี หรือครูส้มโอ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ จ.ลำปาง กล่าวว่า โครงการสามเหลี่ยมสมดุลของ สสส. ดำเนินงาน 3 ด้าน คือ
1.อาหาร จะเน้นเรื่องผัก สัดส่วน 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน และข้าว 1 ส่วน สอดคล้องกับ สพฐ. เรื่องไทยสคูลลันช์ โดยจะให้ความรู้เด็กในคาบโฮมรูมตอนเช้า ชั่วโมงแนะแนว ผนวกสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น การงานอาชีพและสุขศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจความต้องการของเด็กว่าต้องการกินอะไร ชอบไม่ชอบผักอะไร แล้วมากำหนดเมนูร่วมกับกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง มาโหวตว่าจะทำเมนูอะไร
"การให้เด็กทานผักเพิ่มนั้น ต้องใช้เวลา และจะใช้วิธีค่อยๆ เพิ่ม เพื่อให้เด็กเริ่มเคยชิน โดยมีครูประจำชั้นควบคุมโภชนาการในการตักอาหาร ความสำเร็จคือเด็กมีการขอรับประทานผักเพิ่ม" จินตนากล่าว
จินตนากล่าวว่า เราได้รับความอนุเคราะห์จากทีมแพทย์ เพราะครูไม่ใช่หมอ เมื่อมีหมอมาร่วมเรื่องอาหารด้วย ผู้ปกครองก็จะร่วมมือและชื่นชม ส่วนที่โรงเรียนยังมีการขายขนมอยู่ ก็เป็นทางเลือก เพราะธรรมชาติเด็กทุกคนกินขนมได้ แต่ให้รู้จักเลือกผ่านเครื่องหมายทางเลือกโภชนาการ ไม่ใช่ว่าไม่ขายเลย
2.การขยับร่างกาย เนื่องจากโรงเรียนมีตึกเยอะ ก็จะใช้การเดินเรียนให้เด็กแอคทีฟตลอด ได้เรียนการออกกำลังกายเล่นกีฬา โดยมีสระว่ายน้ำที่ได้ออกกำลังกายทุกส่วนสัด มีการนำเต้นแอโรบิกตอนเคารพธงชาติจากทีมที่ชนะเลิศระดับจังหวัด และบูรณาการแต่ละวิชาให้เด็กมีการขยับร่างกาย อย่างตนสอนหากเห้นว่าเด็กเบื่อ ก็จะเปิดเพลงให้มีการเต้น
3.การพักผ่อน-การนอน เรามีอนามัยสายชั้นแต่ละชั้น มีครูประจำชั้น จะใช้กรุ๊ปไลน์ผู้ปกครองแต่ละชั้น สำรวจการนอน โดยให้ส่งภาพการนอนของเด็กว่านอนกี่โมง ทำให้เด็กตื่นตัวว่าจะต้องส่งรูปการนอนให้ครู นอนให้ครูดู ทำให้เกิดการฝึกเป็นนิสัย จากเดิมนอนสี่ทุ่มก็น้อยลง เป็นไม่เกิน 3 ทุ่ม ผู้ปกครองก็ให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูล อีกทั้งยังสอดแทรกเรื่องดื่มนมและแปรงฟันก่อนนอนด้วย
จินตนา ปันดี หรือครูส้มโอ
จินตนากล่าวอีกว่า โรงเรียนอนุบาลเขลางค์รัตน์อนุสรณ์ จ.ลำปาง สอนตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 มีนักเรียนรวม 3,329 คน มีเด็กอ้วน 20.6% การดูแลเด็กอ้วนจะมีการเสริมพิเศษ โดยเน้นออกกำลังกายให้เด็กเพิ่มการเคลื่อนไหว โดยครูพละชั่วโมงสุดท้ายก่อนเรียน อาจจะเริ่มต้น 15 นาที 20 นาที แล้วขยายเวลาเพิ่มไป ต่อมาจะลดอาหาร โดยคนดูแลคือครูประจำชั้นที่ตักอาหาร ซึ่งจะค่อยๆ ลด เริ่มจากลดแป้ง ลดขนมหวานของหวานน้ำอัดลม แต่ไม่ใช่หักดิบ เพราะบอกว่ากินไม่ได้ เด็กก็จะต้าน ต้องค่อยๆ ตักให้น้อยลง หรือเปลี่ยนว่าเป็นดื่มนมไหม
"โรงเรียนเราก็มีโครงการเด็กไทยอ่อนหวานก็มาประยุกต์ ให้เด็กดื่มน้ำหวานน้อยลง เราประเมินทุกภาคเทอม พบว่าช่วยลดเด็กอ้วนได้จริง ขณะนี้เหลือเด็กอ้วน 15%" จินตนากล่าว
จินตนากล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องขยายการดูแลไปที่บ้านและผู้ปกครองด้วย เพราะจะเกิดภาวะพ่อแม่ปู่ย่าตายายรังแกฉัน ว่าลูกฉันต้องได้กิน จึงต้องคอนเนคชั่นทำความเข้าใจผู้ปกครอง เพื่อให้ร่วมกันดูแลเด็กว่าเด็กอ้วนไม่ดีต่อสุขภาพ อย่างเคสน้องลาเต้ ชั้น ป.6 เมื่อปีที่แล้ว น้ำหนัก 120 กิโลกรัม มีภาวะคอดำ เริ่มมีอาการเหนื่อย น้องเสี่ยงภาวะเบาหวาน ขอให้พ่อแม่ฟังครู และขอดูแลน้องเป็นพิเศษ ก็ใช้สูตรนี้เรื่องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย สอดแทรกความรู้ ฝึกการเคลื่อนไหว
"อย่างตักข้าวก็ค่อยๆ ลดลง จากพูนจาน ครูขอให้ 2 ทัพพีนะอิ่มไหม ถ้าไม่อิ่มเอาให้อีกนิด แล้วมีการชมเชย ต้องมีจิตวิทยา จนล่าสุดน้องบอกเอาข้าวนิดเดียว สามารถลดลงเหลือ 96 กิโลกรัม ซึ่งผู้ปกครองก็ให้ความร่วมมือไปดูแลที่บ้าน ทำให้ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการเชื่อมโยง ครู เด็ก ผู้ปกครอง ล้อกันเข้ากับสามเหลี่ยมสมดุล" จินตนากล่าว
สามเหลี่ยมสมดุลจึงเป็นอีกแนวคิดที่ สสส.จะสื่อสารและสนับสนุนให้เกิดการกระจายการดำเนินงานไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มการดูแลเด็กวัยเรียนให้มีสุขภาวะที่ดี ลดปัจจัยเสี่ยงโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน และความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคตต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยเติบโตขึ้นมาเป็นประชากรที่มีคุณภาพ
โฆษณา