25 มิ.ย. เวลา 00:16 • หนังสือ

เรื่องเล่าของเล็ก ตอนที่ 87 "เมื่อผมไปทำ MRI" 2 ตค 62

การทำ MRI ครั้งนี้ เป็นการตรวจรักษา พยาบาล ครั้งที่ ผมลุ้นมากที่สุดกันเลยทีเดียว เพราะเป็นการตรวจเพื่อหาว่า ก้อนเนื้อขนาด 1 เซนติเมตร ที่ตับ จะเป็นเนื้อร้าย ที่จะก่อให้เกิดมะเร็งตับ หรือไม่โคตรลุ้น
ผมเคยตรวจพบว่า เป็นพาหะ ไวรัสตับอักเสบ เกือบประมาณ ยี่สิบกว่าปีก่อนแล้ว ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ปี 1 ที่ตรวจพบก็เพราะว่า อยากจะบริจาคโลหิต รถจากสภากาชาดไทย มารับบริการที่มหาวิทยาลัย ผมก็เลยอยากลองบริจาคดู
การบริจาคโลหิต สภากาชาด ต้องตรวจดูด้วยว่า เลือดของเรามีโรคติดต่อ อะไรหรือเปล่า ผลเลือดครั้งน้ัน ก็พบว่าผมเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี ก็งงเหมือนกันว่าทำไมเป็นพาหะได้ เพราะตอนเด็กๆ ผมได้ฉีดวัคซีนป้องกันไวแล้ว ที่โรงเรียน
จำได้เลยว่า ฉีดตั้ง 3 ครั้ง เด็กๆ ทุกคนต้องฉีด ก็เลยมีโอกาสถามหมอ หมอบอกว่า มันอาจจะติดจากแม่ มาแล้วตั้งแต่แรกเกิดก็เป็นได้ การฉีดป้องกันตอนโตขึ้นมาเลยไม่มีภูมิตอนวัยรุ่น และวัยทำงาน ก็ใช้ตับแบบไม่นึกถึงอะไร กินเหล้าแทบทุกวัน จนได้รับ คำชม จากทีมงาน ว่าเป็นผู้นำแสงสว่างของทีมงาน กินจน บางครั้งอ้วก ออกมาเป็นน้ำดี เขียวๆ กันเลยทีเดียว
ยิ่งโตมา ยิ่งกินอาหารไม่มีประโยชน์ จนเกิดภาวะไขมันพอกตับขึ้นมา ทำอัลตร้าซาวด์หลายครั้ง เพื่อตรวจการทำงานของตับ แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีชื้นเนื้อเกิดขึ้น
จนวันหนึ่ง หลังจากลด นน ลงได้ เกือบ 20 กิโลกรัม ชิ้นเนื้้อชิ้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น ซึ่งหมอก็บอกว่าไม่น่าเป็นเนื้อร้ายไร แต่มีภาวะ ของพาหะไวรัสบี ก็เลยบอกเราว่า ไปทำ MRI เถอะนะ เพราะบางครั้ง หมอก็ต้องการฟันธง แบบมั่นใจไปว่า ไม่ใช้เนื้อร้าย
ผมไปทำ MRI ในวันที่ 21 กันยายน เป็นวันเสาร์ที่ฝนตกหนักมากๆ แอร์ในห้อง MRI ก็โคตรเย็นเลยอ่ะ MRI เป็นเครื่่องมือทางการแพทย์แบบหนึ่ง ที่ทำงาน โดยอาศัยคลื่นวิทยุ ร่วมกับ คลื่นสนามแม่เหล็กแรงสูง
ในการถ่ายภาพอวัยวะต่างๆ ที่เราต้องการตรวจนั่นแหละ เช้าวันตรวจ ผมรู้สึกตื่้นเต้นมากๆ ต้องอดอาหารก่อนทำการตรวจประมาณ 6 ชั่วโมง หมอนัดตรวจผม 13.00 ผมออกจากบ้านไป รพ ตั้งแต่ 10.30 ไปถึง รพ ฝนตกหนักพอดี
ขั้นตอนการตรวจเริ่มจาก ผมต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปสวมชุดที่ รพ เตรียมไว้ และต้องถอดโลหะทุกชิ้นออกจากร่างกาย สักพัก น้องพยาบาล ก็มาวัดความดัน เจาะเข็มเพื่อที่จะทำการฉีดยาในขณะตรวจ เข็มปลายเล็กมากๆ แต่โคตรจะแหลมเลย น้องพยาบาลเดินเข็มได้เบามากๆ ไม่รู้สึกเจ็บอะไรนัก
จริงๆ น้องพยาบาลเค้าสวย เลยมัวแต่มองหน้าเค้าอยู่ อิอิ พอเดินเข็มแล้ว ผมก็ต้องไปนอน ที่เตียง ที่จะถูกนำเข้าไปในอุโมงค์ เจ้าหน้าที่จะช่วยจัดท่าทางของศีรษะ ลำตัว และแขนให้อยุ่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
จากนั้นจะมีเครื่องจับสัญญาณคลื่นแม่เหล็ก ซึ่งโคตรจะหนักเลยมาวางทับบนหน้าอก ยาวไปถึงท้องเราเลย แล้วก็ทำการเลื่อนถาด เข้าไปในอุโมงค์
ในอุโมงค์ มีขั้นตอนเยอะมากๆ ก่อนจะทำการตรวจหมอเคยถามเราว่า กลัวที่แคบ หรือเปล่า จริงๆ แล้วมันแคบ เวลานอนในอุโมงค์ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแคบอะไรเลย เหมือนนอนดูดาวที่ท้องฟ้าจำลองด้วยซ้ำไป
เพียงแต่อุโมงค์เป็นสีขาวเท่านั่นเอง เสียงในการตรวจค่อนข้างดัง น้องพยาบาลเอาหูฟังมาให้เราสองชั้นเลย เป็นชั้นที่เอาไว้ฟังคำสั่งว่า ต้องทำอะไร และชั้นที่ปิดเสียงดังของเครื่องในขณะทำงาน
ในการตรวจตับ ของผมวันนััน ผมต้องทำกิจกรรมตามคำสั่งทั้งหมด 5 เซต แต่ละเซตใช้เวลาตรวจและพักประมาณ 8-10 นาที ทั้งหมดผมใช้เวลาตรวจ 1 ชม เพื่อนๆ เคยจำเสียง printer ที่เป็นรุ่นโบราณได้ไหม ที่เสียงดังแค้ดๆๆๆๆๆ เสียงเครื่อง MRI ก็ดังคล้ายๆ แบบนั้น แต่ดังกว่านั้นประมาณ 100 เท่าได้
ตุ๊ก บอกว่า เสียงดังออกมาถึงข้างนอกเลย ในการตรวจ ต้องมีการหายใจ กลั้นหายใจ กลั้นหายใจนานมากๆ ผู้ตรวจบอกด้วยว่า ต้องกลั้นไว้ให้สุด ห้ามปล่อยลมออกมาด้วย
ในที่สุดเมื่อวาน 1 ตค ก็ถึงวันที่ผมต้องไปฟังผลการตรวจ เป็นอะไรที่ลุ้นมากๆ บอกตัวเองตลอดว่าไม่เป็นไร หมอก็บอกว่าไม่ใช่เนื้อร้าย แต่มีโอกาสที่จะเป็นเฉยๆ
ผมไปถึง รพ ตั้งแต่ ตีห้า ตื่นเต้นเนอะ ไปวางคิว เดินไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน รพ และไปนั่งรอหมอ หมอที่ตรวจผม ค่อนข้างอธิบายละเอียดมากๆ กว่าผมจะได้เข้าไปพบหมอ ก็ 11.30 เข้าไปแล้ว
เป็นห้าถีงหกชั่วโมงที่เต็มไปด้วยความกังวล พยายามทำสมาธิก็ดีขึ้นมาบ้าง 11.30 คิวรอหน้าห้องตรวจ มีคนไข้ก่อนหน้าเข้าไป จะถึงตาเราแล้ว เหมือนตัวเย็นๆ ชาๆ แบบบอกไม่ถูก เหมือนทำผิดอะไรสักอย่าง แล้วต้องไปรอการลงโทษ
11.35 ได้เข้าไปหาหมอในห้องตรวจ หมอจำเราได้ ถามคำแรกว่าเป็นไงมั้งคะ ตอบหมอไม่ถูกเลย หมอเปิดคอมดูประวัติเรา แล้วก็แจ้งข่าวโคตรดีเลยว่า มันเป็นแค่ก้อนเลือดค่ะ ไม่มีอันตรายอะไร
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โคตรดีใจ หมออธิบายให้ฟังเยอะมากๆ เปิดผลอัลตร้าซาวด์ แสดงถึงภาวะการทำงานของตับเรา อธิบายผลเลือด ทุกอย่าง ใจเย็นตอบคำถามผมด้วยความเต็มใจ
สุดท้ายก็ยังต้องติดตามการทำงานของตับเรื่อยๆ แต่หมอนัดนานมากขึ้น ตรวจการทำงานของตับทุก 6 เดือน ผลเลือดที่แสดงค่าตับ ดีมากๆ การอักเสบลดลงอย่างเห็นชัดเจนไขมันพอกตับอันตราย มากๆ นะครับ ถ้าไม่เอามันออกก็ไม่มีทางเห็นตับชัดๆ แบบผมในวันนี้ .... เพื่อนๆ ตระหนักถึงอันตรายของมันบ้างหรือยัง
โฆษณา