🧠🇺🇸 SoftBank ทุ่ม 1 ล้านล้านดอลลาร์ สร้างมหานคร AI ในสหรัฐฯ หวังเทียบชั้น Shenzhen จีน!
SoftBank's $1 Trillion AI Hub in Arizona Could Reshape Global Tech Landscape – TSMC, Samsung, and OpenAI on the Radar
📍 เนื้อหาข่าวโดยสรุป
Masayoshi Son ผู้ก่อตั้ง SoftBank Group วางแผนก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมระดับโลกในรัฐแอริโซนา มูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36 ล้านล้านบาท) เพื่อเป็นฐานการผลิตหุ่นยนต์และเทคโนโลยี AI ขนาดใหญ่ โดยเป้าหมายคือ สร้าง "Shenzhen เวอร์ชันอเมริกัน" เพื่อดึงเทคโนโลยีชั้นสูงกลับคืนสู่สหรัฐฯ
🔹 โครงการใช้ชื่อรหัสว่า Project Crystal Land
🔹 SoftBank อยู่ระหว่างเจรจากับ TSMC ให้มีบทบาทในโครงการ (แม้ TSMC ยังไม่ยืนยันความสนใจ)
🔹 เจรจากับภาครัฐสหรัฐฯ ทั้งระดับรัฐบาลกลางและรัฐ เพื่อขอสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
🔹 ดึงบริษัทชั้นนำอื่นอย่าง Samsung และผู้เกี่ยวข้องกับ OpenAI, Oracle มาร่วมลงทุน
🔹 ความสำเร็จของโครงการขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจาก รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
💸 หากเกิดขึ้นจริง เมกะโปรเจกต์นี้จะใหญ่กว่าโครงการ “Stargate” ซึ่งมีมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ที่ SoftBank, OpenAI และ Oracle กำลังร่วมมือกันพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ
📊 SoftBank เพิ่งลงทุนอย่างหนักในปี 2025:
ซื้อกิจการ Ampere (บริษัทออกแบบชิป) มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์
ประกาศลงทุนสูงสุด 4 หมื่นล้านดอลลาร์ใน OpenAI
ระดมทุนเพิ่มอีก 4.8 พันล้านดอลลาร์จากการขายหุ้น T-Mobile
🌎 มุมวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย: เปิดศึกใหม่ในสมรภูมิปัญญาประดิษฐ์
🟠 หากโครงการ “Crystal Land” ลุล่วง จะกลายเป็นแม่เหล็กขนาดยักษ์ดูดดูดเม็ดเงินลงทุน บุคลากร และเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศที่ยังไม่ปรับตัวทัน ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังใน “สงคราม AI โลก”
🟢 ประเทศไทยควรตระหนักถึงการย้ายฐานการผลิตจากเอเชียกลับสู่สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งจะกระทบโอกาสการเป็นฐานการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูงในภูมิภาค
🟣 หากโครงการสร้างต้นแบบ Shenzhen ใหม่ในสหรัฐสำเร็จ จะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดบริษัท AI และหุ่นยนต์ทั่วโลก ประเทศที่ไม่เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อาจเสียโอกาสการแข่งขันระยะยาว
📉 วิเคราะห์ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
🔻 KCE (บมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) – ธุรกิจผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB)
→ หากอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และหุ่นยนต์ย้ายฐานกลับสหรัฐฯ อาจทำให้คำสั่งซื้อลดลงในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะสายซัพพลายแบบ OEM จากลูกค้าอเมริกัน ซึ่งไทยมีส่วนสำคัญ
🔻 HANA (บมจ. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) – ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร
→ แม้ HANA มีฐานผลิตในหลายประเทศ แต่หากห่วงโซ่อุปทานเริ่มถูกดูดกลับสหรัฐฯ ก็อาจกระทบความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน
🔻 SVI (บมจ. เอสวีไอ) – ธุรกิจ EMS สำหรับลูกค้าต่างประเทศ
→ โครงการของ SoftBank เน้น “High-End Tech Manufacturing” หากดึงดูดให้ลูกค้าของ SVI อย่าง OEM ระดับโลกไปตั้งฐานในแอริโซนา อาจทำให้โอกาสทางธุรกิจลดลง
🔺 SECURE (บมจ. เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว) – ธุรกิจ Cybersecurity
→ หากไทยปรับตัวทัน กระแสการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก อาจเป็นโอกาสทองให้ SECURE ขยายบริการสู่การปกป้องระบบ AI และหุ่นยนต์จากการโจมตีทางไซเบอร์
🔺 PROEN (บมจ. โปรเอ็น คอร์ป) – ธุรกิจ Cloud และ Data Center
→ ความเคลื่อนไหวของ SoftBank ต่อการลงทุนใน OpenAI และดาต้าเซ็นเตอร์ อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลมหาศาล โดยเฉพาะหากไทยสามารถดึงการลงทุนหรือบริการแบบพาร์ทเนอร์มาร่วมได้
📍 อีกมุมที่น่าจับตา: Soft Power & Talent Migration
🧳 การรวมตัวของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกใน Crystal Land อาจส่งผลให้เกิด “สมองไหล” จากประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงไทย ไปยังสหรัฐฯ หากไม่มีการสร้างแรงจูงใจที่เพียงพอให้บุคลากรเก่งๆ อยู่ในระบบภายในประเทศ
🎯 ประเทศไทยควรเร่งพัฒนา “AI Ecosystem” ของตนให้สมบูรณ์ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร กฎหมาย ไปจนถึงการสนับสนุนการลงทุนอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะหลุดจากการแข่งขันในเวทีโลกโดยถาวร
💬 คุณคิดอย่างไรกับ SoftBank ที่กล้าเดิมพัน 1 ล้านล้านดอลลาร์ใน "มหานคร AI" ที่สหรัฐฯ?
🇹🇭 ไทยควรเดินหมากต่อไปอย่างไรเพื่อไม่ตกขบวน “AI โลก”?
📢 ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยค่ะ!
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#SoftBank #TSMC #AIHub #เศรษฐกิจโลก #สงครามเทคโนโลยี #Reshoring #เศรษฐกิจสหรัฐ #ศึกโลกเศรษฐกิจ #WorldScope
📚 Reference:
Reuters – SoftBank’s Son pitches $1 trillion US AI hub
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
