[Side Stories] เหตุผลที่คนชอบเก็บ "รูปถ่าย" แทนความทรงจำมากมายในอดีต . . . . 1. เพราะรูปเป็นสิ่งเดียวที่ “หยุดเวลา” เอาไว้ได้ เป็นเครื่องยืนยันว่า ณ โมเมนต์นั้น มีเรื่องราวดีๆ ระหว่างกันเกิดขึ้นมายังไง ให้รู้ว่าเราเ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

30 มิ.ย. เวลา 13:22 • ดนตรี เพลง

เหตุผลที่คนชอบเก็บ "รูปถ่าย" แทนความทรงจำมากมายในอดีต

1. เพราะรูปเป็นสิ่งเดียวที่ “หยุดเวลา” เอาไว้ได้ เป็นเครื่องยืนยันว่า ณ โมเมนต์นั้น มีเรื่องราวดีๆ ระหว่างกันเกิดขึ้นมายังไง ให้รู้ว่าเราเคยรักกันมากแค่ไหน แม้วันนี้จะรู้ทั้งใจว่าเธอไม่ได้รักเราแล้วก็ตาม

2. เป็นนิยามแห่ง “ไทม์แมชชีน” ส่วนตัว ที่พาเราย้อนเวลากลับไปได้ในพริบตา บางทีก็อยากรู้ว่าคนในรูปเป็นยังไงบ้างนะ แต่บางทีก็คิดว่าไม่รู้แหละดีแล้ว ปล่อยให้มันงดงามอยู่อย่างนั้น

3. การรีทัชคน ลบไฟล์ เผาหรือทำลายรูปทิ้งไปน่ะง่าย แต่ให้ลบคนสำคัญออกไปจากใจน่ะยาก

4. บางความทรงจำ เราก็ยังจำมันอยู่คนเดียว แม้อีกฝ่ายเขาจะมีใครใหม่ไปแล้วก็ยังยากที่จะลืม

5. คนที่ยังเก็บรูปไว้ ก็ไม่ได้แปลว่าเขายังไม่มูฟออน แต่เพราะห้วงเวลาในครั้งก่อนมันดีเกินกว่าจะทิ้งไป มันไม่มีใครถูกหรือผิดเสมอไป แค่ครั้งหนึ่งมันเคยใช่และเวลาผ่านไปอาจไม่ใช่ ก็แค่นั้นเอง

6. ใครบางคนอาจจะจากกันไปไกลลิปตา แต่เขาก็ยังอยู่ใกล้หัวใจ อยู่ในความทรงจำ ในรูปเก่าๆ แม้เพียง 1 ใบ หรือเพียง 1 ไฟล์ที่ไม่ได้เปิดดูมานาน ก็สื่อแทนใจได้เป็นหมื่นล้านเรื่องราว ตอนที่ฝนได้ตกลงมา วันที่ดาวล่องลอยเต็มฟ้า ความสวยงามของช่วงเวลาเหล่านั้น มันเคยทำฉันร้องไห้ คิดถึงเธอแทบตาย แต่สุดท้ายฉันก็ “อยู่ได้เเล้ว…คนดี”

7. หรือบางที รูปก็เปรียบเสมือน Reminder คอยย้ำเตือนว่าวันนี้เมื่อกี่ปีที่แล้ว ระหว่างทางรักและระหว่างเรานั้นมัน “เคยดี” ยังไง ตอนนั้นก็เป็นรูปธรรมดา ตอนนี้เป็นรูปที่มีค่าขึ้นมามากเลย

8. รูปคืออดีตก็จริง แต่บางทีมันก็เป็นปัจจุบันได้เหมือนกัน เพราะฉันยังเป็นคนที่รักเธอหมดใจ ฉันยังได้แต่คิดถึงเธอเรื่อยไป ฉันยังดูรูปถ่ายที่เราชิดใกล้อยู่ทุกวัน ในใจนั้นก็ยังหวั่นว่า “เธอยัง” คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า?

9. มองมุมกลับกัน คนที่ลบก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้รัก แต่อาจเพราะรักมากจนมันไม่อาจเปิดมันดูได้อีกแล้ว

10. จริงอยู่ว่ารูปช่วยบันทึกความทรงจำ แต่มันก็ตอกย้ำความเปลี่ยนแปลงถึงใครบางคนที่เปลี่ยนไป

11. ทำให้เห็นว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีเสมอ” แม้ตอนจบมันอาจจะไม่ได้ดีดั่งฝัน แต่มันก็ดีที่ครั้งหนึ่งเราได้รักและเติบโตมาด้วยกันมิใช่หรือ?

12. สุดท้ายแม้รูปจะหยุดและย้อนเวลาได้ แต่อย่าลืมนะว่าเราแก้ไขอะไรไม่ได้ หรือบางทีมันไม่มีอะไรให้ต้องแก้ไขหรอก เพราะมันก็ได้บอกว่าความเจ็บปวด ผิดหวัง เสียใจในวันนั้น มันทำให้เราสองคนต่างเติบโตเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นในวันนี้ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจมีใครใหม่ ที่จะเข้ามาเป็น “รูปถ่าย” ที่งดงามกว่า พากันจับมือเคียงกัน ลั่นชัตเตอร์ เก็บทุกรอยยิ้ม ทุกเรื่องราวใหม่ๆ ที่ได้เจอ โอบกอดกันไว้จนสุดทาง