21 มิ.ย. เวลา 08:31 • ข่าวรอบโลก

🇦🇺 ออสเตรเลียทดสอบซอฟต์แวร์แบนโซเชียลมีเดียสำหรับวัยรุ่น — ผลเบื้องต้นชี้ว่าได้ผล!

Australia social media teen ban software trial organisers say the tech works
🧠 สรุปใจความสำคัญของข่าว
รัฐบาลออสเตรเลียเดินหน้าแผน “แบนเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีจากโซเชียลมีเดีย” อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มจากการทดลองใช้ซอฟต์แวร์ตรวจสอบอายุ (Age Assurance Technology) กับนักเรียนกว่า 1,000 คน และผู้ใหญ่หลายร้อยคนในประเทศ ซึ่งผลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถใช้งานได้จริง แม้จะมีความท้าทายด้านความเป็นส่วนตัวและความแม่นยำก็ตาม
📆 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2025 นี้ บริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มอย่าง Meta (Facebook, Instagram) Snapchat และ TikTok จะต้องพิสูจน์ว่าได้ใช้ "มาตรการสมเหตุสมผล" เพื่อกันเด็กต่ำกว่า 16 ปีออกจากแพลตฟอร์มของตน มิฉะนั้นจะถูกปรับสูงสุดถึง A$49.5 ล้าน (ประมาณ 1,170 ล้านบาท)
🔍 จุดเด่นของการทดลองในครั้งนี้
🟢 เทคโนโลยี "ตรวจสอบอายุ" ใช้งานได้จริงในออสเตรเลีย แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ
🟡 ไม่มีโซลูชันใดที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ แต่อุปสรรคทางเทคนิคสำคัญยังไม่พบ
🔴 ความเสี่ยงที่น่ากังวลคือ “การเก็บข้อมูลเกินความจำเป็น” ซึ่งอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในอนาคต
🌏 แรงสั่นสะเทือนที่สะท้อนออกไปยังประเทศอื่น (รวมถึงไทย)
📌 หากออสเตรเลียบังคับใช้กฎหมายนี้สำเร็จ จะกลายเป็น “ต้นแบบ” ให้หลายประเทศพิจารณาดำเนินรอยตาม โดยเฉพาะชาติที่กำลังมองหาวิธีลดผลกระทบทางจิตใจของเยาวชนจากโซเชียลมีเดีย
📌 ไทยเองซึ่งมีประเด็น “เด็กติดจอ” และปัญหา cyberbullying สูงมาก อาจถูกกดดันให้เร่งจัดระเบียบเรื่องอายุการใช้งานโซเชียลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
📌 หน่วยงานอย่าง กสทช. หรือ สพฐ. อาจได้รับแรงกดดันจากสังคมในการหาทางปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
💥 ผลกระทบต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai)
🎯 SE-ED (ซีเอ็ดยูเคชั่น)
หากกฎหมายออสเตรเลียกลายเป็นมาตรฐานสากล และเกิดกระแสต่อต้านการใช้โซเชียลมีเดียในวัยรุ่นทั่วโลก ผู้ปกครองในหลายประเทศอาจหันมาส่งเสริมกิจกรรมออฟไลน์ เช่น การอ่านหนังสือหรือการเรียนรู้นอกระบบมากขึ้น ส่งผลบวกต่อบริษัทอย่าง SE-ED ที่จำหน่ายหนังสือ สื่อเสริมทักษะ และจัดกิจกรรมทางการศึกษา ซึ่งมีศักยภาพเติบโตจากเทรนด์ “Back to Learning Essentials” หรือ “Offline Parenting Movement”
🎯 AS (แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์)
แม้จะอยู่ในอุตสาหกรรมเกม แต่ AS อาจได้รับผลกระทบเชิงบวกหากสามารถพัฒนาโมเดลตรวจสอบอายุที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ได้ตามแนวทางใหม่ เหมาะสำหรับการขยายตลาดไปยังประเทศที่มีการบังคับใช้กฎคล้ายออสเตรเลีย
🎯 INSET (อินฟราเซท)
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านระบบโครงข่ายและดาต้าเซ็นเตอร์ INSET อาจเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์ทางอ้อม หากบริษัทโซเชียลมีเดียต้องอัปเกรดระบบหรือย้ายโครงสร้างข้อมูลเพื่อรองรับมาตรการใหม่
🎯 IIG (ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป)
ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบโซลูชันซอฟต์แวร์และ AI หากภาครัฐไทยหรือตลาดเอเชียต้องการใช้เทคโนโลยีแบบ age assurance ในอนาคต บริษัทประเภทนี้จะกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในการพัฒนาระบบในประเทศ
📊 มุมมองเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
🔹 เด็กและวัยรุ่นอาจแห่ไปใช้แพลตฟอร์มทางเลือกหรือใช้ VPN ซึ่งทำให้เกิดช่องโหว่ใหม่ๆ ในระบบรักษาความปลอดภัย
🔹 การบังคับใช้เทคโนโลยีตรวจสอบอายุอาจเปิดโอกาสให้เกิด “อุตสาหกรรมใหม่” ที่พัฒนาระบบป้องกันอายุและความปลอดภัย
🔹 ประเทศไทยอาจเผชิญแรงกดดันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะจากกลุ่มปกป้องสิทธิเด็ก และองค์กรด้านสุขภาพจิต หากยังไม่มีมาตรการคล้ายกันในระยะเวลาอันใกล้
💬 คุณคิดว่าไทยควรเดินตามแนวทางออสเตรเลียหรือไม่?
การบังคับใช้กฎหมายแบบนี้จะได้ผลจริงหรืออาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป?
ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้เลยค่ะ 👇🏻👇🏻
Hashtags ที่เกี่ยวข้อง;
#TeenTechBan #AustraliaPolicy #ออสเตรเลีย #เด็กกับโซเชียล #สิทธิส่วนบุคคล #NextGenPowerhouse #TechPowerStruggle #WorldScope #วิเคราะห์ข่าวหุ้น #หุ้นไทย
🗞️ Reference: Gulf Daily News – Australia social media teen ban software trial organisers say the tech works

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา