19 มิ.ย. เวลา 04:54 • ข่าวรอบโลก

🇺🇸 สหรัฐฯ สั่งตรวจโซเชียลนักเรียนต่างชาติ วีซ่าเข้มขึ้น กระทบไทย-ม.ทั่วโลก หวั่นสิทธิเสรีภาพถดถอย

🧳 US Orders Social Media Scrutiny for Student Visa Applicants in Sweeping Security Overhaul
🔍 สรุปเนื้อหาอย่างละเอียด:
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยกระทรวงการต่างประเทศ (State Department) ได้ประกาศนโยบายใหม่ให้เจ้าหน้าที่กงสุลต้องตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ยื่นขอวีซ่านักเรียนและวีซ่าแลกเปลี่ยน โดยกำหนดให้นักเรียนต่างชาติต้องตั้งค่าโปรไฟล์เป็น “สาธารณะ (Public)” เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย หากไม่ทำ อาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณอันตรายหรือน่าสงสัย
มาตรการใหม่นี้เน้นการตรวจหาความคิดเห็นที่เป็นอันตรายหรือมีท่าทีต่อต้านสหรัฐฯ ผ่านการแสดงออกทางออนไลน์ โดยหากพบพฤติกรรมเข้าข่ายต่อต้าน เช่น สนับสนุนความรุนแรง การเคลื่อนไหวรุนแรง หรือการรบกวนสถาบันการศึกษา ก็อาจถูกปฏิเสธวีซ่าโดยทันที
📍 จุดเปลี่ยนสำคัญคือคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) ที่ให้สถานทูตและสถานกงศลทั่วโลก “หยุด” การนัดสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนเป็นการชั่วคราว เพื่อเตรียมบังคับใช้นโยบายนี้ทั่วโลก
💥 ผลกระทบระยะสั้น-กลางต่อนักเรียนไทยและสถาบันไทย:
✈️ นักเรียนไทยที่วางแผนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ จะเจอขั้นตอนตรวจสอบมากขึ้น โดยเฉพาะหากเคยโพสต์ประเด็นการเมืองหรือเรื่องละเอียดอ่อน
📉 ความไม่แน่นอนนี้อาจทำให้หลายคนเปลี่ยนเป้าหมายไปศึกษาที่ประเทศอื่นแทน เช่น แคนาดา สหราชอาณาจักร หรือออสเตรเลีย
🏫 มหาวิทยาลัยไทยที่มีโครงการแลกเปลี่ยนกับสหรัฐฯ เช่น AFS, Fulbright หรือโครงการ 2+2 อาจได้รับผลกระทบต่อปริมาณผู้สมัครและความร่วมมือทางวิชาการ
📊 ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย (SET และ mai):
หุ้นไทยจำนวนหนึ่งที่อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้ในเชิงอุตสาหกรรม “การศึกษา” และ “เทคโนโลยีสนับสนุนการเรียนรู้” ได้แก่:
🎓 หุ้นในกลุ่มการศึกษา:
🔻 MODERN (บมจ. โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป) – แม้จะไม่ใช่สถานศึกษาโดยตรง แต่เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สำนักงานและการศึกษา หากการลงทุนในระบบการศึกษาชะลอตัว จะกระทบการเติบโตของอุตสาหกรรม
🔻 IIG (บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป) – ทำธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจ โดยมีความเชี่ยวชาญในด้านการออกแบบระบบ CRM, ERP และการใช้ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการองค์กร ซึ่งครอบคลุมถึงการพัฒนาทักษะและฝึกอบรมภายในองค์กร รวมถึงโครงการร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศและมหาวิทยาลัยในการพัฒนา Digital Talent
💻 หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีการเรียนรู้และสื่อสาร:
🔻 BLISS (บมจ. บลิส อินเทลลิเจนซ์) – ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีและอีเลิร์นนิ่ง หากนักเรียนลดการศึกษาระดับนานาชาติ อาจทำให้การใช้งานเทคโนโลยีสนับสนุนลดลง
🔻 SE-ED (บมจ. ซีเอ็ดยูเคชั่น) – ดำเนินธุรกิจด้านการศึกษาโดยตรง ทั้งในรูปแบบร้านหนังสือ สำนักพิมพ์ และโรงเรียน อาจได้รับผลกระทบหากโครงการความร่วมมือด้านวิชาการชะลอตัวลง
💡 แม้มาตรการนี้ดูห่างไกลจากไทย แต่ในยุคโลกาภิวัตน์ การเคลื่อนไหวของนโยบายในสหรัฐฯ มีแรงสะเทือนต่อห่วงโซ่ธุรกิจ การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
📌 วิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมที่น่าสนใจ:
📱 นโยบายตรวจสอบโซเชียลมีเดียอาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่การแสดงออกบนออนไลน์มีผลต่อสิทธิเสรีภาพในโลกจริง นักเรียนทั่วโลกต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการแสดงความคิดเห็น
🌐 ความไม่แน่นอนเชิงนโยบายของสหรัฐฯ อาจทำให้ประเทศอื่นเร่งใช้จังหวะนี้สร้างภาพลักษณ์เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักเรียนต่างชาติแทน
📚 ระบบมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เองก็อาจเผชิญปัญหาเรื่องรายได้ เนื่องจากนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่จ่ายค่าเทอมแพงกว่านักเรียนอเมริกัน ซึ่งช่วยอุดหนุนทุนการศึกษาในประเทศ
🇹🇭 บทสรุป:
มาตรการใหม่นี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อนักเรียนไทยที่ใฝ่ฝันไปเรียนสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อธุรกิจในไทยที่อยู่ในห่วงโซ่ของการศึกษา เทคโนโลยี และการเรียนรู้นานาชาติอีกด้วย นักลงทุนควรจับตาความเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มการศึกษาและนวัตกรรมที่อาจมีแรงกดดันตามมาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
📎 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#นโยบายวีซ่าอเมริกา #SocialMediaVetting #นักเรียนต่างชาติ #เสรีภาพกับความมั่นคง #RubioPolicy #USStudentVisa #StockImpactSET #คนเล็กในคลื่นใหญ่ #OrdinaryLivesGlobalTides #WorldScopeNews
📚 Reference: Hindustan Times

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา