🛢 ราคาน้ำมันพุ่งรับแรงกระแทก! หลังสหรัฐฯ โจมตีแหล่งนิวเคลียร์อิหร่าน
📰 Oil Prices Rise to Five-Month High A Day After US Strikes Iran’s Nuclear Sites
📌 🛢️ น้ำมันพุ่งแตะจุดสูงสุดรอบ 5 เดือน — สะเทือนทั้งภูมิภาค
ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งแรงในวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2025 หลังจากสหรัฐฯ เข้าร่วมกับอิสราเอลโจมตีแหล่งนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน โดย:
◻️ Brent Crude Futures พุ่งขึ้น +2.49% ปิดที่ $78.93 ต่อบาร์เรล
◻️ WTI Crude (US) กระโดด +2.56% ไปอยู่ที่ $75.73 ต่อบาร์เรล
แรงดีดขึ้นของราคาน้ำมันส่วนหนึ่งมาจากความกังวลว่าเหตุการณ์จะลุกลามเป็นความขัดแย้งเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของโลก
📌 📉 ตลาดหุ้นเอเชียร่วงระนาว — นักลงทุนเทขายถือเงินสด
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงโดยพร้อมเพรียง:
◻️ ดัชนี MSCI Asia-Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) ร่วง -1%
◻️ ตลาดหุ้นอินเดียหล่น -1% ทันทีวันถัดมา
◻️ Nikkei ญี่ปุ่น -0.6% จีน -0.2%
ในฝั่งสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนหันหาความปลอดภัย
📌 💰 Bitcoin ดิ่ง – ทองคำร่วง – Ether ทรุดเร็วที่สุด
ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและทองคำต่างเผชิญแรงกดดัน:
◻️ Bitcoin หลุดระดับ $99,000 ต่ำสุดในรอบหลายเดือน
◻️ Ether ทรุดกว่า -10% กลายเป็นสินทรัพย์ที่ตอบสนองเร็วที่สุดต่อวิกฤต
◻️ ราคาทองคำ Spot Gold ลดลง -0.4% มาอยู่ที่ $3,354.03 ต่อออนซ์
📌 🇹🇭 วิเคราะห์ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
▪️ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงย่อมส่งผลต่อต้นทุนขนส่ง พลังงาน และการผลิตภาคอุตสาหกรรม
▪️ อัตราเงินเฟ้อในไทยอาจกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในหมวดพลังงานและอาหาร
▪️ ความไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ อาจกดดันตลาดทุนไทยในระยะสั้น
📌 📊 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
🔺 หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันพุ่ง:
– 🟢 PTT, PTTEP: ผู้ผลิตและสำรวจพลังงานที่อิงราคาน้ำมันโดยตรง
→ รายได้และกำไรสุทธิของ PTTEP มีแนวโน้มดีดตัวแรง หากราคาน้ำมันยืนระดับสูงได้ต่อเนื่อง
→ PTT ในฐานะบริษัท Holding ในกลุ่มพลังงาน อาจได้ Sentiment บวกระยะสั้น
– 🟢 TOP, BCP, IRPC: กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน
→ Spread น้ำมันดีดขึ้นทันทีหลังข่าว อาจส่งผลบวกต่อกำไรขั้นต้น
🔻 หุ้นที่ได้รับแรงกดดันจากต้นทุนพลังงานสูงขึ้น:
– 🔴 AAV, BA, THAI: กลุ่มสายการบิน
→ น้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นสัดส่วนต้นทุนหลัก ราคาที่เพิ่มขึ้นกดดันอัตรากำไรต่อเนื่อง
– 🔴 SCGP, TPIPP, DCC: กลุ่มอุตสาหกรรมใช้พลังงานสูง
→ ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นในขณะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นชัด อาจกระทบกำไรสุทธิ
– 🔴 WICE, III, TTA: กลุ่มโลจิสติกส์และขนส่ง
→ ต้นทุนน้ำมันและค่าขนส่งอาจสูงขึ้นในทันที ขณะที่ราคาค่าขนส่งอาจยังไม่ปรับตัวตามทัน
🔺 หุ้นที่ได้รับ Sentiment เชิงบวกจากความไม่แน่นอน:
– 🟢 MTC, HENG: กลุ่มสินเชื่อรายย่อยและโรงรับจำนำ
→ นักลงทุนบางกลุ่มอาจมองว่าเป็น Safe Haven ทางการเงินในช่วงความไม่แน่นอน
– 🟢 INET, INSET: ระบบโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่าย
→ หากสถานการณ์ลุกลามเป็นสงครามไซเบอร์ การลงทุนในโครงข่ายจะยิ่งจำเป็น
📌 🧠 มุมมองนักวิเคราะห์: “Conflict Premium” กำลังกลับมา
ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มสะท้อน "ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์" (Geopolitical Premium) ที่หายไปนาน หากความตึงเครียดในอิหร่าน-อิสราเอล-สหรัฐฯ บานปลายไปถึงเส้นทางขนส่งน้ำมันอย่างช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ราคาน้ำมันอาจทะยานแตะ $90 ได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
📌 💬 แล้วคุณล่ะ คิดว่าราคาน้ำมันจะไปต่อหรือสะดุด?
หุ้นกลุ่มไหนที่คุณจับตาอยู่?
ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองของคุณกับเราในคอมเมนต์ได้เลยค่ะ!
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#น้ำมันพุ่ง #สงครามตะวันออกกลาง #หุ้นไทย #เศรษฐกิจโลก #ความมั่นคงพลังงาน #SET #CryptoCrash #Geopolitics #BattleOfEconomies #WorldScopeข่าวเด่น
📰 Reference: YouTube
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
