20 มิ.ย. เวลา 02:10 • ประวัติศาสตร์

‎بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ

วันศุกร์ ที่ 23 เดือนซุ้ลฮิจยะห์ ฮ.ศ. 1446 (20 January 2028)
ทำไมโลกอาหรับถึงไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
เมื่อมองจากระยะไกลโลกอาหรับก็ดูเหมือนเป็นกลุ่มเดียวกัน ภาษาของพวกเขาก็เหมือนกัน วัฒนธรรมของพวกเขาก็คล้ายคลึงกัน
ศาสนาส่วนใหญ่ก็เหมือนกันคือ “ศาสนาอิสลาม”
แต่เมื่อเราเจาะลึกเข้าไปในประวัติศาสตร์ของพวกเขาช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
เราจะรู้ว่าความเป็นจริงก็คือ.. โลกอาหรับไม่เคยมีความสามัคคีกันอย่างแท้จริง
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้..
ทุกอย่างเริ่มต้นหลังจากจักรวรรดิออตโตมันล่มสลายในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20
ภูมิภาคอาหรับซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรอิสลาม ปัจจุบันถูกแบ่งแยกโดยมหาอำนาจยุโรป
ข้อตกลงไซกส์-ปิโกต์ (Sykes-Picot ) ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสแบ่งดินแดนอาหรับออกเป็นเขตอิทธิพลโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ วัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
ข้อตกลงไซกส์-ปิโกต์ (Sykes-Picot )
นับแต่นั้นเป็นต้นมาประเทศต่างๆ เช่น อิรัก ซีเรีย จอร์แดน และเลบานอน จึงถือกำเนิดขึ้น
และ ณ ปัจจุบันเราทุกคนจะเห็นว่า ชาติตะวันตกได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความแตกแยกใว้เช่นไร
เมื่อมองเห็นสถานการณ์ดังกล่าว จึงเกิดการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า แนวคิดแพนอาหรับ (Pan-Arabism) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต้องการรวมโลกอาหรับไว้ภายใต้หน่วยงานการเมืองเดียว
นี่ไม่ใช่แค่ความฝันลมๆแล้งๆ แต่เป็นความพยายามที่ขับเคลื่อนโดยนักปฏิวัติและปัญญาชนชาวอาหรับในคริสต์ศตวรรษที่ 20 อย่างแท้จริง
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ร่วมอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ท่านกามาล อับเดล นาสเซอร์ ประธานาธิบดีอียิปต์ในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960 เขาเป็นคนมีเสน่ห์และมีอิทธิพลมาก
ท่านกามาล อับเดล นาสเซอร์ อดีตประธานาธิบดีอียิปต์
ด้วยจิตวิญญาณแห่งชาตินิยมอาหรับ เขาพยายามสร้างสหภาพระหว่างอียิปต์และซีเรียซึ่งเรียกว่าสหสาธารณรัฐอาหรับขึ้นมา
แต่น่าเสียดายที่สหภาพนี้คงอยู่ได้เพียงแค่สองปีก่อนที่ประเทศซีเรียจะถอนตัว
อะไรที่ขัดขวางไม่ให้โลกอาหรับรวมกันเป็นหนึ่งเดียว :
ประการแรก : ผลประโยชน์ของชาติ ประเทศอาหรับทุกประเทศมีผู้นำที่ไม่ยอมสละอำนาจเพื่อความสามัคคี
ประการที่สอง : ความแตกต่างทางอุดมการณ์
บางประเทศมีแนวโน้มไปทางสังคมนิยมแบบฆราวาส เช่น อียิปต์ในสมัยท่านกามาล อับดุล นาสเซอร์
ในขณะที่บางประเทศมีแนวโน้มอนุรักษ์นิยมและสนับสนุนการปกครองแบบกษัตริย์ เช่น ซาอุดีอาระเบีย
บางส่วนสนับสนุนตะวันตก และบางส่วนต่อต้านตะวันตก
ซึ่งทำให้การประนีประนอมทางการเมืองระหว่างทั้งสองเป็นเรื่องยาก
ประการที่สาม : การแทรกแซงของมหาอำนาจต่างชาติ
สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศสไม่ต้องการเห็นกลุ่มชาติอาหรับรวมกันเป็นองค์กรขนาดใหญ่และเป็นปึกแผ่น เพราะอาจเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของพวกเขาได้
ทรัพยากรน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ความปลอดภัยของรัฐยิวไซออนิสต์ และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง
ดังนั้น ชาติตะวันตกและอเมริกาจึงสนับสนุนประเทศที่ต้องการรักษาสถานะเดิมไว้อย่างแนบเนียนและเปิดเผย
ในที่สุด โลกอาหรับก็ยังคงแบ่งแยกและแตกแยกกัน
ซึ่งตั้งแต่ยุคอาณานิคมจนถึงปัจจุบัน เราได้พบเห็นสงครามกลางเมือง การรัฐประหาร ความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และการครอบงำของอำนาจภายนอกในกิจการภายในของประเทศอาหรับอยู่เสมอๆ
แม้ว่าความฝันของแนวคิด Pan-Arabism ยังคงมีอยู่
แต่ ณ ปัจจุบันก็เป็นเพียงความทรงจำและเป็นเพียงความฝันในอดีตเท่านั้น
และโลกอาหรับที่เข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวกันก็ยังคงเป็นเพียงความฝัน.
โฆษณา