🇺🇸🇨🇳 ทรัมป์ปิดดีลจีนไร้ดีเทล โลกจับตา Rare Earths เขย่าศึกเทคฯและการค้าระดับโลก
Trump Says U.S. Has Signed Trade Deal with China — Rare Earths Take Center Stage Amid Opaque Agreement
🔹 🧩 ข้อตกลงที่ไร้รายละเอียด แต่เต็มไปด้วยนัยทางภูมิรัฐศาสตร์
แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศว่า “เราเพิ่งเซ็นกับจีนไปเมื่อวันก่อน” แต่กลับไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของดีลดังกล่าว ไม่ว่าจะจากทรัมป์เองหรือรัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลัทนิก ข้อมูลที่เผยออกมามีเพียงว่าเป็นการต่อยอดจากการเจรจาในเจนีวาและลอนดอน และอาจเกี่ยวข้องกับการชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้กันระหว่าง 2 ประเทศ
📌 นี่อาจไม่ใช่แค่ “ดีลการค้า” ธรรมดา แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อรองเชิงอำนาจในศตวรรษที่ 21 ที่เกี่ยวพันกับทรัพยากรยุทธศาสตร์อย่าง "แรร์เอิร์ธ" (Rare Earths)
🧪 🔬 จีนเดินเกมเร่งอนุมัติส่งออก Rare Earths — สหรัฐฯ จับตามองเหมือนถือคอหอยทางเทคโนโลยี
จีนประกาศว่าได้เร่งอนุมัติการส่งออก “แรร์เอิร์ธ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต EV หุ่นยนต์ เทคโนโลยีชั้นสูง และอาวุธทันสมัย ขณะเดียวกันได้ตั้งเกณฑ์การอนุญาตส่งออกเข้มงวดขึ้น 7 ชนิดตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา
🧠 นี่คือการส่งสัญญาณว่า “จีนมีไพ่ในมือ” ขณะที่สหรัฐฯ เองก็กำลังเจรจาหาทางออกเพื่อให้ supply chain ของตนไม่สะดุด
📉 💥 เศรษฐกิจโลกเริ่มหายใจติดขัด — สหรัฐฯ ติดลบ 0.5% / กำไรโรงงานจีนทรุด 9%
ตัวเลขเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศสะท้อนแรงกระแทกจากสงครามภาษี:
– สหรัฐฯ เศรษฐกิจหดตัว 0.5% ใน Q1 เพราะผู้นำเข้าแห่ซื้อของก่อนภาษีใหม่
– จีน กำไรภาคโรงงานเดือนพฤษภาคมลดลงกว่า 9% โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ที่เสียหายหนัก
🌀 ผลที่เกิดขึ้นคือความไม่แน่นอนที่แผ่ขยายสู่ประเทศอื่นทั่วโลก รวมถึงไทย ที่อาจต้องระวังแรงสั่นสะเทือนจาก “ดีลที่ไม่มีดีเทล”
📦 🇹🇭 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและหุ้นไทย — ใครได้ ใครเสีย?
จากลักษณะของข้อตกลงและท่าทีของจีนที่เน้น "Rare Earths" และสหรัฐฯ ที่พยายามฟื้นกำลังผลิตภายใน ผลกระทบต่อหุ้นไทยมีหลายแง่มุม:
🔸 หุ้นกลุ่ม EV และเทคโนโลยี
– ⚡ EA (พลังงานบริสุทธิ์) – หาก supply chain แรร์เอิร์ธจากจีนคลี่คลาย อุตสาหกรรม EV ในไทยอาจได้แรงส่ง
– ⚙️ DELTA (เดลต้า อีเลคโทรนิคส์) – ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาจได้อานิสงส์จากการฟื้นคำสั่งซื้อเทคฯ
– 🛠️ KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) – ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ใช้แรร์เอิร์ธในการผลิตหลายประเภท
🔸 หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมส่งออก
– 🚚 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) – ถ้าการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ คลี่คลาย จะเกิดความต้องการขนส่งมากขึ้น
– 🏭 PACO (เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์) – ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ หากตลาดยานยนต์จีนฟื้นจะกระทบเชิงบวก
– ⚙️ STANLY (ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า) – มีฐานการผลิตเกี่ยวกับระบบไฟรถยนต์ ส่งออกไปทั่วโลก
🔸 หุ้นกลุ่มเหล็กและวัตถุดิบอุตสาหกรรม
– 🧱 MILL (มิลล์คอน สตีล) – หากจีนลดการควบคุมและเปิดทางเหล็กกล้ามากขึ้น ไทยอาจมีต้นทุนลดลง
– 🏗️ STECON (สเตคอน กรุ๊ป) – หากราคาเหล็กลดและภาษีซอฟต์ลง โครงการก่อสร้างในไทยจะได้ประโยชน์
🔸 หุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทนและหุ่นยนต์
– ☀️ SSP (เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น) – อุปกรณ์พลังงานสะอาดบางชนิดต้องใช้แรร์เอิร์ธ ราคาที่ผันผวนอาจกระทบต้นทุน
– 🤖 BTC (บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป) – ที่ลงทุนในนวัตกรรมดิจิทัล หากดีลนี้ส่งผลบวกต่อเทคฯ จะได้แรงหนุนเชิงจิตวิทยา
💡 มิติที่ควรจับตาต่อไป
– การที่สหรัฐฯ ระบุว่าจะทำ “ดีลต่อดีล” กับหลายประเทศ เช่น อินเดีย แสดงว่าระบบการค้าโลกกำลังเปลี่ยนจากการรวมกลุ่มสู่การเจรจาแบบทวิภาคี
– ไทยในฐานะประเทศส่งออก ต้องจับตาทุกก้าวว่า supply chain โลกกำลังจัดวางใหม่ไปทางใด
– ตลาดทุนไทยเองต้องระวังความผันผวนจากนโยบายที่เปลี่ยนบ่อยและยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนจาก “ดีล” นี้
💬 คุณคิดอย่างไรกับดีลที่ไม่มีดีเทลนี้?
คิดว่าไทยควรปรับตัวอย่างไรในยุคที่ “แรร์เอิร์ธ” กลายเป็นอาวุธทางการค้า?
แล้วหุ้นไหนที่คุณจับตามองอยู่?
แสดงความคิดเห็นไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ!
🔖 Hashtags:
#ศึกโลกเศรษฐกิจ #TradeWar #RareEarths #ChinaUSdeal #ทรัมป์ดีลจีน #SETกระทบเทคโนโลยี #หุ้นไทย #StockAtlasAnalysis #WorldScope
📚 Reference:
KOSU: Trump says the U.S. has signed a deal with China on trade, without giving details
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
