Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Btwo
•
ติดตาม
23 มิ.ย. เวลา 05:59 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
7 อาการของโรค Thalassemia (ธาลัสซีเมีย) ที่คุณไม่ควรมองข้าม
ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) คือโรคโลหิตจางทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสาน ผู้ป่วยมักมีอาการเกี่ยวกับการสร้างเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ ทำให้ร่างกายมีออกซิเจนไม่เพียงพอ บางคนอาจมีอาการเล็กน้อยจนไม่รู้ตัว ในขณะที่บางคนมีอาการรุนแรงจนต้องได้รับเลือดเป็นประจำ มาดูกันว่ามี อาการแบบไหนบ้างที่อาจเป็นสัญญาณของโรคธาลัสซีเมีย และควรสังเกตไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
1.ซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
หนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดของธาลัสซีเมียคือ “ความซีด” เพราะร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน นำไปสู่ความรู้สึกเหนื่อย อ่อนแรงแม้ไม่ได้ออกแรงมาก เด็กที่เป็นธาลัสซีเมียมักเล่นได้น้อยกว่าคนอื่น หรือมีพฤติกรรมง่วงนอนบ่อย
2.ตัวเหลือง ตาเหลือง
เม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติจะถูกทำลายเร็วขึ้น ทำให้สารสีเหลืองในเลือด (บิลิรูบิน) เพิ่มสูงขึ้น เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งคล้ายกับอาการของโรคตับ แต่ถ้าเกิดร่วมกับอาการซีด ควรตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ
3.ท้องโต ตับม้ามโต
เม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติจะถูกตับและม้ามกำจัดออก ร่างกายจึงพยายามชดเชยโดยการขยายตับและม้ามให้ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้หน้าท้องดูโตหรือบวมผิดปกติ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
4.กระดูกใบหน้าเปลี่ยนรูป
ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ร่างกายจะพยายามสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นจากไขกระดูก ทำให้กระดูกขยายและผิดรูป โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม และขากรรไกร เกิดลักษณะที่เรียกว่า “หน้าธาลัสซีเมีย”
5.เจริญเติบโตช้าในเด็ก
ธาลัสซีเมียอาจทำให้เด็กโตช้ากว่าปกติ ทั้งในด้านส่วนสูง น้ำหนัก และพัฒนาการต่างๆ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากในการสร้างเม็ดเลือด อีกทั้งยังเกิดจากภาวะซีดเรื้อรังที่ทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่
6.ติดเชื้อง่าย ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
การรับเลือดบ่อยๆ หรือการมีม้ามโตสามารถลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผู้ป่วยธาลัสซีเมียบางรายป่วยบ่อย หรือติดเชื้อง่ายกว่าคนทั่วไป เช่น ไข้หวัดบ่อย หรือเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
7.มีนิ่วในถุงน้ำดี หรืออาการปวดท้องบ่อย
เมื่อเม็ดเลือดแดงถูกทำลายมากขึ้น จะมีการสร้างสารบิลิรูบินมาก ส่งผลให้เกิด “นิ่วในถุงน้ำดี” ได้มากกว่าคนปกติ บางคนอาจมีอาการปวดท้องบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรือมีอาการจุกแน่นบริเวณชายโครงขวา
ธาลัสซีเมียเป็นโรคที่สามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ โดยการตรวจเลือดและตรวจพันธุกรรม หากพบว่าตนเองหรือคนในครอบครัวมีอาการข้างต้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการวางแผนรักษาและดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ค่ะ
สุขภาพ
โรงพยาบาล
คลินิก
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย