[WorldScope] 🌊 อาเซียนรับมือโลกร้อนผ่านวิกฤตน้ำ: ทางรอดเศรษฐกิจหรือความเสี่ยงถาวร? 🌏 Adaptation through Water: ASEAN Urged to Boost Climate Resilience

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

WorldScope

•

25 มิ.ย. เวลา 10:06 • ข่าวรอบโลก

🌊 อาเซียนรับมือโลกร้อนผ่านวิกฤตน้ำ: ทางรอดเศรษฐกิจหรือความเสี่ยงถาวร?

🌏 Adaptation through Water: ASEAN Urged to Boost Climate Resilience

🔵 น้ำ: จุดศูนย์กลางของวิกฤตโลกร้อนที่ไม่อาจมองข้าม

รายงานล่าสุดจาก Global Commission on the Economics of Water (GCEW) ระบุว่า “กว่า 90% ของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว มีจุดร่วมที่เกี่ยวข้องกับ ‘น้ำ’” ทั้งน้ำมาก น้ำขาด และน้ำสกปรก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเสี่ยงสูญเสีย GDP มากถึง 25% หากไม่เร่งปรับตัวอย่างจริงจัง

➤ รายงานจาก World Economic Forum (WEF) และ Singapore International Foundation (SIF) จึงเสนอแนวทาง “Adaptation through Water (AtW)” เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันของประเทศในภูมิภาคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

🌊 Too Much Water — น้ำท่วมซ้ำซาก กลืนเศรษฐกิจชายฝั่ง

เวียดนามติดอันดับ 1 ของโลกทั้งด้านความเสี่ยงน้ำท่วมชายฝั่งและน้ำท่วมจากแม่น้ำ ในขณะที่ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทยก็กำลังเผชิญเหตุการณ์คล้ายคลึง การลงทุนเพื่อรับมือกับน้ำท่วมในภูมิภาคนี้จำเป็นต้องใช้มากกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ซึ่งรวมถึงระบบระบายน้ำอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานการเก็บน้ำฝน

📌 ผลกระทบต่อหุ้นไทย (จากความเสี่ยงน้ำท่วมในภาคอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง):

🏢 A (อารียา) : พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายแห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เสี่ยงต่อระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นในฤดูฝน

🏗️ A5 (แอสเซท ไฟว์) : ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบเฉพาะกลุ่ม หากพื้นที่โครงการอยู่ในโซนเสี่ยง อาจต้องชะลอแผนการพัฒนา

🏠 NOBLE (โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์) : พัฒนาอสังหาฯ ระดับบนในเขตเมือง เช่น กรุงเทพฯ ชั้นใน การออกแบบและระบบระบายน้ำต้องปรับปรุงเพื่อรองรับความเสี่ยง

📌 ผลกระทบต่อหุ้นไทย (จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ):

🔧 ในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากโครงการของภาครัฐและท้องถิ่นที่เร่งรับมือวิกฤตน้ำท่วม พบว่า:

🔹 WIIK (วิค) — ผู้นำชัดเจนในระบบท่อและการจัดการน้ำ

– ผลิตท่อ PE / PVC / PPR พร้อมอุปกรณ์ข้อต่อ

– มีบริการออกแบบ ติดตั้งระบบท่อครบวงจร (turn key)

– มีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจบริหารจัดการน้ำโดยตรง

✅ เป็นหุ้นที่ตรงจุดมากที่สุดในการรับอานิสงส์จากนโยบายรัฐด้านน้ำ

🔹 STECON (สเตคอน กรุ๊ป) — รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ของประเทศ

– มีความเชี่ยวชาญด้านโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เขื่อน ถนน ระบบระบายน้ำ

– ได้รับงานจากภาครัฐจำนวนมาก

✅ มีศักยภาพในการรับงานก่อสร้างระบบจัดการน้ำขนาดใหญ่ในระยะยาว

🔹 24CS (ทเวนตี้ โฟร์ คอน แอนด์ ซัพพลาย) — รับเหมาระบบวิศวกรรมครบวงจร

– ทำระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า รวมถึงระบบระบายน้ำในอาคารและโครงการสาธารณูปโภค

– หากรัฐลงทุนในอาคาร/ศูนย์อพยพ/โครงสร้างรับน้ำ 24CS อาจเป็นหนึ่งในผู้รับเหมา

✅ เหมาะกับงานโครงสร้างภาครัฐแนวสมาร์ทซิตี้และป้องกันน้ำท่วมระดับเมือง

🔹 ALLA (ออลล่า) — ผู้ผลิต-ติดตั้งระบบขนถ่ายวัสดุอุตสาหกรรม

– แม้จะไม่ได้ผลิตระบบน้ำโดยตรง แต่สามารถรับงานด้านระบบยกเคลื่อนอุปกรณ์ในพื้นที่ก่อสร้างระบบน้ำ

✅ อาจรับอานิสงส์ทางอ้อมจากโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ระบบเคลื่อนย้ายวัสดุ

🌵 Too Little Water — ภัยแล้งรุกล้ำอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม

ประเทศไทย โดยเฉพาะภาคกลางและภาคอีสาน ประสบภัยแล้งถี่ขึ้น ส่งผลต่อแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรกว่า 1 ใน 3 และยังคุกคามอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น data center ที่ต้องใช้น้ำปริมาณมาก เช่น ในมาเลเซียที่เตรียมออกกฎให้ศูนย์ข้อมูลต้องมีแหล่งน้ำสำรองก่อนเปิดดำเนินการ

📌 ผลกระทบต่อหุ้นไทย (จากปัญหาภัยแล้งและน้ำขาดแคลน):

🌾 กลุ่มเกษตรและอาหาร

– KWM (เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค) : ผู้ผลิตอุปกรณ์การเกษตร เช่น ใบผาล ใบเกลียวลำเลียง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้งานภาคเกษตรที่ชะลอตัว

– TVO (น้ำมันพืชไทย) : ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและวัตถุดิบอาหารสัตว์ เสี่ยงต่อการขาดแคลนวัตถุดิบและต้นทุนน้ำสูงขึ้น

– CPF (เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) : ผู้ผลิตอาหารสัตว์และโปรตีนรายใหญ่ เผชิญต้นทุนการเลี้ยงสัตว์และกระบวนการผลิตที่ใช้น้ำจำนวนมาก

– TFG (ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป) : ผู้ประกอบธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูปอาหาร โปรไฟล์คล้าย CPF เสี่ยงจากต้นทุนที่เพิ่มและผลผลิตที่ลด

– RBF (อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย) : ผลิตสารแต่งกลิ่นรสในอาหาร ใช้น้ำในกระบวนการผลิตสูง หากน้ำขาดแคลนอาจต้องหยุดสายการผลิตบางส่วน

🏭 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำสูง

– HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส): โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้น้ำบริสุทธิ์ในการล้างแผงวงจร เสี่ยงจากการจำกัดการใช้น้ำในช่วงภัยแล้ง

– KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์): ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ซึ่งใช้กระบวนการเคมีที่ใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง

– DELTA (เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)): ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ในไทย การขาดแคลนน้ำอาจกระทบต่อความต่อเนื่องของการผลิต

– IRPC (ไออาร์พีซี): กลุ่มปิโตรเคมีที่ต้องใช้น้ำจำนวนมากในกระบวนการกลั่นและผลิตเม็ดพลาสติก

– PTTGC (พีทีที โกลบอล เคมิคอล): ธุรกิจปิโตรเคมีแบบครบวงจร ใช้น้ำทั้งในระบบผลิตและระบายความร้อน

– SCC (ปูนซิเมนต์ไทย): กลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีทั้งปูนซีเมนต์ ปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้างที่ใช้น้ำจำนวนมาก

🧪 Too Dirty Water — มลพิษทางน้ำ: ภัยเงียบที่ขยายวง

ปัญหามลพิษจากโรงงานและการจัดการน้ำเสียไม่ทันสมัย กำลังทวีความรุนแรงในไทย เวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมอ่อนแอ

📌 ผลกระทบต่อหุ้นไทย (จากปัญหาน้ำเสียและการควบคุมสิ่งแวดล้อม):

🏭 กลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์หรืออาจถูกควบคุมเข้มงวดมากขึ้น

– TSTH (ทาทา สตีล (ประเทศไทย)): ธุรกิจผลิตเหล็กซึ่งมีความเสี่ยงจากการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิต อาจถูกเพ่งเล็งในด้านสิ่งแวดล้อม

– UAC (ยูเอซี โกลบอล): ดำเนินธุรกิจพลังงานและเคมีภัณฑ์ อาจได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบด้านน้ำเสียที่เข้มงวดขึ้น

– TOA (ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย)): ผลิตสีและสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีความเกี่ยวข้องกับน้ำเสียจากสารเคมี

– HENG (เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล): แม้เน้นธุรกิจไฟแนนซ์ แต่มีการขยายไปในธุรกิจพลังงาน/เคมีบางส่วน ซึ่งควรจับตาด้านสิ่งแวดล้อม

– IRCP (อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น): มีพอร์ตที่เกี่ยวข้องกับโซลูชันเทคโนโลยีและบางโครงการในภาคอุตสาหกรรมที่อาจถูกตรวจสอบด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

🧼 กลุ่มที่อาจได้รับประโยชน์จากการเร่งลงทุนในระบบบำบัดน้ำเสีย

– NER (นอร์ทอีส รับเบอร์): แม้ธุรกิจหลักคือยางพารา แต่มีการลงทุนในระบบบำบัดเพื่อมาตรฐาน ESG และอาจขยายในอนาคต

– BWG (เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน): เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการของเสียอุตสาหกรรมและระบบบำบัดน้ำเสียโดยตรง มีโอกาสเติบโตจากกฎควบคุมใหม่

– EASTW (จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก): ผู้ให้บริการน้ำประปาและระบบบำบัดน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เป็นผู้เล่นสำคัญที่รัฐอาจใช้ในการเร่งโครงการ

📈 4 แนวทางหลักเพื่อความมั่นคงทางน้ำของอาเซียน

🔹 ลดความเสียหายจากน้ำท่วมต่อทรัพย์สินและระบบเศรษฐกิจ

🔹 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและหาแหล่งน้ำสำรอง

🔹 ตั้งกรอบการเงินรองรับโครงการ AtW ดึงดูดการลงทุนภาคเอกชน

🔹 ใช้ AI และ Data Analytics เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านน้ำอย่างยั่งยืน

💡 ตัวอย่างน่าสนใจ: OECD รายงานว่า “ภัยแล้งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 100% ตั้งแต่ปี 2000” และทุก 1 ดอลลาร์ที่ลงทุนเพื่อป้องกันภัยแล้ง อาจสร้างผลตอบแทนถึง 10 ดอลลาร์ ทำให้การลงทุนด้านน้ำไม่ใช่ภาระ แต่เป็น “โอกาสทางเศรษฐกิจแห่งอนาคต”

📌 คำถามสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

– เราพร้อมหรือยังกับการจัดการน้ำแบบบูรณาการ ไม่ใช่แค่แหล่งน้ำธรรมชาติ แต่รวมถึง "ข้อมูล น้ำใจ และเงินทุน"?

– ไทยจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีน้ำในภูมิภาค หรือจะกลายเป็นผู้รับผลกระทบซ้ำซากจากภัยธรรมชาติที่เรามองข้าม?

💬 ร่วมแสดงความคิดเห็น:

คุณคิดว่าไทยควรเร่งลงทุนด้านใดก่อนในระบบน้ำ — การจัดเก็บน้ำ การบำบัด หรือระบบบริหารจัดการข้อมูลน้ำ?

แล้วธุรกิจใดที่ควรเร่งปรับตัวมากที่สุด?

👇 แสดงความคิดเห็นและร่วมเสนอแนวทางได้ที่นี่นะคะ!

📌 Hashtags:

#AdaptationThroughWater #ClimateCrisis #GreenTransition #ASEANWaterCrisis #น้ำคือชีวิต #สิ่งแวดล้อมเชิงระบบ #หุ้นไทยเสี่ยงน้ำ #StockImpact #SETandmai #WorldScope #GreenUprising

📚 Reference: Reccessary

https://reccessary.com/en/news/adaptation-through-water-asean-urged-to-boost-climate-resilience

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

กระแสรักษ์โลกใต้เงาอำนาจและธุรกิจ (Green Uprising)

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

🌊 อาเซียนรับมือโลกร้อนผ่านวิกฤตน้ำ: ทางรอดเศรษฐกิจหรือความเสี่ยงถาวร?

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน