28 มิ.ย. เวลา 11:02 • ข่าวรอบโลก

📰 สหรัฐฯ ปัดร่างมติจำกัดอำนาจทรัมป์ในกรณีโจมตีอิหร่าน

🇺🇸 US Senate Rejects Resolution to Limit Trump’s Iran War Powers
🔺 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 มิ.ย. 2025) วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งนำโดยพรรครีพับลิกัน ลงมติ 53 ต่อ 47 เสียง “ไม่ผ่าน” ร่างมติที่จะจำกัดอำนาจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการใช้กำลังทหารต่ออิหร่านโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรส โดยแม้ร่างนี้จะได้รับการผลักดันจาก ส.ว.ทิม เคน พรรคเดโมแครต ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่มอบอำนาจประกาศสงครามไว้กับสภา แต่ก็ถูกต่อต้านจากพรรครีพับลิกันที่มองว่าอาจทำให้ประธานาธิบดีไม่มีความคล่องตัวในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
🔍 แรงสั่นสะเทือนจากความไม่แน่นอนของสหรัฐต่ออิหร่าน
การลงมติเช่นนี้สะท้อนความไร้เสถียรภาพในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ โดยเฉพาะต่ออิหร่าน ซึ่งสถานการณ์อาจพลิกผันได้ตลอดเวลา หากประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจโจมตีเพิ่มเติม โดยกล่าวหาอิหร่านว่ายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์อย่างน่ากังวล
🌍 ผลกระทบเชิงภูมิรัฐศาสตร์: ตะวันออกกลางปั่นป่วน
การเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมโยงกับความขัดแย้งในอิสราเอล อาจลุกลามเป็นสงครามตัวแทนที่มีผลต่อเสถียรภาพทางพลังงานของโลก และความมั่นคงของพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ซาอุดีอาระเบียและอิรัก
📉 หุ้นไทยที่อาจได้รับผลกระทบจาก Ripple Effect นี้
🔸 PTG (พีทีจี เอ็นเนอยี) – ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน → ราคาน้ำมันโลกผันผวนจากความเสี่ยงในตะวันออกกลางส่งผลต่อราคาขายหน้าปั๊มและต้นทุนสำรองน้ำมัน
🔸 TOP (ไทยออยล์) / BCP (บางจากฯ) – กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน → หากต้นทุนน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นหรือซัพพลายจากตะวันออกกลางหยุดชะงัก โรงกลั่นอาจได้รับผลกระทบโดยตรง
🔸 RCL (อาร์ ซี แอล) – ธุรกิจเดินเรือระหว่างประเทศ → เส้นทางการขนส่งน้ำมันและสินค้าอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการเบี่ยงหลบความไม่ปลอดภัยในช่องแคบฮอร์มุซ
🔸 KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) และ HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) – กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ → ความขัดแย้งทางทหารอาจส่งผลต่ออุปสงค์สินค้าทั่วโลก รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนที่ใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
🔸 NEX (เน็กซ์ พอยท์) – ดำเนินธุรกิจระบบพลังงานและยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถบัส EV ระบบชาร์จ และโครงข่ายไฟฟ้า → หากมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหรือระบบความมั่นคง จะได้อานิสงส์จากการเร่งขยายระบบ EV และระบบจ่ายไฟฟ้าอัจฉริยะในภูมิภาค
🛡️ ภาคการทหาร-ความมั่นคง: มีแนวโน้มเร่งลงทุน
การที่ทรัมป์ขู่ว่าจะโจมตีเพิ่มเติมและเน้นย้ำว่าการโจมตีล่าสุด “obliterated” ศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่าน อาจจุดกระแสให้หลายประเทศรวมถึงไทย หันมาทบทวนแผนป้องกันภัยเชิงรุก โดยอาจเกิดเม็ดเงินลงทุนด้าน Cybersecurity หรือ Defense Tech
💡 หุ้นที่เกี่ยวข้องในไทย ได้แก่
🔹 FORTH (ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น) – มีบทบาทด้านระบบตรวจจับและสื่อสารดิจิทัล
🔹 SKR (ศิครินทร์) – หากมีแนวโน้มจัดตั้งหน่วยแพทย์สนามหรือโครงสร้างฉุกเฉินในเขตเมือง อาจได้ประโยชน์ทางอ้อม
📊 แรงกระเพื่อมต่อตลาดทุน:
การลงมติที่ไม่จำกัดอำนาจทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า "ความไม่แน่นอน" จะยังคงอยู่ ซึ่งโดยพื้นฐานคือสิ่งที่ตลาดการเงินไม่ชอบ ความผันผวนจะยังสูงและนักลงทุนอาจเน้น Defensive Stock เช่นกลุ่มอาหาร (TFMAMA, NRF) หรือ Utility (GULF, BGRIM) มากขึ้น
📣 ชวนคิดต่อ
❝ หากความขัดแย้งนี้ลุกลาม... ไทยควรเตรียมตัวอย่างไร? ❞
❓ ควรเร่งลงทุนความมั่นคงทางไซเบอร์หรือพลังงานสำรองไหม?
❓ คุณมองว่าหุ้นใดในไทยจะ “ทนแรงสั่นสะเทือน” จากวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์ได้ดีที่สุด?
💬 ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่างได้เลยค่ะ — คุณคิดว่าไทยควรวางยุทธศาสตร์รับมือความผันผวนระลอกต่อไปอย่างไร?
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#TrumpVsIran #สงครามกลางตะวันออกกลาง #ข่าวต่างประเทศ #หุ้นไทย #หุ้นพลังงาน #ข่าวเศรษฐกิจโลก
#จุดปะทุโลก #WorldScope #StockAtlasNews #Geopolitics #ตลาดหลักทรัพย์ #ข่าวลงทุน
📎 Reference:
Indian Express – US Senate rejects bid to curb Trump’s Iran war powers

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา