27 มิ.ย. เวลา 08:31 • ธุรกิจ

✍️ EP2: กลับเข้าสนามเทรด...ด้วยสมองที่เข็ดหลาบแล้ว แต่หัวใจที่ยังมีความฝัน

(จากซีรีส์ “จากห้องเรียนสู่สนามเทรด: จุดเริ่มต้นของอาจารย์ที่อยากหลุดจากรายได้เดือนชนเดือน”)
#จุดกลับตัวของคนมีฝัน
#จากชอล์กสู่ชาร์ต
ผมไม่เคยลืมเสียงของกราฟ...ตอนที่พอร์ตแตกครั้งสุดท้าย
ตอนนั้น... ใจมันเงียบไปหมด ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ทั้งรู้สึกว่า “ทำไมเราโง่ซ้ำซาก”
หลังจากพอร์ตแตกไปกว่าหนึ่งแสนบาท กับภาวะซึมเศร้า ร่วมหลายเดือน จากความฝันที่เราจะมีอิสรภาพชีวิต อิสรภาพทางการเงิน แต่ปัจจุบัน ทุกอย่างได้สลายหายไป
บางครั้ง... ความฝันมันก็เหมือนเทียนเล่มเล็ก ๆ
ที่พร้อมจะดับลงได้เสมอ ถ้าลมแรงกว่าความเชื่อในใจเรา
หลังจากพอร์ต Forex ของผมแตกไปอย่างเจ็บแสบจากการใช้ EA แบบ Martingale
ผมเก็บเทียนเล่มนั้นไว้ในลิ้นชักเงียบ ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะมองมันอีก
หัวใจมันอ่อนแรงเกินกว่าจะจุดมันขึ้นมาใหม่
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความฝันก็ไม่ได้ตาย
มันแค่หลับตาอยู่ รอวันที่จะมีลมหายใจใหม่อีกครั้ง
การกลับมาเจอโลกของการเทรดอีกครั้ง
แม้จะรู้สึกเข็ดกับการเทรด แต่ในใจลึกๆ มันต่อต้าน และบอกว่าเรายังประสบความสำเร็จกับการเทรดได้นะ
ผมได้กลับเข้ามาเจอการเทรดอีกครั้งกับเพื่อนของเพื่อนอีกที กับโลกที่เรียกว่า "CopyTrade"
ระบบที่ฟังดูง่ายแสนง่าย —
แค่เลือกเทรดเดอร์เก่งๆ แล้วปล่อยให้ระบบคัดลอกคำสั่งซื้อขายตามเขา
คล้าย ๆ กับการเอาเงินของเราไปฝากมือของใครสักคน
ที่เขาอ้างว่าเคยจับกราฟมานานกว่าหลายปี และทำกำไรได้อย่างมากมาย
ฟังดูมั่นใจ
ฟังดูปลอดภัย
และแน่นอน... ฟังดู “ทำกำไรได้”
3 เดือนแรกของการ Copytrade คือช่วงเวลาที่โลกทั้งใบเหมือนยิ้มให้ผม
พอร์ตเขียววาบๆ เหมือนต้นไม้ไหวเบา ๆ ใต้แสงแดดฤดูหนาว
ผมเห็นตัวเลขพอร์ตเติบโตขึ้นวันละหลักพัน
และภายในไม่กี่สัปดาห์... มันก็กลายเป็นกำไร 100% แบบสวยงาม
ในหัวผมคิดทันทีว่า
“มาแล้ว... ช่องทางสร้างอิสรภาพของจริง”
และเมื่อความฝันเจอกราฟเขียว
ผมก็ทำสิ่งที่ “นักลงทุนที่โลภ” ทุกคนทำ —
เพิ่มเงินลงทุน
ผมเติมเงินเข้าไปก้อนใหญ่ พร้อมความมั่นใจว่า
“เดี๋ยวอีก 3 เดือนก็ถอนทุนออก... แล้วปล่อยกำไรทำงานไปเรื่อยๆ”
มันคือกับดักแบบคลาสสิค...
และผมก็ตกลงไปโดยไม่รู้ตัว
เดือนที่ 4... เริ่มมีกลิ่นไม่ดี
เดือนที่ 5... กราฟเริ่มลากลงแดง
เดือนที่ 6... พอร์ตเริ่มแดงมากขึ้นๆ
เทรดเดอร์ที่ผม Copy เริ่มเทรดผิดทิศ
เปิดออเดอร์สวนตลาดแบบไร้เหตุผล
และที่เลวร้ายที่สุดคือ... ไม่มี Stop Loss
ตลาดเหมือนคลื่นที่ซัดซ้ำ ๆ เข้าใส่เรือที่ไม่มีหางเสือ
และผมก็ไม่สามารถกระโดดออกจากเรือลำนั้นได้ทัน
ขาดทุนไปกว่า 2 แสนบาท
ตัวเลขที่ไม่ได้เจ็บแค่กระเป๋าสตางค์...
แต่มันบีบหัวใจหนักยิ่งกว่า
เพราะผมไม่ได้เสียแค่ของตัวเอง
ผมพาคนอื่นมาเสียด้วย
ญาติสนิท คนรู้จัก เพื่อนที่เชื่อใจ
มีคนกว่า 20 คนที่ตามมาร่วมลงทุนใน Copytrade ระบบเดียวกัน
ผมคือคนแนะนำพวกเขามา...
และวันนี้ผมต้องเป็นคนบอกว่า “มันพัง”
ช่วงนั้น... ผมนั่งมองหน้าจอเงียบ ๆ ไม่เปิดกราฟ ไม่พูดเรื่องเทรด ไม่แม้แต่จะเข้าแอปเทรด
ความรู้สึกมันเหมือนโดนหลอก โดยคนที่เราคิดว่าไว้ใจได้
แต่จริง ๆ แล้ว... ผมต่างหากที่ “หลอกตัวเอง”
หลอกว่า Copytrade คือทางลัด
หลอกว่าไม่ต้องเรียน ก็สำเร็จได้
และที่เจ็บสุดคือ... หลอกตัวเองว่า “ครั้งนี้จะไม่พังเหมือนเดิม”
ผมคิดจะเลิกทุกอย่างจริงๆ
คิดว่า... “นี่อาจไม่ใช่ทางของเราแล้วจริงๆ”
บางคนเกิดมาเพื่อทำงานประจำ ไม่ได้เกิดมาเพื่อเทรด
แต่ในวันที่ใจมันแหลกละเอียดนั่นแหละ
คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม... ก็ยืนอยู่ข้างหลังเงียบ ๆ
เขาไม่ได้พูดอะไรเยอะ
ไม่ได้ปลอบ ไม่ได้ด่าว่า
แค่บอกว่า...
“ไม่เป็นไรนะ... ถ้ามันใช่ ก็เรียนรู้ใหม่อีกครั้ง”
สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องรู้ และให้ความสำคัญมากกว่าระบบเทรด นั่นคือ "แรง กำลังใจจากคนรอบข้าง" โดยเฉพาะ "คู่ชีวิต"
ตอนที่ผมเริ่มต้นกลับมาเทรดอีกครั้ง แบบ กล้าๆ กลัวๆ
มันไม่ใช่ภาพเท่ ๆ ที่นั่งหน้ากราฟแล้วเงินไหลเข้าบัญชี
แต่มันคือช่วงที่บ้านต้องประหยัด
คือการนั่งลุ้นว่าเงินที่เติมเข้าไป... จะสูญเปล่าอีกหรือเปล่า
แต่เขาไม่เคยบ่น
ไม่เคยกดดัน
ไม่เคยถามว่า "อีกนานแค่ไหนจะกำไร"
สิ่งเดียวที่เขาทำ... คือยกกาแฟมาให้ตอนผมนั่งทบทวนระบบ
กับประโยคสั้นๆ ที่ผมจำขึ้นใจ:
ถ้าเทรดคือสิ่งที่คุณรัก... งั้นเรียนรู้ให้สุด แล้วทำให้ดีที่สุดนะ
จุดพลิกผันของชีวิตการเทรด และน่าจะเป็นที่จดจำตลอดไปของชีวิตการเทรดเลย คือ...
วันนึง ผมไปเปิด Facebook และได้เห็นโพสของเพื่อนคนนึง "คุณมะลิ" ได้โพสเปิดสอนพื้นฐานเทคนิคคอล การเทรด Fx แบบพื้นฐานเลย
ในฐานะ เพื่อนร่วมทำ e-Commerce มาก่อน ทำให้เกิดพลัง แรงฮึกขึ้นมาอีกครั้ง
สองคนนี้ไม่ได้เอากราฟมาหลอกขายฝัน
พวกเขาเอาความรู้ ความเข้าใจ และกำไรจริงๆ พร้อมแนวทางที่สร้างกำไรจริงมาวางไว้ตรงหน้า
เริ่มจากพื้นฐาน... สู่กลยุทธ์... และจบด้วย “การเข้าใจตัวเอง”
ผมกลับมาลุยเทรดเต็มที่ อีกครั้ง...
คราวนี้ไม่ใช่เพราะอยากรวย
แต่เพราะอยากรู้จัก “ตัวเองในสนามเทรด” ให้ลึกขึ้น
วันนี้ ผมยังอยู่ในตลาด
ยังไม่ได้กำไรแบบชนะเลิศ
แต่ก็ไม่ได้ขาดทุนจนเจ็บปวด
ผมมีระบบที่ใช้
มีเป้าหมายที่ชัด
และมีหัวใจที่... ยังไม่หมดไฟ
เพราะครั้งนี้ ผมไม่ได้เดินคนเดียว
ผมเดินพร้อมกับความเข้าใจใหม่
พร้อมกับคนที่อยู่ข้างหลัง
และพร้อมกับความฝัน... ที่เรียนรู้จะเติบโตอย่างมีรากฐานสำคัญ
📘 ตอนต่อไป: ผมขอเขียนถึง ระบบเทรดแรกของผม — ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดในโลก... แต่เหมาะกับผมที่สุดในตอนนั้น ช่วยเป็นกำลังใจ ติดตาม ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ
#จุดกลับตัวของคนมีฝัน
#จากชอล์กสู่ชาร์ต
#เทรดแล้วไม่ขอโทษใคร
#เรียนรู้ก่อนลงเงินจริง
โฆษณา