Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
D
DOUBLET
•
ติดตาม
26 มิ.ย. เวลา 05:36 • สุขภาพ
การตรวจเอชไอวี แบบใดที่เหมาะกับคุณ? แนะนำประเภทการตรวจที่ควรรู้
การรู้สถานะเอชไอวีของตนเองไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพ แต่ยังเป็นการดูแลคนรอบตัว และช่วยหยุดวงจรของการแพร่เชื้อในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีการตรวจเอชไอวีหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างในเรื่อง ช่วงเวลาตรวจได้เร็วที่สุด (window period), ความแม่นยำ, และ ระยะเวลารู้ผล
ประเภทของการตรวจเอชไอวีที่ควรรู้
1. การตรวจแอนติบอดี (HIV Antibody Test)
นี่คือการตรวจที่พบบ่อยที่สุด โดยจะตรวจหา แอนติบอดี (ภูมิคุ้มกัน) ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อเชื้อเอชไอวี
ช่วงเวลาตรวจได้ (window period): ประมาณ 3 สัปดาห์ถึง 3 เดือนหลังรับเชื้อ
ข้อดี:
●
ราคาไม่แพง
●
สามารถตรวจได้ง่ายในหลายคลินิก
●
มี Rapid Test แบบรู้ผลเร็วให้บริการ
ข้อควรระวัง:
●
ถ้าตรวจเร็วเกินไป (ก่อน 3 สัปดาห์) อาจให้ผลลบลวง (false negative)
●
จำเป็นต้องตรวจซ้ำหากเสี่ยงไม่เกิน 3 เดือน
2. การตรวจแอนติเจน/แอนติบอดี (HIV Ag/Ab Combo Test หรือ 4th Generation)
การตรวจเอชไอวี แบบรุ่นที่ 4 นี้สามารถตรวจหาได้ทั้ง แอนติบอดี และ แอนติเจน p24 ซึ่งเป็นโปรตีนของไวรัสที่เกิดขึ้นเร็วในระยะแรกหลังติดเชื้อ
เรียนรู้เพิ่มเติม
love2test.org
การตรวจเอชไอวี เรื่องดีที่ไม่ควรมองข้าม | Love2Test
การตรวจเอชไอวี เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันโรคเอดส์ เนื่องจากโรคเอดส์เป็นอาการที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวีที่ทำลายภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อ
ช่วงเวลาตรวจได้: ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไปหลังรับเชื้อ
ข้อดี:
●
ตรวจได้เร็วกว่าแบบแอนติบอดีล้วน
●
แม่นยำสูง
●
เป็นมาตรฐานในโรงพยาบาลและคลินิกใหญ่ ๆ
ข้อควรระวัง:
●
ต้องเจาะเลือดส่งตรวจในห้องแล็บ
●
อาจต้องรอผลประมาณ 1–2 วัน
3. การตรวจแบบ NAT (Nucleic Acid Test)
เป็นการตรวจหา สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA) โดยตรง ซึ่งสามารถระบุการติดเชื้อได้เร็วที่สุดในบรรดาวิธีทั้งหมด
ช่วงเวลาตรวจได้: ตั้งแต่ 10–14 วันหลังรับเชื้อ
ข้อดี:
●
ตรวจเจอได้เร็วมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมาก
●
ใช้ยืนยันผลในกรณีผลตรวจอื่นไม่ชัดเจน
ข้อควรระวัง:
●
ราคาสูง
●
ไม่ใช่ทุกสถานที่มีให้บริการ
4. การตรวจแบบ Rapid Test
เป็นชุดตรวจรู้ผลเร็ว โดยใช้เลือดจากปลายนิ้ว หรือสารคัดหลั่งจากเหงือก ตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี ใช้เวลาเพียง 15–30 นาที
ช่วงเวลาตรวจได้: 3–12 สัปดาห์หลังความเสี่ยง
ข้อดี:
●
รู้ผลเร็ว
●
ทำได้ที่คลินิก หรือในบางกรณีสามารถตรวจได้ที่บ้าน
ข้อควรระวัง:
●
ต้องอ่านคำแนะนำให้ละเอียด
●
ถ้าผลเป็น “บวก” ต้องยืนยันด้วยการตรวจซ้ำแบบห้องแล็บ
วิธีเลือกการตรวจเอชไอวีให้เหมาะกับตัวคุณ
การเลือกประเภทการตรวจไม่ใช่แค่เลือกวิธีที่เร็วที่สุด แต่ต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:
●
เวลาที่ผ่านมาหลังจากเสี่ยง: หากเพิ่งเสี่ยงในช่วง 1–2 สัปดาห์ การตรวจแบบ NAT หรือแบบ 4th Gen จะมีโอกาสตรวจเจอมากกว่า
●
งบประมาณ: หากต้องการประหยัด อาจเลือกตรวจแอนติบอดีแบบ Rapid ก่อน และตรวจซ้ำตามคำแนะนำ
●
ความพร้อมของสถานบริการ: บางพื้นที่มีเพียงบริการแบบ Rapid Test แต่บางโรงพยาบาลอาจมีครบ
ความต้องการรู้ผลเร็ว: Rapid Test เป็นทางเลือกที่ดี หากต้องการทราบผลภายในวันเดียว
ตรวจเอชไอวีแบบใดที่เหมาะกับคุณ?
●
หาก เสี่ยงเมื่อเร็วๆ นี้ (1–2 สัปดาห์) → ตรวจ NAT หรือ 4th Gen
●
หาก ผ่านมาแล้ว 3 สัปดาห์ขึ้นไป → ตรวจแบบ 4th Gen หรือ Rapid
●
หาก ต้องการตรวจเบื้องต้นแบบประหยัด → เลือก Rapid Test
●
หาก ต้องการความแม่นยำสูง และอยู่ในช่วงเวลาตรวจได้ → 4th Gen คือตัวเลือกที่ดี
การตรวจเอชไอวีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือจุดเริ่มต้นของการดูแลตนเองและคนที่คุณรัก เลือกวิธีที่เหมาะสม และอย่ารอให้สายเกินไป เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มจากการ “รู้” เท่านั้น
📚 อ้างอิง (References):
World Health Organization (WHO). HIV Testing Services.
https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hiv-testing
Centers for Disease Control and Prevention (CDC). HIV Testing Overview.
https://www.cdc.gov/hiv/basics/testing.html
UNAIDS. Global HIV & AIDS statistics — Fact sheet.
https://www.unaids.org/en/resources/fact-sheet
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย ปี 2566
Love2Test.org
— บริการจองตรวจ HIV แบบไม่ระบุตัวตนในไทย
https://love2test.org
ข่าว
blockdit
สุขภาพ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย