🧘♀️🇹🇭 ไทยคว้ารางวัล Spa & Wellness ระดับโลก ดัน Soft Power สู่ผู้นำท่องเที่ยวสุขภาพแห่งเอเชีย
Thailand Wins "Top Global Spa & Wellness Destination" — Cementing Leadership in Global Health Tourism
🌟 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย — ประเทศไทยได้รับรางวัล Top Global Spa & Wellness Destination จากนิตยสาร Hospitality Horizon ของอินเดีย โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสปา สุขภาพและคนดังจากอินเดียร่วมตัดสิน ซึ่งถือเป็นเวทีที่ทรงเกียรติในระดับสากล
📢 ล่าสุดเมื่อ 26 มิ.ย. 2568 เวลา 20:30 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า รางวัลนี้สะท้อนถึงศักยภาพด้าน Health Tourism ของไทยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะจากจุดแข็งที่โดดเด่น 3 ด้าน ได้แก่
— ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม (Tradition)
— ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ (Nature)
— การบริการระดับโลก (World-class hospitality)
🏥 รางวัลนี้ไม่เพียงเป็นเกียรติ แต่ยังเป็น "Soft Power" ที่ทรงพลังในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพของไทยสู่ระดับนานาชาติ
🏛️ เชื่อมโยงนโยบายรัฐ: Wellness Tourism คือหัวใจใหม่ของเศรษฐกิจ
รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริม "Wellness Tourism" โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแพ็กเกจดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ด้วยความร่วมมือจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย และโรงแรมที่รองรับผู้ต้องการพักฟื้น
🎪 ตัวอย่างเช่นงาน Thailand Wellness and Healthcare Expo 2025 ซึ่งกำลังจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–29 มิถุนายน ณ ไบเทค บางนา โดยในปีนี้สามารถดึงดูดผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกให้เข้าร่วมได้อย่างคึกคัก พร้อมคาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 120 ล้านบาท จากการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจและเทคโนโลยีด้านสุขภาพตลอดระยะเวลาการจัดงาน
📈 Ripple Effect ต่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย: โอกาสของ “Health– Hospitality – Wellness”
🏨 การที่ประเทศไทยคว้ารางวัลระดับโลก ส่งผลโดยตรงและโดยอ้อมต่อหุ้นในหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ สปา โรงพยาบาล และบริการนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ได้แก่:
🌿 AHC (โรงพยาบาลเอกชล) – ผู้ให้บริการทางการแพทย์ในพื้นที่พัทยา มีโอกาสรองรับนักท่องเที่ยวสุขภาพจากอินเดียและกลุ่มอาเซียน
🧴 PROEN (โปรเอ็น คอร์ป) – แม้จะดูเหมือนธุรกิจ IT แต่ PROEN ลงทุนด้าน Smart Healthcare และ Cloud Data สำหรับการบริหารโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ซึ่งสอดรับกับแนวโน้ม Wellness Infrastructure
🍵 NCAP (เน็คซ์ แคปปิตอล) – ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยที่มีช่องทางเข้าสู่ Wellness Franchise ที่ขยายในต่างจังหวัด โดยเฉพาะสปาและคลินิกเพื่อสุขภาพ
💊 PR9 (โรงพยาบาลพระราม 9) – มีบริการศูนย์แพทย์เฉพาะทางและศูนย์ชะลอวัย พร้อมแผนการตลาดเพื่อขยายไปยังกลุ่ม Medical Tourist จากตะวันออกกลางและอินเดีย
🧖♀️ SPA (สยามเวลเนสกรุ๊ป) – จุดศูนย์กลางของธุรกิจสปาเพื่อการท่องเที่ยว มีสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการเติบโตของนักท่องเที่ยวอินเดีย
🌴 ERW (ดิ เอราวัณ กรุ๊ป) – ธุรกิจโรงแรมที่มีเครือข่ายในภูเก็ต เชียงใหม่ และสมุย ที่สามารถออกแบบ Wellness Packages ร่วมกับคลินิกและผู้ประกอบการแพทย์แผนไทยในพื้นที่
💡 มุมมองต่ออนาคต: ถอดรหัสโอกาสเชิงนโยบาย-ธุรกิจไทย
ประเทศไทยอาจต้องเร่งปรับตัวเชิงนโยบาย เช่น:
➤ ส่งเสริมให้โรงพยาบาลเปิดบริการเชิงป้องกัน (Preventive Wellness)
➤ พัฒนาเมืองสุขภาพ (Wellness City) ในหัวเมืองรอง เช่น กระบี่ เชียงราย
➤ สร้าง Sandbox ทดสอบเทคโนโลยี Smart Spa/ Smart Medical Tourism
➤ สนับสนุนผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยเข้าสู่สายการรักษาและบำบัดใน Wellness Hub
🛫 บทสรุป: เวทีโลกยกย่อง แต่เวทีไทยต้อง "ต่อยอด"
ไทยอาจเป็น “ปลายทางแห่งสุขภาพของโลก” (Global Wellness Destination) แต่สิ่งสำคัญคือ การออกแบบนโยบาย-แพลตฟอร์มเชิงบูรณาการ ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับมีส่วนร่วมได้ ทั้งในฐานะผู้ให้บริการ ผู้ผลิตสินค้า หรือแม้แต่ผู้ลงทุนหน้าใหม่
📣 คุณคิดว่าไทยควรต่อยอดการเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกในมิติใด?
💬 ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลยค่ะ: ด้านใดที่ไทยควรเร่งผลักดัน เพื่อเปลี่ยน "รางวัล" ให้เป็น "รายได้ที่ยั่งยืน" ✨
🔖 Hashtags:
#WellnessTourism #HealthEconomy #SpaAward #ThaiSoftPower #SETimpact #หุ้นสุขภาพมาแรง #ศึกโลกเศรษฐกิจ #WorldScope #ข่าวเศรษฐกิจ #ThaiStocks #HealthInvestment #TourismBoost
📰 Reference: Hospitality Horizon (India) | Al Arabiya
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
