📌 สงครามอิสราเอล–อิหร่าน: สหรัฐฯ ส่งสัญญาณขอเจรจา – อารักชีเผยเบื้องหลัง
Israel-Iran War: US Sends Messages Asking for Talks, Says Araghchi
🌍 ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากตะวันออกกลางเกิดขึ้นเมื่อ Abbas Araghchi อดีตรอง รมต.ต่างประเทศของอิหร่าน เผยว่าสหรัฐฯ ได้ส่งข้อความผ่านช่องทางลับถึงอิหร่าน เพื่อเรียกร้อง “การเจรจา” ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวละครสำคัญในฉากหลัง
🔴 ⚔️ ฉากหลังแห่งความขัดแย้ง: จากสงครามตัวแทนสู่ความเป็นไปได้ของการปะทะตรง
จากเหตุการณ์ตอบโต้ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มพันธมิตรของอิหร่าน เช่น Hezbollah ในเลบานอน และกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย/อิรัก ความขัดแย้งได้ลุกลามมาถึงระดับที่อาจบานปลายเป็นสงครามตรงระหว่างรัฐ การที่สหรัฐฯ ส่ง “ข้อความลับ” แสดงให้เห็นถึงความวิตกของวอชิงตันที่ไม่ต้องการให้ไฟสงครามลามไปทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเลือกตั้งภายในประเทศ
🟡 🛢️ ผลกระทบต่อตลาดพลังงานโลก: ราคาน้ำมันอาจพุ่งแรงหากเกิดสงครามจริง
หากอิหร่านถูกโจมตีโดยตรง ความเสี่ยงที่ช่องแคบฮอร์มุซจะถูกปิดหรือจำกัดการขนส่งน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นทันที ทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มพุ่งแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอย่างไทย ทั้งในแง่ต้นทุนเชื้อเพลิง อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายพลังงาน
🟠 📉 วิเคราะห์ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย (SET และ mai):
ในกรณีที่สถานการณ์ตะวันออกกลางทวีความรุนแรง อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบชัดเจนในตลาดหุ้นไทย ได้แก่:
➤ 🟥 กลุ่มสายการบินและท่องเที่ยว:
หุ้นอย่าง AAV (Asia Aviation), BA (บางกอกแอร์เวย์ส), และ AOT (ท่าอากาศยานไทย)
มีแนวโน้มถูกกดดันจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น รวมถึงความกังวลของนักท่องเที่ยวที่อาจชะลอการเดินทางในช่วงวิกฤต ทำให้รายได้สุทธิและปริมาณผู้โดยสารอาจลดลงในระยะสั้น
➤ 🟩 กลุ่มพลังงาน:
หุ้นพลังงานขนาดใหญ่ เช่น PTTEP (ปตท.สผ.), PTT (ปตท.), BANPU และ BCP
มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันโลกที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ PTTEP ที่ทำธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมโดยตรง
➤ 🟨 กลุ่มโลจิสติกส์และนำเข้า:
ต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะเป็นภาระต่อผู้ให้บริการขนส่งอย่าง WICE, SONIC และ III ที่เน้นธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ รวมถึง SJWD ซึ่งแม้จะเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ แต่ต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานก็อาจกระทบ margin ได้
➤ 🟦 กลุ่มปิโตรเคมี:
IVL และ PTTGC อาจได้รับผลกระทบ 2 ทาง ทั้งจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น (น้ำมันดิบ) และความไม่แน่นอนของคำสั่งซื้อในตลาดโลก หากผู้บริโภคหรือลูกค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางลดคำสั่งซื้อจากเหตุไม่สงบ
🟣 🤝 มิติทางการทูต: บทบาทของสหรัฐฯ ในการถ่วงดุลไฟสงคราม
การที่วอชิงตันยังไม่ใช้มาตรการทหารโดยตรง และเลือกสื่อสารผ่านช่องทางลับกับอิหร่าน อาจเป็นกลยุทธ์ “ถ่วงเวลา” เพื่อหลีกเลี่ยงแรงเสียดทานทางการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มชาติอาหรับที่มีทั้งมิตรและศัตรูกับอิหร่าน การเจรจาผ่าน backchannel diplomacy แบบนี้ยังเป็นสัญญาณว่า ทุกฝ่ายยังไม่ต้องการให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบ
🟤 💸 ผลต่อเศรษฐกิจไทย: ความไม่แน่นอนสูงขึ้นทั่วกระดาน
เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยว อาจเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น หากราคาน้ำมันเร่งตัวในระยะสั้น ขณะที่เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าหากนักลงทุนต่างชาติเทขายสินทรัพย์ไทยเพื่อหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์หรือทองคำ
🟢 🌐 บทสรุป: โลกยังมีโอกาสไม่ต้องเข้าสู่สงคราม หากสหรัฐฯ-อิหร่านเจรจาสำเร็จ
แม้สถานการณ์จะดูตึงเครียด แต่การส่งสัญญาณเจรจาของสหรัฐฯ อาจช่วย “หยุดยั้ง” สงครามได้ก่อนที่จะเกิดจริง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค รวมถึงไทยด้วยในฐานะประเทศที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
💬 คุณคิดว่า “การเจรจาผ่าน backchannel ของสหรัฐฯ” จะสามารถช่วยลดไฟสงครามอิสราเอล–อิหร่านได้หรือไม่?
แล้วตลาดหุ้นไทยจะรับมืออย่างไร?
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้ที่นี่เลยค่ะ!
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#IsraelIranConflict #USMediation #MiddleEastTensions #ราคาน้ำมัน #หุ้นไทย #SETวันนี้ #หุ้นกลุ่มพลังงาน #หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว #จุดปะทุโลก #WorldScope
📎 Reference:
WION – YouTube: Israel-Iran War – US Sends Messages for Talks
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
