Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
psychology888
•
ติดตาม
18 มิ.ย. เวลา 02:35 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เทคโนโลยีกับการรักษาโรคจิตเภท: ประสบการณ์จริงจากการรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เรามักได้ยินเรื่องนวัตกรรมด้านสุขภาพจิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชันติดตามอารมณ์ การบำบัดผ่านออนไลน์ หรือแม้แต่การใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ป่วย แต่หนึ่งในเทคโนโลยีที่อยู่มานานหลายสิบปีและยังถูกใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ การรักษาด้วยไฟฟ้า (Electroconvulsive Therapy: ECT)
แม้ว่าชื่อของมันจะฟังดูน่ากลัว แต่ในหลายกรณีโดยเฉพาะโรคจิตเภทในระดับรุนแรง ECT กลับเป็นความหวังสุดท้ายที่ให้ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ฉันเขียนบทความนี้เพื่อแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง ในฐานะผู้ป่วยโรคจิตเภทที่เคยได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ และเพื่อเสนอภาพที่เป็นกลางและมีข้อมูลทางวิชาการประกอบ
---
ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ ECT
การรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT) คือกระบวนการที่กระแสไฟฟ้าถูกปล่อยเข้าสู่สมองในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดอาการชักอย่างควบคุม จุดประสงค์หลักคือการปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยา หรือมีอาการรุนแรง เช่น โรคซึมเศร้าแบบรุนแรง โรคอารมณ์สองขั้ว และโรคจิตเภท
ในปัจจุบัน ECT ถูกทำอย่างปลอดภัย ภายใต้การวางยาสลบและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งต่างจากภาพในสื่อภาพยนตร์หรือข่าวในอดีตอย่างสิ้นเชิง
---
ประสบการณ์ส่วนตัวกับการรักษา
ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทในวัย 20 ต้น ๆ อาการหลักคือหูแว่ว คิดว่ามีคนติดตาม ควบคุมตนเองไม่ได้ และใช้ชีวิตประจำวันลำบากมาก หลังจากใช้ยาต้านโรคจิตอยู่นานหลายเดือน อาการก็ยังไม่ทุเลาลง แพทย์จึงเสนอทางเลือก ECT
ในช่วงแรก ฉันรู้สึกกลัวและต่อต้านอย่างมาก เพราะมีภาพจำจากหนังและข่าวเก่า ๆ ว่า ECT คือการ "ช็อต" แบบทรมาน แต่ทีมแพทย์อธิบายอย่างชัดเจนถึงกระบวนการ ความปลอดภัย และโอกาสของผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ทำให้ฉันตัดสินใจลองดู
การรักษาใช้เวลาครั้งละประมาณ 30 นาที รวมทั้งการวางยาสลบและฟื้นตัวหลังการรักษา โดยฉันต้องรับการ ECT สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลาทั้งหมด 6 สัปดาห์
---
ผลลัพธ์และผลกระทบข้างเคียง
ผลลัพธ์ที่ได้เกินคาด — เสียงแว่วที่เคยรบกวนเริ่มจางหาย ความคิดสับสนลดลง และฉันเริ่มกลับมามีสมาธิและเชื่อมต่อกับความเป็นจริงได้มากขึ้น แม้ไม่ใช่การรักษาหายขาด แต่ ECT เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ยาที่เคยใช้ไม่ได้ผล กลับเริ่มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แน่นอนว่า ECT มีผลข้างเคียง เช่น ความจำระยะสั้นที่หายไปในช่วงไม่กี่วันหลังการรักษา ความง่วงหลังฟื้นยาสลบ และความสับสนในบางครั้ง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพโดยรวม ฉันรู้สึกว่าคุ้มค่า
---
มุมมองวิชาการและสังคม
ในงานวิจัยหลายชิ้น เช่น บทวิเคราะห์จาก The Lancet Psychiatry (2020) และ American Psychiatric Association Guidelines ต่างยืนยันว่า ECT เป็นวิธีที่ได้ผลในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยารักษา โดยเฉพาะในกรณีโรคจิตเภทที่มีอาการดื้อยา หรือมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือสังคมยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ ECT โดยเฉพาะในประเทศไทย ยังมีภาพจำด้านลบที่ทำให้ผู้ป่วยหลายคนลังเลที่จะเข้ารับการรักษา ทั้งที่ในความเป็นจริง ECT อาจเป็นทางรอดเดียวในบางกรณี
---
บทสรุปจากใจผู้ผ่านประสบการณ์
การรักษาด้วยไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญภายใต้แนวทางวิชาชีพ มันคือ “เทคโนโลยีทางการแพทย์” ที่จับต้องได้และมีประโยชน์อย่างแท้จริง
ในฐานะอดีตผู้ป่วย ฉันอยากส่งเสียงเล็ก ๆ ว่า อย่าปิดกั้นโอกาสในการฟื้นฟูเพียงเพราะความกลัวหรืออคติ หากคุณหรือคนใกล้ชิดกำลังเผชิญกับโรคจิตเภท และวิธีอื่นไม่เห็นผล ECT อาจเป็นก้าวใหม่ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะช่วยได้จริง
จิตวิทยา
เทคโนโลยี
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย