22 มิ.ย. เวลา 08:44 • ประวัติศาสตร์

แคทรีน พาร์: ราชินีผู้เข้มแข็งและนักบุกเบิกแห่งราชสำนักทิวดอร์

แคทรีน พาร์ ราชินีองค์ที่หกและองค์สุดท้ายของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ไม่ได้เป็นเพียงสตรีผู้รอดชีวิตจากชะตากรรมอันโหดร้ายของอดีตราชินีองค์อื่นๆ แต่เธอยังเป็นสตรีผู้มากด้วยความสามารถ สติปัญญา และบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อประวัติศาสตร์อังกฤษอย่างลึกซึ้ง
สายเลือดสูงศักดิ์และการศึกษาอันโดดเด่น
แคทรีน พาร์ เกิดในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1512 เป็นธิดาคนโตของเซอร์โทมัส พาร์ ผู้รับใช้ใกล้ชิดพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และมอส กรีน มารดาของแคทรีนเป็นนางกำนัลคนสนิทของพระนางแคทรีนแห่งอารากอน และได้ให้พระนางแคทรีนเป็นแม่ทูนหัวของบุตรี สิ่งนี้สะท้อนถึงสถานะทางสังคมที่สูงส่งของตระกูลพาร์ นอกจากสายเลือดขุนนางแล้ว แคทรีนยังมีเชื้อสายกษัตริย์จากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทำให้เธอเป็นสตรีชั้นสูงที่มีอิทธิพลตั้งแต่แรกเกิด
แม้บิดาจะเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก มารดาของแคทรีนได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรอย่างยิ่ง ในยุคที่ยุโรปกำลังตื่นตัวเรื่องการศึกษาของผู้หญิง แคทรีนเป็นผู้ใฝ่รู้และเรียนได้ดีเยี่ยม เธอสามารถพูดได้ถึงสี่ภาษา ได้แก่ อังกฤษ ละติน ฝรั่งเศส และอิตาลี และยังเริ่มเรียนภาษาสเปนเมื่อเป็นราชินี นอกจากนี้ เธอยังแตกฉานในปรัชญาศาสนา มีความเห็นที่โน้มเอียงไปทางนิกายโปรเตสแตนต์ แม้จะเติบโตมาในนิกายคาทอลิกก็ตาม ความสามารถทางวิชาการที่โดดเด่นนี้เองที่ทำให้เธอแตกต่างจากสตรีร่วมสมัยส่วนใหญ่
ชีวิตสมรสและบทบาทในราชสำนัก
แคทรีนสมรสครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี กับเซอร์เอ็ดเวิร์ด โบโรห์ แต่สามีเสียชีวิตในอีก 4 ปีต่อมา หลังจากนั้น เธอได้สมรสครั้งที่สองกับจอห์น เนวิลล์ บารอนลาติเมอร์ ซึ่งมีอายุมากกว่าเธอมากและมีบุตรติดสองคน แม้จะเป็นการแต่งงานกับชายสูงวัย แต่บันทึกทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าทั้งสองรักใคร่กันมาก แคทรีนเป็นภรรยาและแม่เลี้ยงที่ดี เมื่อบารอนลาติเมอร์ถูกจับเป็นตัวประกันจากเหตุการณ์กบฏคาทอลิก แคทรีนได้แสดงความเด็ดเดี่ยวในการปกป้องครอบครัวและต่อสู้เพื่ออิสรภาพของสามี
หลังการเสียชีวิตของบารอนลาติเมอร์ แคทรีนย้ายมาอยู่ลอนดอนและได้เป็นนางกำนัลของเลดี้แมรี่ (พระธิดาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กับแคทรีนแห่งอารากอน) ณ ที่นี้เองที่เธอได้พบกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ซึ่งให้ความสนใจในตัวเธอ แม้แคทรีนจะมีความสัมพันธ์อันดีกับโธมัส ซีมัวร์ (พี่ชายของอดีตราชินีเจน ซีมัวร์) มาก่อน แต่เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงขออภิเษกสมรส เธอตัดสินใจเลือกที่จะเป็นราชินีแห่งอังกฤษในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1543 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เธอเชื่อว่าเป็นหน้าที่และโอกาสในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
ราชินีผู้บริหารประเทศและนักปฏิรูป
ในฐานะราชินี แคทรีน พาร์ ไม่ได้เป็นเพียงพระชายาผู้เคียงข้างกษัตริย์ แต่เธอยังรับบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เสด็จไปทำสงครามกับฝรั่งเศส แคทรีนได้รับหน้าที่เป็น **ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์** เธอบริหารราชการแผ่นดินอย่างจริงจัง มีการออกพระราชกิจจานุเบกษา จัดการประชุมสภา ดูแลการป้องกันชายแดน และระดมทุนสนับสนุนกองทัพ
สิ่งที่โดดเด่นคือการใช้ **"ซอฟต์พาวเวอร์"** เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่การทำสงคราม เธอแปลบทกวีทางศาสนาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการออกรบ การเตรียมพร้อมของทหาร และการขอพรให้กษัตริย์ได้รับชัยชนะ และตีพิมพ์เผยแพร่ให้ประชาชนได้อ่าน เพื่อปลูกฝังความภักดีและสร้างความเข้าใจในการเสียภาษีเพื่อสนับสนุนการรบ
สายสัมพันธ์กับพระโอรสธิดาและการเปลี่ยนแปลงราชบัลลังก์
นอกจากบทบาททางการเมือง แคทรีนยังเป็นมารดาผู้ดูแลพระโอรสธิดาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เป็นอย่างดี เธอสนิทสนมเป็นพิเศษกับเลดี้แมรี่ และเป็นไอดอลของเลดี้เอลิซาเบธ นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าสไตล์การปกครองที่เด็ดขาดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ได้รับอิทธิพลมาจากแคทรีน พาร์ ในช่วงที่เธอเป็นผู้สำเร็จราชการ
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแคทรีนคือการ **เกลี้ยกล่อมพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ให้คืนสถานะรัชทายาทแก่เลดี้แมรี่และเลดี้เอลิซาเบธ** ซึ่งเดิมถูกลดสถานะเป็นลูกนอกสมรส การกระทำนี้เป็นการปูทางให้เลดี้แมรี่และเลดี้เอลิซาเบธได้ขึ้นครองราชย์ในอนาคต ซึ่งส่งผลต่อราชบัลลังก์อังกฤษอย่างมหาศาล
บั้นปลายชีวิตและมรดกที่ทิ้งไว้
แม้จะมีบทบาทสำคัญ แคทรีนก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในชีวิตส่วนตัว เธอเคยตกอยู่ในอันตรายเมื่อมีข่าวว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สนใจเพื่อนสนิทของเธอ และมีการร้องเรียนเรื่องความเชื่อทางศาสนาของเธอต่อกษัตริย์ แต่ด้วยไหวพริบและสติปัญญา เธอสามารถเอาตัวรอดมาได้ด้วยการอธิบายว่าเธอตั้งใจแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อกระตุ้นให้กษัตริย์ขบคิดและลืมความเจ็บปวดจากอาการป่วย
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ในปี ค.ศ. 1547 แคทรีนได้สมรสอีกครั้งกับโธมัส ซีมัวร์ หวานใจคนเดิม แม้การแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 ทำให้ความสัมพันธ์กับพระโอรสธิดาของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 สั่นคลอนบ้าง แต่เธอก็ยังคงให้การศึกษาแก่เลดี้เอลิซาเบธและเลดี้เจน เกรย์ ตามแนวทางโปรเตสแตนต์
แคทรีน พาร์ เสียชีวิตในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 1548 หลังให้กำเนิดบุตรสาวคนแรกและคนเดียว เลดี้แมรี่ ซีมัวร์ งานศพของเธอเป็นงานศพแบบโปรเตสแตนต์งานแรกในอังกฤษ แคทรีน พาร์ ไม่เพียงเป็นราชินีผู้รอดชีวิตจากกษัตริย์จอมเผด็จการ แต่เธอยังเป็นสตรีผู้มีอิทธิพลอย่างแท้จริง ทั้งในด้านการเมือง การศึกษา และศาสนา เป็นผู้กำหนดทิศทางบางส่วนของประวัติศาสตร์ราชวงศ์ทิวดอร์ และเป็นผู้บุกเบิกบทบาทของผู้หญิงในราชสำนักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โฆษณา