จีนประกาศชัด พร้อมยืนเคียงข้างอิหร่าน
ตะวันออกกลางเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์
โลกกลับมาสะบัดร้อน สะบัดหนาว ด้วยไข้สงครามระบาดกันอีกแล้ว หลังจากที่ทั้งอิสราเอล และอิหร่าน ยิงขีปนาวุธ ตอบโต้กันอย่างดุเดือดตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้รู้กันไปเลยว่า พวกรุ่นใหญ่ๆ เขายิงกันแบบเปิดหน้า ไม่ต้องมาเสียเวลาแอ๊บ กันอีกต่อไป
ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่า อิสราเอลนั้นมีลูกพี่ใหญ่ สหรัฐอเมริกาหนุนหลังอยู่แล้วเต็มกำลัง ไม่ว่าจะผิดหรือถูก
แม้โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะทำทีออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต่างหากที่เป็นคนห้ามเนทันยาฮูว่าอย่าเพิ่งโจมตีก่อน นั่น นี่ นู่น และไม่เกี่ยวกับแผนการของอิสราเอลแต่อย่างใด แต่อ้าปากไม่ทันไร ก็เห็นลิ้นไก่ ด้วยการขู่อิหร่านว่าให้ทำข้อตกลงกับสหรัฐซ่ะ ก่อนที่จักรวรรดิอิหร่านจะเหลือแต่ชื่อในหน้าประวัติศาสตร์
จะเห็นได้ว่า สถานการณ์ของอิหร่าน ไม่สู้ดีนัก เสียเปรียบทุกประตู เพราะพันธมิตรอิหร่านหลายชาติ ทั้งซีเรีย เลบานอน และ เยเมน ไม่มีเสถียรภาพ และ ความมั่นคงพอที่จะมาช่วยอิหร่านรบได้ในศึกนี้
อีกทั้งอิหร่านยังมีปัญหาสังคม และ เศรษฐกิจ ที่กัดเซาะความแข็งแกร่งจากภายในมานานหลายปีสังเกตได้จากการที่อิสราเอลแอบมาโจมตีถึงในถิ่นอิหร่านได้หลายครั้ง แถมเก็บเป้าหมายคนสำคัญได้แทบทุกครั้งที่บุกเข้ามา แล้วถ้าอิสราเอลยกพลมาแบบจัดเต็มอัตราศึก 100% จะป้องกันไหวหรือ?
แต่แล้ว ก็มีแถลงการณ์จากทางการจีนว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ได้ต่อสายตรงคุยกับคู่เจรจาทั้งฝ่ายอิสราเอล และ ฝ่ายอิหร่าน เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันเสาร์ (14 มิ.ย. 25) ที่ผ่านมา
โดยนาย หวัง อี้ ได้กล่าวกับ นาย อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านว่า รัฐบาลปักกิ่งจะสนับสนุนการปกป้องอธิปไตยของอิหร่านในการรักษาสิทธิ์และผลประโยชน์อันชอบธรรม และความปลอดภัยของประชาชนในประเทศ และแสดงความเห็นว่า การโจมตีโครงสร้างนิวเคลียร์ของอิหร่าน สร้างบรรทัดฐานที่อันตรายที่จะก่อให้เกิดผลร้ายแรงในอนาคต
นอกจากนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ยังได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับที่กล่าวถึงบทสนทนาระหว่าง นายหวังอี้ กับนาย กิเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝั่งอิสราเอล โดยกล่าวหาว่าการโจมตีของทางฝั่งอิสราเอล ว่าได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ จากการโจมตีอิหร่านด้วยกำลังทหาร เป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ ในขณะที่การใช้วิธีทางการทูตรในการแก้ปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านยังไม่แล้วเสร็จ และการใช้กำลังไม่สามารถนำพาสันติภาพที่ยั่งยืนได้
ทั้งนี้ ทางการจีนยินดีเป็นคนกลางในการหาทางออกเชิงสร้างสรรค์ แต่จากแถลงการณ์ทั้ง 2 ฉบับของรัฐบาลจีน บอกย้ำอย่างชัดเจนว่าจีนเลือกที่จะยืนข้างอิหร่าน และเรียกร้องให้อิสราเอลอย่ายกระดับความรุนแรงในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ให้ตึงเครียดมากไปกว่านี้
หากไม่นับรัสเซียแล้ว จีนถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดชาติหนึ่งของอิหร่าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า และ การเมืองในตะวันออกกลาง และยังเป็นชาติหนึ่งในจำนวนไม่กี่ชาติบนโลกที่กล้าวิจารณ์อิสราเอลตรงๆ ในประเด็นเรื่องการใช้กำลังทหารในกาซ่า รวมถึงการเปิดฉากโจมตีในดินแดนอิหร่านในครั้งนี้ด้วย
ส่วนในแง่มุมความแข็งแกร่งด้านการทหาร มีข้อมูลว่า จีนเป็นชาติที่มีอัตราการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลก โดยปัจจุบัน จีนมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ราว 600 ลูก แม้จะเทียบไม่ได้เลยกับจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่สหรัฐถือครองอยู่ตอนนี้ที่ 3,700 ลูก
แต่ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพนานาชาติแห่งกรุงสตอกโฮล์ม เปิดเผยว่า จีนสามารถผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึง 100 ลูกภายในเวลาเพียง 1 ปี และสร้างขีปนาวุธพิสัยข้ามทวีปได้แล้วถึง 350 ลูก นับเป็นอัตราการขยายขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าจีนจะสามารถครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในปริมาณที่ทัดเทียมกับ รัสเซีย และ สหรัฐอเมริกา ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า
แต่นั่นมันอีก 10 ปีข้างหน้า ตอนนี้อิสราเอล - อิหร่าน ยิงขีปนาวุธใส่กันหูดับ ซึ่งถ้า สหรัฐ กับ จีนจะกระโดดลงมาเล่นด้วยตอนนี้ อิสราเอลก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ใจถึง พึ่งได้จริงรึเปล่า ก็วัดกันตอนนี้แหล่ะ
และเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดหน้าสงครามการค้ากับจีน และบีบให้พันธมิตรต้องเลือกข้าง และต้องอยู่ข้างสหรัฐเท่านั้น การแบ่งฝ่ายจะชัดเจน และพร้อมบวกได้ตลอดเวลา เรื่องระยะยิงขีปนาวุธไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ เราจะรับแรงกระแทกจากสงครามกันอย่างไรต่อจากนี้
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 62
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
