27 มิ.ย. เวลา 11:17 • ประวัติศาสตร์
ผู้ทรงอิทธิพลมีทั้งประเภทใช้พระเดชเป็นหลัก กับใช้พระคุณเป็นหลัก อาจมีการปรับบ้าง เเต่ในด้านศักยภาพ ก็เห็นมีสองลักษณะคือ ผู้มีอำนาจกับผู้มีเสน่ห์ มองความเป็นมาของมนุษยชาติ ฝ่ายที่ใช้อำนาจเป็นหลักน่าจะเป็นบุรุษเพศ เเต่ฝ่ายที่ใช้เสน่ห์น่าจะเป็นสตรีเพศ
หากดูประวัติศาสตร์เเละวรรณกรรมสมัยก่อน พระโอรสต้องมีพระปรีชาสามารถในขณะที่พระธิดาต้องมีคุณสมบัติของสตรีที่ดีโดยมักได้รับมอบหมายให้เเต่งงานกับเจ้าชายต่างเมืองเพื่อสัมพันธไมตรี เเต่ก็มีบางกรณีที่เจ้าหญิงทรยศต่อพระสวามีเช่นเเม่หยัวศรีสุดาจันทน์ซึ่งมาจากราชวงศ์อื่น
ทำไงได้ เดิมทีสตรีไม่ได้เก่งกาจในการสู้รบเเบบใช้กำลัง เเต่สตรีก็ได้รับเกียรติในฐานะเพศเเม่ เเละหลายประเทศ มีคำว่าLady First เเละในสังคมไทย ผู้หญิงได้รับความสำคัญมากโดยเฉพาะในยุคที่เมื่อเเต่งงานเเล้วผู้เป็นเขยต้องมาอาศัยอยู่บ้านเมีย ผู้ชายจะบวชพระก็มักพูดว่า เพื่อทดเเทนค่าน้ำนม
ลองฟังเพลงไทยทั้งลูกทุ่ง ลูกกรุง หรือสริงคอมโบ้ก็ยังได้ ยุคก่อนที่เพลงนางเเมว(ท่อนที่บอกว่า ไปไป ไปลงนรกเสียเถิด ฉันจะลงโทษเธอ)ของวง หิน เหล็ก ไฟ จะดัง เพลงส่วนมากให้ความสำคัญกับผู้หญิงทั้งนั้น คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับพระเดชพระคุณยังใช้คำว่า เเม่ นำหน้าอยู่หลายคำ เช่น เเม่ทัพ เเม่กอง เเละเเม่อื่นๆ
โฆษณา