เมื่อวาน เวลา 14:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

เส้นทางนิวเคลียร์อิหร่าน​ จาก ปรมาณูเพื่อสันติ

สู่สงครามเงาในศตวรรษที่ 21​ 🏭⚡ 💣 🇮🇹
หากถามว่าอิหร่านได้เทคโนโลยีนิวเคลียร์มาจากไหน หลายคนอาจไม่เชื่อว่า จุดเริ่มต้นแท้จริงคือ 💢สหรัฐอเมริกา💢💢ต่างหาก▪️▪️◾
ที่นำพาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 5 เมกะวัตต์มาตั้งไว้กลางกรุงเตหะรานให้ใช้เพื่อการวิจัย ตั้งแต่ปี 1957 ภายใต้โครงการที่ฟังดูบริสุทธิ์ไร้พิษภัยในชื่อ "ปรมาณูเพื่อสันติ (Atoms for Peace)" ของประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ ท่ามกลางบรรยากาศสงครามเย็นที่มหาอำนาจโลกแข่งกันขยายอิทธิพล
(ทำไมการผลิต นิวเคลียร์​จึงเป็นเรื่องยาก
ใครจะเป็นประเทศที่ 🔸N th🔸 ⁉️ 💢)​
💥 ในห้วงเวลานั้น พระเจ้าชาห์ เรซา ปาห์ลาวี แห่งอิหร่าน คือนายห้างหมายเลขหนึ่งของวอชิงตันในตะวันออกกลาง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเสียจนแทบจะนับเป็นสมาชิกไม่เป็นทางการของโลกตะวันตก รัฐบาลสหรัฐฯ ไว้วางใจอิหร่านไม่ต่างจากอิสราเอล มิตรแท้เพียงหยิบมือท่ามกลางภูมิภาคอัน
แหลมคมทางการเมือง
อิหร่านในยุคทองของพระเจ้าชาห์มั่งคั่งเหลือล้นจากขุมทรัพย์ใต้ผืนทราย รายได้จากน้ำมันมหาศาลหลั่งไหลเข้าคลังแผ่นดินจนเศรษฐกิจเฟื่องฟูอย่างไม่เคยมีมาก่อน พระองค์ผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลเกินกาลสมัย เลือกลงทุนในสิ่งที่ประเทศโลกที่สามส่วนใหญ่
มิอาจเอื้อม​ พัฒนาโครงการนิวเคลียร์อย่างเต็มกำลัง
พระเจ้าชาห์ทุ่มงบประมาณนับไม่ถ้วน ส่งนักฟิสิกส์และวิศวกรรุ่นใหม่ไปเล่าเรียนวิชานิวเคลียร์ ณ สถาบันระดับโลกอย่าง MIT สหรัฐอเมริกา ควบคู่
กับการเจรจาซื้อหาเทคโนโลยีและเชื้อเพลิงยูเรเนียมเข้มข้นจากชาติมหาอำนาจในยุโรป
ตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนีตะวันตก ฝรั่งเศส
หรือแม้แต่จากอเมริกาเอง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้น
แห่งเส้นทางนิวเคลียร์ที่พลิกโฉมอนาคต
ของอิหร่านไปตลอดกาล
ความรุ่งโรจน์ต้องจบลงเมื่อปี 1979 หลังการ
ปฏิวัติอิสลาม โดย อยาตอลเลาะห์ โคไมนี
ล้มล้างระบอบกษัตริย์ เปลี่ยนประเทศเข้าสู่
การปกครองโดยระบอบศาสนา
ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตนับแต่นั้น แต่สิ่งหนึ่งที่อิหร่านไม่เคยทอดทิ้งคือ "โครงการนิวเคลียร์" ที่ยังดำเนินต่อ
แบบเงียบๆ สั่งสมองค์ความรู้ พัฒนาเครื่องปั่นเหวี่ยงยูเรเนียม ซ่อนเร้นใต้ภูเขาและทะเลทราย
💥 แม้จะเจอทั้งการคว่ำบาตร การกดดัน และแทรกแซงสารพัด แต่อิหร่านก็ยังไม่ยอมถอย
กระทั่งเกิดเหตุการณ์สำคัญใน โรงงานนาตันซ์
ถือเป็นศูนย์กลางแยกไอโซโทปของชาติ ถูกลอบโจมตีหลายครั้ง ตั้งแต่ปฏิบัติการไซเบอร์ Stuxnet
ในปี 2010 ที่ไวรัสของอิสราเอลและอเมริกาทำลายเครื่องปั่นเหวี่ยงกว่า 1,000 ตัว และต่อด้วยการวางระเบิดภายในโรงงานในปี 2021 ทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้องเครื่องปั่นเสียหายกว่าครึ่ง
รวมถึงการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์
นิวเคลียร์ระดับหัวกะทิของอิหร่านหลายคน
ตั้งแต่ มาซูด อาลี โมฮัมมาดี ไปจนถึง
ฟาครีซาเดห์ ในปี 2020
ขณะเดียวกัน การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถูกจำกัดตามข้อตกลง JCPOA ปี 2015 (อิหร่าน, สหรัฐ, EU, จีน, รัสเซีย) แต่เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวในปี 2018
อิหร่านก็ค่อยๆ กลับมาเดินหน้าโครงการอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันโครงการ​นิวเคลียร์​▪️▪️◾
อิหร่านอยู่ในขั้นไหน​ 💢💢💢
แต่แทนที่จะหยุด อิหร่านกลับเร่งพัฒนา
เครื่อง IR-6.​ทรงพลังกว่าเดิมถึง 10 เท่า และปฏิรูปศูนย์ปฏิบัติการใต้ดินให้แน่นหนายิ่งกว่าเก่า
แม้จะประกาศว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนเป็นไปเพื่อการแพทย์และพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่อิหร่านเดินหน้าสะสม ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูง (HEU) ซึ่งเกินมาตรฐานพลเรือนอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก IAEA (สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ) รายงานว่า ณ ต้นปี 2024 อิหร่านสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ 60% แล้วกว่า 140 กิโลกรัม ซึ่งใกล้ระดับที่ใช้ผลิตอาวุธ (90%) อย่างน่ากังวล หากเสริมสมรรถนะต่อจะสามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ภายใน 12–18 วัน​ จำนวนยูเรเนียมดิบ
ก็ยังมีสะสมอีกกว่า 5,000 กิโลกรัม
การโจมตีครั้งล่าสุด​ ▪️▪️◾
กระทบแค่ไหน​ 🚀💢💢💢
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2025 เกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในชื่อปฎิบัติการ​ "Rising Lion"
https://www.facebook.com/share/p/18wzSSFMrD/ เป็นการโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่านครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี เป้าหมาย
คือ​ โรงงานนาตันซ์​ และศูนย์สนับสนุนต่างๆ ทั้งการโจมตีทางอากาศ การแทรกแซงไซเบอร์ และข่าวกรองจากภายใน ส่งผลให้ โรงงานผลิตระดับ Pilot Fuel Enrichment (PFEP)บนพื้นดินได้รับความ
เสียหายหนัก เครื่องปั่น IR-4 และ IR-6 หยุดทำงาน ระบบไฟฟ้าดับสนิท แม้แต่โครงสร้างสนับสนุนก็ถูกทำลายไปจำนวนมาก
💥 แม้ผลกระทบจะรุนแรงและสะเทือนโครงการระดับนำร่องของอิหร่านได้จริง แต่แก่นแท้ของโครงการนิวเคลียร์ที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ดินหลายชั้น
รวมถึงอุโมงค์ลึกและเครื่องปั่นรุ่นล่าสุดยังคงอยู่รอด ทำให้การโจมตีครั้งนี้ ลดระดับความสามารถเฉพาะในระยะสั้น และเปิดโอกาสให้อิหร่านเร่งเสริม
กำลังต่ออย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า อิหร่านจะสามารถฟื้นกำลังการผลิตยูเรเนียมเข้มข้นสูงระดับ 60% ได้ใกล้เคียงเดิม พร้อมเดินหน้าโครงการพัฒนาเครื่อง IR-9 และ IR-10 ที่สามารถเสริมสมรรถนะได้เร็วกว่ารุ่น IR-6 ปัจจุบันหลายเท่าตัว
ขณะเดียวกัน ปฎิบัติ​การ Rising Lion ยังมีนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องจับตา เพราะสะท้อนว่า ศูนย์ปฏิบัติการบนพื้นดินของอิหร่านยังมีช่องโหว่ เปิดโอกาสให้มหาอำนาจในภูมิภาคและพันธมิตรตะวันตกขยายอิทธิพลกดดันต่อไปได้ และอาจกระตุ้นให้อิหร่านเร่งเสริมเขี้ยวเล็บใต้ดิน และ
พัฒนาเทคโนโลยีแบบ 💢รู้ทันภัยคุกคาม💢
เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม
เส้นทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน
จึงเปรียบได้กับสงครามเงา
ที่ยังไม่รู้จุดสิ้นสุด
แม้จะโดนถล่มกี่ครั้งก็ตาม
การหยุดโครงการให้สิ้นซากในประเทศ
ที่มีองค์ความรู้ คน และทุนทางยุทธศาสตร์ระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจยิ่งทำให้แรงขับเคลื่อน
เดินหน้าต่อไปอย่างดุดันกว่าเดิม​
Source​▪️▪️◾
📚📕Countdown​ZeroDay "Stuxnet"
➖➖➖➖➖➖➖➖369/2025​➖➖➖➖➖
(รวมบทความ นานา สารพันเรื่องนิวเคลียร์​ 🔹)
ถ้าปากีสถาน​ 🇵🇰 🆚 🇮🇳 เปิดสงครามนิวเคลียร์
เต็มรูปแบบ โลกจะเป็นอย่างไร​ ❓
Game of Drones 🇮🇷 🇮🇷 🇮🇷
Iran's 🟢⚪🔴 ▪️▪️🚡
(ขีปนาวุธ​อิหร่าน​ 🇮🇷 🆚
ระบบป้องกันอิสราเอล​🇮🇱)​
โฆษณา