Blockdit Logo (Mobile)
ChatGPT Insights
•
29 มิ.ย. เวลา 15:19 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

รู้จัก Custom Instructions ตั้งค่า ChatGPT ให้รู้ใจคุณ

ลองนึกภาพว่า... เรามีการใช้งาน ChatGPT อยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะถามคำถาม วางแผน หรือเขียนบทความ แต่ทุกครั้งกลับต้องอธิบายซ้ำ ๆ ว่าทำงานอะไร ต้องการคำตอบแบบไหน และอยากให้สื่อสารอย่างไร
1
"ช่วยตอบให้กระชับหน่อยนะครับ"
"ขอแบบมืออาชีพ แต่ไม่เป็นทางการเกินไป"
"ช่วยใช้ bullet point ได้ไหม?"
คำสั่งเหล่านี้ต้องพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง ทั้งที่จริง... ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
ฟีเจอร์ Custom Instructions คือคำตอบที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ ฟีเจอร์นี้ช่วยตั้งค่า ChatGPT ให้รู้จักผู้ใช้ และตอบในแบบที่ต้องการตั้งแต่แรกเริ่ม แม้ว่าจะมีการสนทนาใหม่
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ยังถูกมองข้ามจากผู้ใช้อีกจำนวนมาก บางคนไม่รู้ว่ามีอยู่ บางคนเข้าใจผิดว่าต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ถึงจะใช้งานได้ หรือบางคนเคยเปิดดูแล้วปิดไปเพราะไม่แน่ใจว่าควรกรอกข้อมูลอย่างไรให้มีประโยชน์จริง ๆ
บทความนี้จะพาไปรู้จัก Custom Instructions แบบเจาะลึก พร้อมตัวอย่างจริง เทคนิคขั้นสูง และเคล็ดลับที่ผู้ใช้ระดับโปรใช้เพื่อเปลี่ยน ChatGPT ให้กลายเป็น AI ที่ "รู้ใจ" อย่างแท้จริง
Custom Instructions คืออะไร?
Custom Instructions คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งพฤติกรรมของ ChatGPT ได้ในแบบที่ต้องการ เพื่อให้ตอบสนองตรงกับบริบท เป้าหมาย และสไตล์การใช้งานของแต่ละคน ซึ่งช่วยประหยัดเวลา ลดการพิมพ์คำสั่งซ้ำ ๆ และทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้น เช่น บอกว่าทำงานอะไร ชอบให้ตอบสไตล์ไหน หรืออยากให้ AI เรียกชื่อว่าอะไร ฟังดูเรียบง่าย... แต่พลังของมันกลับส่งผลลึกในทุกคำตอบที่ได้รับ
ลองนึกว่าเหมือนการเขียน "คำแนะนำเบื้องหลังฉาก" ให้กับนักแสดงก่อนขึ้นเวที ทั้งเรื่องการเตรียมบท พัฒนาคาแรกเตอร์ และสร้างอารมณ์ให้พร้อมสำหรับฉากนั้น ๆ เพื่อให้แสดงออกมาได้ตรงบท ตรงบุคลิก และเข้าใจบริบทของเรื่องอย่างแท้จริง
ไม่ว่าผู้ใช้งานจะเป็นนักเรียนที่อยากให้ ChatGPT อธิบายแบบง่าย ๆ, นักธุรกิจที่ต้องการให้ช่วยวางแผนกลยุทธ์, หรือคุณแม่ที่อยากให้ AI ช่วยเล่านิทานก่อนนอนให้ลูก ทุกคนสามารถปรับ ChatGPT ให้พูดกับตนเองได้เหมือนเพื่อนที่รู้จักกันมานาน
ฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2023 และถูกพัฒนาให้ละเอียดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการเปิดตัว GPT-4 และ GPT-4o ทำให้ Custom Instructions กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของผู้ใช้ระดับมืออาชีพที่ต้องการให้ AI ทำงานแทนตนเองอย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ
ประโยชน์ที่ได้รับจาก Custom Instructions
Custom Instructions ไม่ใช่แค่พื้นที่ให้กรอกข้อมูลทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ ChatGPT เข้าใจบริบทของผู้ใช้ได้ลึกยิ่งขึ้น ยิ่งใช้งานเป็นประจำ ยิ่งเห็นผลชัดเจน เพราะระบบจะตอบสนองอย่างมีทิศทาง สอดคล้องกับบทบาท เป้าหมาย และลักษณะของงานที่ทำอยู่ เปรียบเสมือนการปูพื้นฐานให้โมเดลรู้ว่าเราคือใคร กำลังต้องการอะไร และอยากให้สื่อสารแบบใด เราลองมาดูกันว่าฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
1. ลดคำตอบหลุดประเด็น (ลด Hallucination)
การบอกจุดประสงค์และลักษณะของงานล่วงหน้า ช่วยให้โมเดลตีความคำถามได้แม่นขึ้น เช่น หากระบุว่าเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล คำตอบที่ได้จะเน้นการวิเคราะห์เชิงตรรกะมากกว่าการแต่งเรื่อง และลดความเสี่ยงที่ AI จะเดาคำตอบผิด ๆ หรือสร้างเนื้อหาที่ไม่ตรงกับความจริง
2. เพิ่มความสอดคล้อง (Consistency)
หากกำหนดรูปแบบคำตอบ เช่น ให้ใช้ bullet point, น้ำเสียงแบบมืออาชีพ หรืออธิบายระดับนักเรียน ม.ปลาย โมเดลจะพยายามรักษารูปแบบนั้นทุกครั้งที่ตอบ แม้ในคำถามที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ประสบการณ์ใช้งานดูมีโครงสร้างและต่อเนื่องมากขึ้น เช่น ถ้าผู้ใช้เป็นนักเขียน Prompt จะไม่ต้องอธิบายซ้ำว่าต้องการเนื้อหาแบบบทความ หรือสไตล์แบบ Storytelling ทุกครั้ง
3. ประหยัดเวลา
ไม่ต้องพิมพ์คำอธิบายซ้ำ ๆ หรือ prompt เดิมซ้ำในทุกเซสชัน เช่น ไม่ต้องเริ่มต้นด้วย “สมมุติว่าคุณคือ…” หรือ “ช่วยตอบแบบมืออาชีพ…” อีกต่อไป เมื่อระบุไว้ใน Custom Instructions แล้ว ChatGPT จะยึดเป็นค่าพื้นฐานในทุกบทสนทนา ทำให้โฟกัสกับเนื้อหาจริงได้เร็วขึ้นและต่อเนื่อง
4. เพิ่ม Productivity แบบผู้ใช้ระดับโปร
ผู้ใช้งานระดับมืออาชีพสามารถใช้ Custom Instructions ร่วมกับ Workflows ต่าง ๆ เช่น ใช้ร่วมกับ Notion AI เพื่อสร้างบันทึกอัตโนมัติ, สร้าง Macro ใน Google Sheet เพื่อสั่งให้เขียนอธิบายข้อมูล หรือเชื่อมต่อ API เพื่อเรียกข้อมูลจากระบบภายในมาให้สรุปเป็นรายงาน การตั้งค่า Custom Instructions ที่ดีจึงกลายเป็นหัวใจของการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีตั้งค่า Custom Instructions แบบ Step-by-Step
หลังจากที่เราเห็นภาพรวมของประโยชน์ไปแล้วในหัวข้อก่อน—คำถามคือ แล้วจะเริ่มต้นใช้งาน Custom Instructions อย่างไรให้ได้ผลจริง?
หลายคนอาจเคยเห็นเมนูนี้แต่ยังไม่เคยกดเข้าไป หรือไม่แน่ใจว่าควรกรอกอะไรลงไปบ้าง ถึงเวลาที่จะลงมือ “ออกแบบพฤติกรรม” ของ ChatGPT ด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ต่างจากการสร้างเพื่อนร่วมงานที่รู้ว่าเราชอบสื่อสารแบบไหน ทำงานแนวไหน และอยากให้ช่วยอะไรเป็นพิเศษ
ในส่วนนี้จะพาไปรู้จัก ทุกช่องในการตั้งค่า Custom Instructions พร้อมเทคนิคสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ใช้ระดับโปร เพื่อให้คุณได้ AI ที่ไม่ใช่แค่ฉลาด แต่ยัง เข้าใจตัวตนของคุณ ได้อย่างแท้จริง
เข้าสู่หน้าการตั้งค่า Custom Instructions
ให้คลิกที่เมนู Settings จากนั้นเลือก “Customize ChatGPT” เมื่อใช้ผ่าน Web Browser หรือ Window
หากใช้ผ่านมือถือจะแสดงเป็น "Personailization (การปรับแต่งเฉพาะบุคคล)"
คุณจะพบกับแบบฟอร์มที่แบ่งเป็น 4 ช่องหลัก และ 1 เมนูขั้นสูงดังนี้
1. ช่อง “What should ChatGPT call you?”
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป: ใส่ชื่อเล่นของคุณ เพื่อให้ ChatGPT เรียกชื่อคุณทุกครั้งเวลาตอบ ช่วยเพิ่มความเป็นกันเองในการสื่อสาร
เทคนิคระดับ Pro: สามารถใส่ชื่อที่ใช้ในบทบาทเฉพาะตามบริบทที่ต้องการเช่น CEO หรือ อาจารย์, หัวหน้า เพื่อให้ ChatGPT สื่อสารแบบยกย่อง
2. ช่อง “What do you do?”
สำหรับมือใหม่: พิมพ์อาชีพหรือลักษณะงานของคุณ เช่น Interior designer
นักเรียนม.ปลาย, ผู้ประกอบการออนไลน์
เทคนิคระดับ Pro: ให้ระบุบริบทเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น
"ฉันเป็นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปที่เน้นสร้างเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI โดยมีพื้นฐานด้านการออกแบบ UX/UI"
ChatGPT จะใช้ข้อมูลนี้ในการปรับคำตอบให้สอดคล้องกับบทบาทและงานของคุณอย่างต่อเนื่องในทุกการสนทนา
3. ช่อง “What traits should ChatGPT have?”
สำหรับมือใหม่: คลิกเลือกคาแรกเตอร์ของ ChatGPT จากตัวเลือกที่มี เช่น
  • ●
    Chatty – คุยเก่ง ตอบยาว อธิบายละเอียดเหมือนเพื่อนที่เล่าเรื่องสนุก
  • ●
    Witty – มีอารมณ์ขัน แฝงมุกเบา ๆ ในคำตอบ อ่านเพลินแต่ยังได้สาระ
  • ●
    Straight shooting – พูดตรง เข้าเป้า ไม่อ้อมค้อม เหมาะกับคนชอบความกระชับ
  • ●
    Encouraging – ให้กำลังใจเสมอ พูดอย่างอ่อนโยนและสร้างแรงบันดาลใจ
  • ●
    Gen Z – ใช้ภาษาทันสมัย เทรนด์ใหม่ เน้นสนุกแบบคนรุ่นใหม่
  • ●
    Skeptical – ช่างสงสัย ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสมอ ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ
  • ●
    Traditional – สื่อสารแบบเป็นทางการ มีความเคารพโครงสร้างและระเบียบ
  • ●
    Forward thinking – คิดเชิงอนาคต มองภาพใหญ่ เหมาะกับแนวสร้างสรรค์และนวัตกรรม
  • ●
    Poetic – ใช้ภาษาสละสลวย แฝงอารมณ์ศิลป์ ตอบแบบมีเสน่ห์เฉพาะตัว
เทคนิคระดับ Pro: สามารถผสม trait ที่ต่างกันเพื่อสร้าง AI ที่มี “บุคลิกเฉพาะ” เช่น
"+ Forward Thinking, + Witty, + Traditional"= เพื่อให้ ChatGPT ตอบแบบทันสมัย แฝงอารมณ์ขันแต่ยังคงเคารพโครงสร้างดั้งเดิม
"+ Witty, + Encouraging" = เพื่อนที่ตลกและให้กำลังใจ
"+ Skeptical, + Forward thinking" = ผู้ช่วยสายวิเคราะห์ที่มีวิสัยทัศน์
หรือจะ เขียนบรรยายเป็นข้อความเอง ก็ได้ เช่น “ตอบเหมือนพี่เลี้ยงที่พูดตรงแต่มีความเมตตา ใส่ใจบริบท และใช้ภาษาชัดเจน”
4. ช่อง “Anything else ChatGPT should know about you?”
สำหรับมือใหม่: ใช้บอกความสนใจ งานอดิเรก หรือข้อมูลของคุณที่อยากให้ ChatGPT ได้รับรู้ เพื่อจะได้เข้าใจบริบทได้ดียิ่งขึ้น เช่น
- "ฉันชอบความเรียบง่ายและสไตล์มินิมอล"
- "ฉันกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาสถาปัตยกรรม"
เทคนิคระดับ Pro: ใส่คำแนะนำแบบมีโครงสร้าง เช่น
- "ฉันชอบคำตอบในรูปแบบ Bullet Point"
- "หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาทางเทคนิคมากเกินไป"
- "ให้รวมไอเดียอย่างน้อย 3 ข้อต่อคำตอบ แม้จะไม่ได้ร้องขอก็ตาม"
หรือเพิ่มบริบทธุรกิจ เช่น "กลุ่มเป้าหมายของฉันคือฟรีแลนซ์เจน Z ต้องการให้ ChatGPT ใช้น้ำเสียงเป็นกันเองแต่มีข้อมูลสนับสนุน"
5. เมนู “Advanced” → ChatGPT capabilities
ในส่วนนี้คุณสามารถเปิด/ปิดความสามารถเสริมของ ChatGPT ได้แก่
✅ Web Search: ให้ ChatGPT ดึงข้อมูลใหม่, หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
✅ Code: สำหรับการเขียนโค้ด, ตรวจสอบโค้ด, สรุป logic, แก้ไขข้อผิดพลาด และอธิบายฟังก์ชันหรือวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ภาษาโปรแกรม(Advance Data Analysis) เช่น Python, JavaScript, HTML/CSS
✅ Canvas: สำหรับงาน Writing/Coding, Preview Code
✅ Advanced Voice: ใช้งานเสียงขั้นสูงในโหมดพูดคุย
เมื่อเปิดความสามารถทั้งหมดไว้ จะทำให้ ChatGPT ทำหน้าที่ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
6. กด Save และเริ่มต้นใช้งาน
เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้ว กด Save และเริ่มแชทใหม่ในหน้าหลัก (New Chat)
ChatGPT จะทำงานตาม “บุคลิก” และบริบทที่คุณตั้งไว้ทันที
เปรียบเทียบก่อน–หลัง การตั้งค่า Custom Instructions
  • ●
    ก่อนใช้: ChatGPT ตอบทั่วไป พยายามเดาบริบทผู้ใช้เอง → อาจหลุดโทนหรือเข้าใจผิดจุด
  • ●
    หลังใช้: คำตอบมีทิศทางตรงเป้าหมายมากขึ้น → ประหยัดเวลา, ไม่ต้องอธิบายซ้ำ ๆ, คุณภาพสม่ำเสมอ
ข้อจำกัด (Limitations) ของ Custom Instructions
1. จำนวนตัวอักษรต่อช่อง
ปกติแต่ละช่องของ Custom Instructions จะจำกัดความยาวอยู่ที่ประมาณ 1,500 ตัวอักษร หากใส่ข้อความยาวเกินกว่าที่ระบบกำหนด จะไม่สามารถบันทึกได้
2. รองรับเฉพาะบัญชีที่เข้าสู่ระบบ
Custom Instructions ใช้งานได้เฉพาะบัญชีที่ล็อกอินแล้ว (ไม่สามารถใช้กับโหมด Guest)
3. รองรับภาษา
ฟีเจอร์นี้รองรับหลายภาษา แต่คุณภาพของการทำงานจะดีที่สุดเมื่อใช้ภาษาอังกฤษ
หากใช้ภาษาไทยหรือภาษาอื่น AI อาจตีความได้ไม่แม่นยำ 100% ในรายละเอียดบางอย่าง
4. ไม่มี “multi-profile” (1 บัญชี ตั้งค่าได้ 1 แบบเท่านั้น)
ไม่สามารถสร้างโปรไฟล์หลายแบบหรือสลับค่าอัตโนมัติ ต้องเปลี่ยนค่าเองทุกครั้ง
5. AI อาจไม่รับรู้ “context” บางส่วน
แม้จะตั้งค่าแล้ว บางประโยคหรือเงื่อนไขอาจถูกมองข้าม หากขัดกับ prompt หรือเนื้อหาหลักในแต่ละแชท
6. ไม่รองรับ Rich Content
ใส่ได้เฉพาะข้อความธรรมดา (plain text) ไม่สามารถแนบไฟล์ ภาพ หรือลิงก์แบบอินเตอร์แอคทีฟในช่องตั้งค่า
7. ฟีเจอร์นี้มีผลกับ New Chat เท่านั้น
หากมีการตั้งค่าใหม่ จะเริ่มใช้งานในแชทใหม่ ไม่ย้อนหลังกับแชทที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว
8. ข้อจำกัดทางกฎหมายและความปลอดภัย
ห้ามระบุข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน หรือข้อมูลทางธุรกิจที่ลับเฉพาะ
การตั้งค่า Custom Instructions เปรียบเสมือนการแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ ถ้าเขารู้ว่าเราคิดแบบไหน ทำงานยังไง ต้องการอะไร เขาก็ช่วยเหลือเราได้ดีขึ้นแบบไม่ต้องบอกซ้ำ
ChatGPT เองก็เช่นกัน เมื่อเข้าใจความเป็นตัวคุณ มันก็กลายเป็นมากกว่าแค่ AI ตอบคำถาม แต่เป็นคู่หูที่คิด เคลื่อนไหว และพูดในจังหวะเดียวกับคุณ
สร้าง “ChatGPT ที่เป็นของคุณจริง ๆ” เริ่มได้วันนี้
แม้ Custom Instructions จะดูเหมือนเป็นแค่แบบฟอร์มสั้น ๆ แต่เบื้องหลังคือโอกาสในการออกแบบ “AI ที่รู้จักและเข้าใจคุณอย่างลึกซึ้ง” มากกว่า AI ใดที่คุณเคยใช้
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลจำนวนมาก สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่ผู้ช่วยที่รู้ทุกอย่าง
แต่คือผู้ช่วยที่ “เข้าใจว่าอะไรสำคัญกับเรา และรู้จักตัวตนของเราดีที่สุด”
เพียงไม่กี่นาทีในการตั้งค่า อาจเปลี่ยน AI ที่ดูห่างเหิน ให้กลายเป็น "คู่หู" ที่รู้ใจ
และเมื่อคุณใช้มันนานพอ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับ ChatGPT จะไม่ใช่แค่คำถามหรือคำตอบอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ความคิดของคุณได้ถูกขัดเกลา สนับสนุน และผลักดันไปไกลกว่าที่เคย
เพราะเมื่อ AI รู้จัก “ความเป็นคุณ” มากพอ มันจะไม่ใช่แค่ตอบคำถามได้ดีขึ้น แต่มันจะ เติบโตไปพร้อมคุณ!
Reference Source
โฆษณา