สงครามราคา : ร่ายมหากาพย์ ดีล วิคตอร์ โยเคเรส จากย้ายแน่ สู่อะไรก็ไม่แน่นอน | Main Stand
ในทุก ๆ ตลาดซื้อขาย มักจะมีดีลที่ดูสับสนวุ่นวายให้เราได้เห็นเสมอ และซัมเมอร์ปี 2025 นี้เป็นคิวของกองหน้าฟอร์มร้อนแรงอย่าง วิคตอร์ โยเคเรส
ดาวยิงของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มีข่าวมากมายตั้งแต่ใกล้เคียงจะย้ายสุด ๆ จนไปถึงการปฏิเสธแบบแหกโค้ง และมีข่าวกับทีมดังมากมายไล่ตั้งแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, เรอัล มาดริด, แอตฯ มาดริด และ ยูเวนตุส
จากวันนั้นจนวันนี้ เขายังไม่ใกล้เคียงกับการย้ายไปทีมไหนเลย ... แถมเจ้าตัวยังหักกับต้นสังกัดแบบผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ
ไล่จากหนึ่งถึงปัจจุบันไปกับ Main Stand
ถึงเวลาที่เหมาะสม
จะมีอะไรคุ้มค่ากว่ากองหน้าที่ซื้อตัวมาด้วยราคา 20 ล้านยูโร และยิงประตูให้กับทีมถึง 97 ลูกจาก 102 เกมที่ลงสนาม ... นี่คือสิ่งที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้จาก วิคตอร์ โยเคเรส กองหน้าที่พวกเขาซื้อมาจาก โคเวนทรี เมื่อซัมเมอร์ปี 2023
โยเคเรส อยู่ที่ ลิสบอน กลายเป็นตัวหลักในทันที แสดงความเป็นมืออาชีพดูแลตัวเองอย่างดีทั้งในและนอกสนาม ทุ่มเทกับการฝึกซ้อม และนั่นทำให้เขาเป็นกองหน้าที่ไม่มีใครหยุดอยู่ สถิติการยิงประตูถล่มทลาย ลงสนามสม่ำเสมอ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บ และเหนือสิ่งอื่นใด คือเขาไม่เคยทำตัวเป็นปัญหาให้กับทีมเลยสักครั้ง ... และนั่นเป็นเหตุผลที่เขามองว่า เมื่อถึงจุดหนึ่ง ทีมควรตอบสนองความทุ่มเททำงานหนักของเขา ด้วยการปล่อยตัวเขาไปให้กับทีมที่แข็งแกร่งกว่า ในระดับลีกที่สูงกว่า
ในช่วงแรกรักอะไรก็ดี มันก็เหมือนกับความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวในวันที่เขาเป็นทุกอย่างสำหรับเรา ทำตามใจเราทุกอย่างตามที่เราขอ และไม่เคยสร้างเรื่องให้เราปวดหัว มันจะทำให้เราเชื่อว่าสำหรับคนพิเศษแบบนี้ อยากจะได้อะไร เราก็พยายามจะหามาให้แม้จะยากแค่ไหนก็ตาม
แต่กลับกัน ในเวลาที่มีจุดตัดของความสัมพันธ์ วันที่ทั้งคู่มีความต้องการคนละแบบ มองกันคนละมุม และแต่ละคนต่างไม่ยอมถอย เมื่อนั้นความเห็นอกเห็นใจที่มีเต็ม 100% จะค่อย ๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ และยิ่งบาดหมางหรือกินแหนงแคลงใจกันมากเท่าไหร่ ความสัมพันธ์นี้ก็ไม่อาจจะกลับมา 100% ได้อีก ... เรื่องราวของ โยเคเรส และ สปอร์ติ้ง ก็เช่นกัน
ซัมเมอร์ปี 2025 ตลาดซื้อขายเปิดขึ้นหลังฤดูกาล 2024-25 จบ โยเคเรส ในวัย 27 ปี มองว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับก้าวต่อไป และเรื่องนี้ไม่ใช่ไอเดียที่เพิ่งริเริ่ม แต่เขารู้ล่วงหน้ามาเป็นปีแล้วว่าเมื่อเวลานี้มาถึง การแยกทางจะเกิดขึ้น เขาจึงพยายามทำให้ทุกอย่างในตอนจบของเขากับ สปอร์ติ้ง จบลงอย่างสวยงาม เหลือแต่ความทรงจำดี ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน
โยเคเรส จึงมอบหมายให้ ฮาซาน เซตินกาย่า เอเยนต์ของเขาเปิดประเด็นเรื่องการขอย้ายออกจากสโมสร และเมื่อเอเยนต์ของเขาไปปฎิบัตภารกิจที่กองหน้าสวีดิชมอบให้ ก็ได้คำตอบที่ทั้งคู่พอใจที่พวกเขาเอามาบอกผ่านสื่อว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ให้ข้อตกลงว่าค่าฉีกสัญญาที่เขาเคยทำร่วมกับทีมที่อยู่ที่ราว ๆ 100 ล้านยูโร จะถูกปรับราคาให้เหลือเพียง 60-70 ล้านยูโร เพื่อให้การย้ายทีมง่ายขึ้น
การทำเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะยิ่งนักเตะมีราคาถูกเท่าไร นักเตะก็จะมีอำนาจในการต่อรองค่าเหนื่อยจากสโมสรได้ดีมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่เลยในโลกฟุตบอล ลิเวอร์พูล ลดค่าตัว ฟาบินโญ่ เพื่อให้นักเตะเรียกสัญญาาจาก อัล อิตติฮัด ในราคาที่สูงขึ้น และย้อนกลับไปไกลกว่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยลดราคา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เหลือเพียง 5 ล้านปอนด์ เพื่อให้ เฟเนร์บาห์เช่ ทีมใหม่ของ ฟาน เพอร์ซี่ เหลือเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเหนื่อยในระดับที่นักเตะต้องการ ... โยเคเรส ก็หวังว่าเรื่องของเขาจะจบแบบนี้
เพียงแต่ว่านี่ไม่ใช่หนังรัก แต่มันคือโลกฟุตบอลที่ถูกครอบด้วยโลกแห่งธุรกิจ การหักเหลี่ยมเฉือนคมจึงเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ตัวของนักเตะและเอเยนต์ตกลงกับสโมสรมันเป็นแค่ "สัญญาลูกผู้ชาย" หรือพูดกันแค่ปากเปล่าเท่านั้น เรื่องมันกลายเป็นว่าเมื่อซีซั่น 2024-25 จบลง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ฉีกสัญญาลูกผู้ชายทิ้งเหลือเพียงสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งมีน้ำหนักบนชั้นศาลมากที่สุด
ค่าตัวของเขาจะอยู่ที่ 100 ล้านยูโรไม่เปลี่ยนแปลง และในตลาดที่ท็อปทีมต้องการศูนย์หน้าชั้นดี แถมสถิติการยิงบวกกับชื่อเสียงของ โยเคเรส กำลังดังเปรี้ยง สปอร์ติ้ง มองว่านี่เป็นราคาที่เหล่าบิ๊กทีมสู้ได้แน่นอน ... นั่นอาจจะจริงในมุมมองของ สปอร์ติ้ง เงิน 60 ล้านยูโร กับ 100 ล้านยูโร ห่างกันเกือบครึ่ง และทีมที่เน้นระบบซื้อมาขายไปอย่างพวกเขา เงินจำนวนนี้สามารถนำเข้าสู้ระบบ "ปั้นแล้วขาย" เอาไปซื้อนักเตะดาวรุ่งคนต่อไปมาปั้นได้อีกหลายคนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทุกการกระทำล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย การกลับคำ นำมาสู่การแตกหักที่ โยเคเรส ประกาศว่าจะไม่ลงเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกจนกว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะถูกเคลียร์ให้เรียบร้อย
พยายามหนี และพยายามสู้
ในระหว่างที่การถกเถียงเรื่องสัญญาลูกผู้ชายกับสโมสร เอเยนต์ของ โยเคเรส ก็ได้ไปคุยกับหลากสโมสร และตามที่ได้กล่าวไว้ข้อเสนอที่บอกว่าราคาของ โยเคเรส อยู่ที่ 60 ล้านยูโร ทำให้มีหลายทีมที่พยายามจะคว้าตัวเขา มันเป็นราคาที่ไม่สูงสำหรับกองหน้าในช่วงพีกทั้งเรื่องอายุและประสิทธิภาพในการยิงประตู
แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องการกองหน้าเบอร์ 1 ของทีมเป็นทีมแรกที่เข้าใกล้ และมีการจีบกันเกิดขึ้น ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนมิถุนายนมีสื่อบางสำนักถึงกับบอกว่า โยเคเรส มีใจพร้อมสู้ไปกับอดีตนายเก่าของเขาอย่าง รูเบน อโมริม แม้ทีมจะไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยไหนเลยก็ตาม
ในช่วงเวลาเดียวกับกับราคา 60 ล้านยูโร มันก็ชวนล่อใจให้ อาร์เซน่อล อีก 1 ทีมกระโดดเข้ามาร่วมดีลนี้อย่างจริงจัง ว่ากันว่าก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล ชอบ เบนจามิน เซสโก้ ของ แอร์เบ ไลป์ซิก มากกว่าเพราะด้วยอายุและราคาที่อยู่ราว ๆ 80 ล้านยูโร เป็นตัวเลขที่พวกเขาพอใจ ถ้าเทียบกับ โยเคเรส ที่มีค่าฉีกสัญญาตามเอกสารที่ 100 ล้านยูโร
แต่เมื่อราคาเปลี่ยน ลดไป 40 ล้านยูโร มันทำให้พวกเขาต้องกลับมาสน โยเคเรส อีกครั้ง และเมื่อ อาร์เซน่อล เข้ามา โยเคเรส ก็เปลี่ยนไป จากคนที่มีใจให้ ยูไนเต็ด อยากร่วมงานกับ อโมริม กลายเป็นนักเตะเลือกอาร์เซน่อล เพราะทิศทางของทีมอยู่ในทิศทางที่ดี และทีมก็ขาดกองหน้าตัวเป้าซึ่งจะทำให้เขามีโอกาสสูงที่จะเป็นตัวหลักของทีมในทันที เหนือสิ่งอื่นใด อาร์เซน่อล ยังได้ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ โยเคเรส เคยพิสูจน์ฝีเท้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่แค่ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล เท่านั้น เอเยนต์ของ โยเคเรส นำข่าว "ค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร" กระจายไปทั่วยุโรปและเข้าหาบิ๊กทีม ซึ่งก็มีทีมอย่าง ยูเวนตุส และ แอตฯ มาดริด ที่สนใจเพิ่มเติมเข้ามา เช่นเดียวกับบางทีมที่ปฏิเสธอย่าง เรอัล มาดริด ตามที่สำนักข่าวสเปนหลายเจ้าช่วยยืนยัน
ท่ามกลางข่าวที่ว่า ออกแน่ ออกแน่ และดีลคงจบในเร็ววัน กลายเป็นว่าอยู่ดี ๆ คดีก็พลิกเมื่อ เฟเดริโก้ วารานดาส ออกมาปฏิเสธเรื่องข่าวการลดค่าฉีกสัญญาที่ โยเคเรส อ้างว่าเป็นสัญญาลูกผู้ชาย และบอกว่าค่าฉีกของเขาจะไม่ใช่ 60 ล้านยูโรแน่นอน ซึ่งหลังจากข่าวนี้ออกไปไม่นาน อาร์เซน่อล ก็ถอยทันทีกับราคาที่อัพขึ้นมา ซึ่งนั่นเหมือนจะทำให้เกิดสงครามระหว่างนักเตะกับสโมสร
โยเคเรส บอกว่าสโมสรผิดสัญญาลูกผู้ชาย และยืนยันจะงัดสัญญาที่มีออกมาฟ้องเรื่องนี้จากสโมสร ซึ่ง วารานดาส ก็ไม่ได้หวั่นไหว ยืนยันคำเดิมว่า "สปอร์ติ้งจะไม่เรียกร้องเงื่อนไขการยกเลิกสัญญา แต่ตอนนี้พวกเขาน่าจะรู้จักผมดีขึ้นแล้ว การขู่กรรโชก และดูหมิ่นผมนั้นไม่เกิดผล และเรื่องหนึ่งที่แน่นอนก็คือ วิคตอร์ โยเคเรส จะไม่ออกจากสโมสรด้วยราคา 60 ล้านยูโรบวกกับอีก 10 ล้านยูโร ตามที่เป็นข่าวแน่นอน"
ทุกอย่างหยุดชะงักตรงนี้ จากข่าวที่เคยว่าใกล้ กลายเป็นว่าตอนนี้ข่าวของ โยเคเรส ไม่ใช่ข่าวการย้ายทีมแล้ว แต่เป็นข่าวการจวกกันระหว่างเขากับต้นสังกัดปัจจุบัน ที่ทำให้ทุก ๆ ดีลต้องหยุดรอดูความชัดเจนว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร
สัญญาลูกผู้ชายไม่มีค่า
เฟเดริโก้ วารานดาส ออกมายืนยันตามที่ได้กล่าวข้างต้น และฝั่ง โยเคเรส ก็จะเลือกเอาหลักฐานการคุยกันในที่หลับเอามาคายในที่แจ้ง เรื่องนี้ชักใหญ่โตบานปลายขึ้น เพียงแต่ วารานดาส ก็ยืนกรานว่าเขาไม่กลัว และบอกว่าความจริงอยู่กับฝั่งเขามากกว่า
มีการเปิดเผยเพิ่มเติมภายหลังว่าการ "เข้าไปคุยเรื่องขอย้ายทีม" ของ โยเคเรส นั้นเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2024 ซึ่ง ณ เวลานั้น วารานดาส อ้างว่าแม้เขาจะรับทราบ แต่คนที่ตกลงปากเปล่ากับ โยเคเรสและเอเยนต์คือ ฮูโก วิอาน่า ผู้อำนวยการกีฬาของทีม ที่ตอนนี้กำลังจะเป็น ผอ.กีฬาของ แมนฯ ซิตี้ คนใหม่ ส่วน วาราดาส ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ทั้ง 2 คนคุยกัน แต่นั่นก็เรื่องของคน 2 คน ไม่ได้เกี่ยวกับสโมสร แถมตอนนี้ วิอาน่า ก็เป็นคนของ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วอีกต่างหาก
โอ โจโก สำนักข่าวของ โปรตุเกส อ้างอิงสิ่งที่ วาราดาส บอกว่า "มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งตกลงกันไว้ว่าจะไม่เรียกร้องค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโรเต็มจำนวน เนื่องจากอายุของกองหน้ารายนี้และความปรารถนาที่จะเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ... อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่าราคาสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับผลงานของผู้เล่น"
สุดท้าย โยเคเรส ฟอร์มดีต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ แถมยังพาทีมกลับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ มันจึงทำให้ สปอร์ติ้ง มองว่าไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะขายนักเตะออกไปในราคาถูก และแน่นอนว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังมีจะมีการงัดหลักฐานมาซัดกันบนสื่ออีกหลายยกแน่นอน เพราะฝั่งโยเคเรส ก็บอกว่าพวกเขามีสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร และบอกว่าหลายข่าวบนหน้าสื่อตอนนี้เป็นเฟคนิวส์ อันเป็นเกมของฝั่ง สปอร์ติ้ง ที่เห็นเงินสำคัญกว่าเกียรติและคำพูดที่ได้ตกลงกันไว้
เมื่อทั้งคู่ต่างอ้างว่าข้อตกลงมี-ไม่มีจริง ก็เลยกลายเป็นคารมร้อน ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกทางสื่อจนกลายเป็นข่าวใหญ่ช่วงซัมเมอร์นี้ และเรื่องนี้จะไปจบตรงไหน ใครจะเป็นฝ่ายต้องยอม เราคงได้อ่านข่าว โยเคเรส จนตลาดซื้อขายโค้งสุดท้ายโน่นแหละ หากทุกอย่างยังวกวนสับสนหาทางลงไม่ได้เช่นนี้
"ตอนนี้มีการพูดคุยกันมากมาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเท็จ ผมจะพูดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม" โยเคเรส ว่าเช่นนั้น ซึ่งคำว่าเวลาที่เหมาะสมเขาก็ไม่ได้ระบุเอาไว้เสียด้วยว่าเมื่อความจริงจากฝั่งของเขาจะปรากฏ
ณ ตอนนี้ จากดีลซื้อขาย มันกลายเป็นข่าวแตกหักระหว่างนักเตะและสปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปเรียบร้อยแล้ว
บทความโดย : ชยันธร ใจมูล
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
