23 มิ.ย. เวลา 04:57 • การเมือง

แบรนด์ประชาธิปไตยการเมืองแข็งแรง เดินหน้าอัพเลเวลสังคมต่อ...ไม่รอแล้ว!!

ขุนพลยุทธศาสตร์ “จารย์ต้น” รศ.ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน พูดชัดพรรคการเมืองต้องประเมินทุกฉากทัศน์ว่าจะออกหน้าไหนบ้าง - ทำงานเป็นทีม - เดินเกมเป็นระบบ
หลังชนะเลือกตั้งปี 66 พรรควางระบบให้สส.ปาร์ตี้ลิสต์หรือบัญชีรายชื่อ มี “พื้นที่” รับผิดชอบเฉพาะเรื่อง เช่น สิ่งแวดล้อม เกษตร เศรษฐกิจฯลฯ โดยเจาะลึกระดับจังหวัด หรืออำเภอ ตำบล ส่วนสส.เขต ไม่ได้ดูแค่งานเชิงพื้นที่ ต้องหา “ประเด็น” มองภาพใหญ่ระดับชาติให้ออก ทำงานนิติบัญญัติด้วย
2 ขานี้เลยไม่ได้ทำงานแยกกันซะทีเดียว แต่เป็น “กลไกสำคัญ” สร้างความเป็นองค์กร สถาบันทำงานการเมืองอย่างต่อเนื่อง เหมือนบริษัทหรือสตาร์ทอัพ คนอาจไหลเข้า ไหลออก
แต่ประเด็น - เทคโนโลยี – เครือข่ายยังอยู่กับองค์กร…
ไม่ว่าคุณจะไหลเข้า ไหลออกจากไมโครซอฟท์ กูเกิล เปลี่ยนซีอีโอหลายรอบ แต่บริษัทไม่หยุดเดิน องค์กรการเมืองก็เช่นกัน จากอดีต “อนาคตใหม่” สู่ “ก้าวไกล” มาถึง “พรรคประชาชน” ที่วางระบบ KM (Knowledge Management) อย่างจริงจัง ใครมีข้อมูลหรือประเด็นจากพื้นที่ต้องเอามาลงไว้ใน “ความรู้ส่วนกลาง” ที่ต่อยอดได้เสมอ
ฟังดูอาจไม่ตื่นเต้น แต่สำคัญต่อการรักษาองค์กรระยะยาว
ลองดูตัวละครพรรคส้ม แต่ละคนยังมีพื้นที่ทำงานของตัวเอง - คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่หน้างานที่ลำพูน คุณพรรณิการ์ วานิช ลุยสื่อสารทุกแพลตฟอร์ม อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล ทำงานทางความคิด ฯลฯ นี่แหละคือองค์กร
ข้อดีพลังส้มพร้อมลุยเลือกตั้งตลอด…
เดือนที่แล้วเพิ่งเปิดรับสมัคร “หลักสูตรนักการเมืองประชาชน – PC101” สำหรับคนอยากทำงานการเมืองกับพรรค ไม่ว่าจะเป็น สส. ระดับพื้นที่ ระดับชาติ เดี๋ยวเริ่มเทรนกันเดือนนี้ เดือนหน้า มีวิทยากรจากภายใน ภายนอก โดยเน้นคนภายในมาถ่ายทอดว่าลงพื้นที่ต้องทำอะไรบ้าง - อภิปรายในสภาได้อย่าง สิริกัญญา ตันสกุล ควรทำอย่างไร
มีคนสมัครมาเยอะ กระบวนการ “คัดเลือก”เป็นระบบขึ้น ทุกคนต้องเข้าใจคุณค่าอุดมการณ์พรรค – ทำไมเราคิดนโยบายต่างจากคนอื่นก่อนไปต่อหลักสูตรอื่น
“...เหมือนเวลาทำนโยบายเศรษฐกิจไทย มีอยู่ 2 ขั้ว คือขั้วเทคโนแครต เอาหลักวิชาความรู้ หลักการมารองรับ ส่วนอีกขั้วเป็นการเมือง ตอบโจทย์ประชาชนอยากได้อะไร
ทั้ง 2 ขั้วนี้เรามองมีปัญหาทั้งคู่ เหมือนการสร้างบ้าน ไม่ได้ถามแค่คนอยากอยู่ แต่ต้องฟังวิศวกร สถาปัตย์ด้วยว่าเป็นไปได้ไหม
หลักการทำนโยบายของพรรคประชาชน จึงผสมผสานทั้ง 2 ขั้ว นี่คือความต่างที่เราอยากสร้างบ้านให้คนอยู่พอใจ บ้านอยู่ได้นาน อยู่ได้ยาวด้วย...”
ฉากทัศน์หนึ่งคือเลือกตั้งปี 69 - อีกฉากทัศน์ปี 70…
ย้อนไปเลือกตั้งปี 62 พลังสีส้มเหมือนเป็นเส้นแบ่งชัดเจนระหว่าง “คสช” กับ “ฝ่ายประชาธิปไตย” พอปี 66 ฝ่ายประชาธิปไตยชัดเจน 60-70% แต่ก้าวไกลยังถูกมองเป็น “เบอร์ 2” ความสนใจเทไปบางนโยบาย บางด้าน เช่น การเมือง ทหาร หรือสวัสดิการเริ่มมากขึ้น
แต่เลือกตั้งครั้งหน้า ตั้งเป้าชัด...เป็นพรรคที่ทำ “ทุกมิติ” เชื่อแบรนด์ประชาธิปไตยทางการเมืองเราแข็งแรง เศรษฐกิจปากท้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และพยายามเพิ่มแบรนด์ทางสังคม ประกันสังคม การศึกษา สิทธิต่าง ๆ ฯลฯ เคลื่อนอยู่ตลอดเกือบ 15 กลุ่มประเด็นที่วางไว้
เสนอแนวทางจริง เหมือนเป็นรัฐบาล…
ถ้าสังเกตทิศทางช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากการโต้แย้งในมุม “ฝ่ายค้าน” มาสู่การโต้แย้ง ให้ข้อเสนอเหมือนเป็น “รัฐบาล” ทำให้คนเห็นเลยว่าถ้าเราเป็นรัฐบาล เราจะทำแบบนี้ ๆ
เช่นกรณีสงครามทรัมป์ เป็นพรรคแรก แถลงชัดว่าประเทศควรเตรียมสู้กับขั้วสงครามการค้าครั้งนี้อย่างไร พร้อมจัดสัมมนาใหญ่ ระดมตัวแทนจากภาคเอกชนชั้นนำ ระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ อดีตเอกอัคราชทูต สมาคมการค้า เกษตรต่าง ๆ มาแลกเปลี่ยน ก่อนส่งข้อเสนอนี้ไปยัง...สภา สบโอกาสอภิปรายเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
เป็นการเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งพ.ย. 67 จนเป็นประธานาธิบดี ยังมอนิเตอร์ วอร์รูมจับตามองตลอด นี่คือตัวอย่างการทำงานเชิงรุก
หรือกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเหตุการณ์เริ่มปะทุรุนแรงขึ้น พรรคแถลงทันทีแนะใช้มาตรการทูตและเศรษฐกิจก่อน
เพราะวันนี้ “โลกล้อมไทย” การต่างประเทศเป็นเรื่องเดียวกับในประเทศ กลายเป็นเรื่องปากท้องแล้ว – และการเมืองกับเศรษฐกิจก็กลายเป็นเรื่องเดียวกัน ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด ความยากตรงนี้แหละทำให้เราต้องแก้ทั้งระบบ
โดยเฉพาะจากรากของ “รัฐธรรมนูญ 2560” ถ้าอยากให้ “สภา” เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน ก็ต้องยืนยันบทบาทของสภากับตัวแทนประชาชนให้ชัด กวักมือชวนแก้รัฐธรรมนูญกันอีกครั้ง
สุดท้าย...มาแข่งกันอีกที แล้วแต่ประชาชนเจ้าของอำนาจจะตัดสินใจเลือกใคร --//--
.
By #บูรพาแมวเหมียว
23 มิ.ย.68
.
#WhoChillDay #วีระยุทธ์ กาญจน์ชูฉัตร
#พรรคประชาชน #พลังดูด #รัฐธรรมนูญ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา