เมื่อวาน เวลา 11:45 • ไลฟ์สไตล์

กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ เรื่องจริงที่คนรักการกินควรรู้!

ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูงและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายคนไม่ชอบ แต่ก็มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากทีเดียว
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ? คนรักสุขภาพก็กินทุเรียนได้
เมื่อพูดถึง "ทุเรียน" หลายคนอาจนึกถึงกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ รสชาติหวานมันที่ตราตรึง ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุเรียนจึงไม่ใช่แค่ผลไม้ธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรม การเกษตร และเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย จนได้รับสมญานามว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้" ไม่เพียงแค่ความอร่อยเท่านั้น ทุเรียนยังเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากอีกด้วย
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ เรื่องจริงที่คนรักการกินควรรู้!
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทุเรียนให้มากยิ่งขึ้น ทำความเข้าใจว่าทุเรียนมีประโยชน์อย่างไร และข้อเสียของทุเรียนหากกินในปริมาณที่มากเกินไป พร้อมคำแนะนำการกินทุเรียนอย่างถูกวิธี และรวมความเชื่อเกี่ยวกับการกินทุเรียนอีกมากมาย
ทุเรียนมีประโยชน์อย่างไร
ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูงและมีกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายคนไม่ชอบ แต่ก็มีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย โดยทุเรียนพันธุ์ต่างกัน ให้พลังงานต่างกัน การกินทุเรียนให้มีประโยชน์ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วทุเรียน 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงาน 174 กิโลแคลอรี เทียบโดยใช้ปริมาณของเนื้อผลไม้ 100 กรัม มีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้
  • ไขมัน
  • โปรตีน
  • วิตามินเอ
  • คาร์โบไฮเดรต
  • เส้นใย
  • วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6 และ 9
  • วิตามินซี
  • แมกนีเซียม
  • แมงกานีส
  • แคลเซียม
  • ธาตุเหล็ก
  • ฟอสฟอรัส
  • โพแทสเซียม
  • โซเดียม
  • สังกะสี
ทุเรียนส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร
ทุเรียนไม่ได้เป็นศัตรูของสุขภาพอย่างที่ใครหลายคนคิด การกินทุเรียนให้มีประโยชน์ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่กินในปริมาณที่เหมาะสม มาดูกันว่าทุเรียนมีประโยชน์-โทษอะไรบ้าง ดังนี้
ประโยชน์ของทุเรียน
  • ใยอาหารในทุเรียนช่วยลดอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น
  • ในทุเรียนมีวิตามิน C และ Polyphenols ช่วยชะลอวัยและต้านอนุมูลอิสระ
  • การรับประทานทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเรื่องการหด คลายตัวของกล้ามเนื้อ
  • สารอาหารในทุเรียนช่วยบำรุงสายตา สมอง ผิวพรรณ และบำรุงเลือด
  • ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตสูง เหมาะสำหรับคนที่ใช้พลังงานเยอะ
ข้อเสียของทุเรียน
  • ทุเรียนเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง หากกินในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้อ้วนได้
  • น้ำตาลสูง ไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
  • การกินทุเรียนคู่กับแอลกอฮอล์อาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต
  • หลังกินทุเรียนบางคนอาจมีอาการแน่นท้อง เพราะระบบย่อยอาหารทำงานหนัก
อ่านเกี่ยวกับการขับลมในท้องได้ที่นี่ : 10 วิธีไล่ลมในท้อง แก้ท้องอืด แน่นท้องที่ทำตามง่าย เห็นผลจริง : PPTVHD36
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ
  • ใครที่อยากลดพุงเร่งด่วนไม่ควรกินทุเรียนเกิน 1 พู หรือประมาณ 2 เม็ดต่อครั้ง และ ไม่ควรกินทุเรียนเยอะเกิน 3 วันต่อสัปดาห์ หากอยากกินมากกว่านั้น แนะนำให้เลือกทุเรียนที่ยังไม่สุกจัดหรือเละเกินไป เพราะยิ่งสุกรสชาติจะยิ่งหวานจัด ซึ่งหมายถึงน้ำตาลและแป้งที่สูงขึ้น ควรเลือกทุเรียนแบบกึ่งห่ามจะดีกว่า เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่า
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต เบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือด ยังคงสามารถกินทุเรียนได้ แต่ควรลดปริมาณลงจากที่คนทั่วไปกิน และควรระวังมากเป็นพิเศษ
  • กินทุเรียนตอนไหนไม่อ้วน? แนะนำว่าควรกินทุเรียนตอนท้องว่าง โดยหลังจากกินแล้วควรปรับปริมาณข้าวหรืออาหารจำพวกแป้งในมื้อหลักให้ลดลง เพราะทุเรียนให้พลังงานสูง หากกินข้าวตามปกติจะทำให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็น
  • กินทุเรียนตอนเช้าได้ไหม? กินได้ แต่ไม่ควรกินเยอะ และควรกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ควรคู่ไปด้วย นอกจากนี้ ถ้ากินทุเรียนตอนเช้าแล้ว ช่วงมื้อกลางวันควรกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเพื่อรักษาสุขภาพ
  • การกินทุเรียนก่อนนอนเป็นสิ่งไม่แนะนำอย่างยิ่ง เพราะทุเรียนให้พลังงานเยอะมาก หากกินแล้วไม่ได้เผาผลาญพลังงานต่อ อาจส่งผลให้อ้วนได้
  • หลังจากกินทุเรียนแล้วควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เช่น การเดินเร็ว เพื่อช่วยเผาผลาญน้ำตาลที่ได้รับ
  • ไม่ควรดื่ม น้ำอัดลม หรือ กาแฟ ตามหลังการกินทุเรียน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีทั้งน้ำตาลสูงและฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ซึ่งอาจทำให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป
  • ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่ร่างกายต้องการ เพื่อขับโซเดียมที่มากเกินไปจากการกินทุเรียน
สำหรับใครที่สนใจว่าเป็นโรคไตกินอะไรได้บ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ 100 อาหารโรคไตมีอะไรบ้าง คนเป็นโรคไตควรงดอาหารแบบไหน?
ทำไมถึงห้ามกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์
กินทุเรียนอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ เรื่องจริงที่คนรักการกินควรรู้!
กินทุเรียนแล้วห้ามกินอะไร? สิ่งที่ห้ามกินกับทุเรียนเลยคือแอลกอฮอล์ เพราะทุเรียนมีสารซัลเฟอร์ (กำมะถัน) ที่ขัดขวางกระบวนการกำจัดแอลกอฮอล์ในร่างกาย อาจทำให้แอลกอฮอล์ตกค้าง ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง เช่น ระบบหายใจล้มเหลว หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
ความเชื่อเกี่ยวกับการกินทุเรียน มีอะไรบ้าง
ทุเรียนเป็นของร้อน ต้องกินคู่กับมังคุด
มีความเชื่อกันในแพทย์แผนจีนว่า การรับประทานมังคุดร่วมกับทุเรียนสามารถช่วย "ปรับสมดุลธาตุ" ของร่างกายได้ เนื่องจากทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน ขณะที่มังคุดมีฤทธิ์เย็น ซึ่งเชื่อว่าช่วยลดความร้อนจากทุเรียนได้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันแน่ชัดว่าได้ผลจริงหรือไม่ จึงถือเป็นเพียงความเชื่อดั้งเดิมในภูมิปัญญาท้องถิ่นมากกว่า
นอกจากนี้ เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนมักบริโภคมังคุดควบคู่กับทุเรียน อาจเป็นเพราะทั้งสองชนิดมีฤดูเก็บเกี่ยวที่ใกล้เคียงกัน จึงมักวางขายพร้อมกันในท้องตลาด ทำให้เกิดการจับคู่อย่างแพร่หลาย และกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
ห้ามให้คนท้องกินทุเรียน
แม้จะมีความเชื่อว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่คนท้องไม่ควรกิน แต่จริง ๆ แล้ว คนท้องสามารถกินทุเรียนได้ หากกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะทุเรียนอุดมไปด้วยพลังงาน ไฟเบอร์ และสารอาหารที่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูง หรือรู้สึกร้อนในได้ การกินทุเรียนอย่างมีสติ คือทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ที่อยากอร่อยอย่างปลอดภัย
ทุเรียนเป็นผลไม้แห่งโชคลาภ
ในความเชื่อของคนไทยและหลายวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุเรียนไม่ได้เป็นแค่ผลไม้รสเลิศ แต่ยังถือเป็น ผลไม้แห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง ด้วยรูปลักษณ์ที่แหลมคมดั่งเกราะป้องกันสิ่งไม่ดี และราคาที่สูง ทำให้ทุเรียนถูกใช้ในพิธีมงคล เช่น การไหว้เจ้า ถวายพระ หรือมอบเป็นของขวัญเพื่อเสริมสิริมงคล เชื่อกันว่าการได้กินหรือครอบครองทุเรียน จะดึงดูดความมั่งคั่งและโชคดีเข้ามาในชีวิต
สุขภาพดีเริ่มที่การกินทุเรียนอย่างรู้จักพอดี
ทุเรียน ไม่ได้เป็นเพียงผลไม้ที่มีรสชาติและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรต, ไขมันดี, วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม การบริโภคทุเรียนควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะมีพลังงานสูง และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหากกินร่วมกับอาหารบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ หรือของหวานจัด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือโรคหัวใจ
ทุเรียนจึงเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย หากรู้จักเลือกกินให้พอดี และเข้าใจว่ารสชาติที่อร่อยนั้นควรมาพร้อมกับความรู้เท่าทัน เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/250432
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา