26 มิ.ย. เวลา 01:00

The Great Wave: ระหว่างคลื่นสามลูก

FA Talk | จักรวาลเรื่องเล่าจากชมรมศิลป์ #15
เช้าวันอังคารที่ดูเหมือนจะเงียบกว่าวันอื่น ๆ ผมนั่งอยู่ในห้องทำงานที่ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงนัก นอกจากกาแฟที่เย็นเร็วกว่าปกติ
แสงแดดสีซีดลอดผ่านมู่ลี่สีหม่น ภาพพิมพ์บนผนังห้องยังอยู่ที่เดิม 'The Great Wave off Kanagawa' คลื่นยักษ์สูงตระหง่าน เรือลำเล็กกำลังฝ่าคลื่นอย่างหวาดเสียว และภูเขาไฟฟูจิที่ยืนนิ่งอยู่ลิบ ๆ
"แปลกดี..." ผมพึมพำกับตัวเอง “คลื่นนั่นไม่เคยเปลี่ยน แต่เรากลับรู้สึกถึงมันต่างกันในแต่ละวัน”
วันนั้นเองที่ผมเริ่มรู้สึกว่า...ชีวิตเรากำลังถูกคลื่นบางอย่างซัดเข้ามา
ไม่ใช่คลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้จากความเปลี่ยนแปลงรอบตัว
คลื่นลูกแรก: เมืองที่เงียบกว่าที่ควรจะเป็น
ผมเดินผ่านตลาดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม่ค้าร้านดอกไม้ที่เคยยิ้มทักทายดูเหนื่อยล้า ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำติดป้าย "หยุดไม่มีกำหนด"
แม้ไม่มีพายุ ไม่มีข่าวร้าย แต่ผู้คนกลับเงียบลง ใช้จ่ายน้อยลง พูดคุยน้อยลง
ราวกับเมืองทั้งเมืองกำลังหายใจเบาลงเพื่อประหยัดพลังงานชีวิต
คลื่นลูกนี้ไม่ทำให้บ้านพัง แต่มันแทรกเข้ามาในทุกซอกหลืบของความรู้สึก
ทำให้เรารู้สึกอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว
คลื่นลูกที่สอง: ความไม่แน่นอนทางการเมือง
แม้จะเกิดจากเพียงเสียงโทรศัพท์หนึ่งสายหรือความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพียงเล็กน้อย แต่ผลกระทบกลับกระจายกว้าง ทั้งความเชื่อมั่นที่สั่นไหว การตัดสินใจที่ชะงักงัน และแรงสั่นสะเทือนที่อาจส่งต่อไปยังเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน คลื่นลูกนี้มาไวและเกิดซ้ำ จนเราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า "พื้นดินที่ยืนอยู่" มั่นคงแค่ไหน
คลื่นลูกที่สาม: ข่าวจากที่ไกล ที่กระทบใจใกล้
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร การขึ้นราคาน้ำมันในเมืองเล็ก ๆ ของเรา
มีเหตุจากอะไรบางอย่างในทะเลทรายห่างออกไปครึ่งโลก
บางครั้งก็เป็นเรื่องราวในยุโรป บางครั้งคือสงครามที่เราไม่มีบทบาท
แต่ทุกครั้งที่คลื่นลูกนี้มาถึง เรารู้สึกเหมือนถูกสาดน้ำใส่หน้าโดยไม่ทันตั้งตัว
ผมเริ่มเข้าใจว่าคลื่นบางลูก แม้จะเกิดไกล แต่ก็ซัดเข้ามาแรงกว่าที่เราคิด
แล้วผมควรทำอย่างไรกับคลื่นพวกนี้?
ผมยังคงนั่งเงียบอยู่หน้าภาพ The Great Wave คลื่นยังคงซัดสาด และฟูจิยังคงนิ่ง
ความคิดผมเปลี่ยนจากภาพพิมพ์บนผนังมาเป็น “แผนการเงิน”
  • ปรับพอร์ตให้สมดุล ตามกฎโลกสากล ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแนะนำการกระจายการลงทุน (diversification) เช่น แบ่งเงินระหว่างหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดความผันผวนจากคลื่นการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ หุ้นที่สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ หรือกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นก็ช่วยเป็นฐานมั่นคงในพอร์ต
  • อย่าตกใจกับข่าว จง “อย่าหลงกล เมื่อข่าวการเมืองหรือสงครามทำตลาดผันผวน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอย่ารีบซื้อขายตามอารมณ์ เพราะเสี่ยง “ซื้อสูง-ขายต่ำ” ใจเย็น รักษาเป้าหมายระยะยาวไว้เสมอ
  • พก “ฟูจิ” ในพอร์ตของคุณ สินทรัพย์ปลอดภัยที่มีสภาพคล่องสูงพอใช้จ่าย 6–12 เดือน เช่น เงินสด กองทุนตลาดเงิน หรือพันธบัตรระยะสั้น และสินทรัพย์ที่มั่นคงต่อต้านเงินเฟ้อ เช่น TIPS, ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ สิ่งเหล่านี้คือ “ภูเขาไฟฟูจิ” ในพอร์ต ที่ช่วยให้มั่นคงแม้คลื่นโถมใส่
  • เปิดใจรับโอกาสในความผันผวน ความผันผวนไม่ใช่ศัตรูเสมอไป เมื่อตลาดตกหนัก อาจเป็นจังหวะดีที่จะทยอยซื้อเพิ่ม ผู้เชี่ยวชาญจาก J.P. Morgan, VanEck และ RBC แนะนำให้รักษาวินัยลงทุนระยะยาว “การตัดสินใจที่มีหลักการ” จะช่วยให้พอร์ตเติบโตได้อย่างมั่นคง
บทสุดท้ายของเช้าวันนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเสียงของเพื่อนเก่าที่ไม่ได้คุยกันมานาน เขาพูดถึงโอกาสใหม่ งานใหม่ หรือเส้นทางใหม่
ผมยิ้มเล็กน้อย กดวางสาย แล้วหันกลับไปมองภาพเดิม
คลื่นยังซัด ฟูจิยังอยู่
บางที...แค่เราวางตัวเองให้มั่นคงเหมือนภูเขาลูกนั้น เราก็อาจอยู่รอดได้ ไม่ว่าจะมีคลื่นอีกกี่ลูกพัดเข้ามา
โฆษณา