🕊️ ใครจะเป็น "ทะไลลามะ" องค์ถัดไป?
Who will be the next Dalai Lama?
🌏 เมื่ออำนาจทางจิตวิญญาณต้องเผชิญแรงกดดันจากอำนาจรัฐ
ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2025 ที่ชายหาดทางเหนือของซิดนีย์ เด็กนักเรียนชาวทิเบตในออสเตรเลียกำลังฝึกซ้อมรำและสวดมนต์ เพื่อแสดงในรัฐสภานิวเซาท์เวลส์ เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 90 ปีขององค์ทะไลลามะ แต่งานนี้ไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลอง หากแต่เป็นการ “ประกาศตัวตน” ที่ยังถูกคุกคามในมาตุภูมิ
📌 ในขณะที่นักเรียนเหล่านี้สามารถเรียนภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมของตนเองได้อย่างเสรี ชาวทิเบตในจีนกลับถูกส่งเข้าโรงเรียนแบบบังคับที่เน้นวัฒนธรรมจีน และห้ามการปฏิบัติศาสนาโดยเสรี
🔥 ศึกการสืบทอดที่อาจสั่นคลอนศรัทธา
องค์ทะไลลามะระบุว่าจะประกาศรายละเอียดของการกลับชาติมาเกิดของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนาแบบทิเบต อย่างไรก็ตาม จีนยืนกรานว่า “การกลับชาติมาเกิดต้องอยู่ภายใต้กฎหมายจีน” เท่ากับเป็นการแย่งชิงอำนาจเหนือศาสนาและวัฒนธรรม
🎯 หากเกิดกรณี “ทะไลลามะ 2 องค์” — ฝ่ายหนึ่งที่ถูกเลือกโดยชาวทิเบต และอีกฝ่ายที่รัฐบาลจีนแต่งตั้ง — ความแตกแยกในชุมชนชาวทิเบตทั่วโลกอาจลุกลามสู่การแบ่งขั้วระหว่าง “เสรีภาพ” และ “การควบคุม”
🔮 เมื่ออนาคตของการกลับชาติมาเกิดถูกลากเข้าสู่เกมการเมือง
นักวิชาการจากออสเตรเลียเตือนว่า กระบวนการสืบทอดตำแหน่งทางศาสนาเคยเป็นเรื่องของวัดและชุมชน แต่หลังปี 1950 ที่ทิเบตถูกรวมเข้าในจีน “อิสรภาพทางศาสนา” ก็กลายเป็นเพียงถ้อยคำลอยๆ บนกระดาษ
🧒 กรณี “เด็กชายแพนเชนลามะ” วัย 6 ขวบที่องค์ทะไลลามะเคยแต่งตั้งในปี 1995 และถูกทางการจีนจับตัวไปจนไม่มีใครพบเห็นอีก ถือเป็นเงามืดที่ยังหลอกหลอนเรื่องสืบทอดในปัจจุบัน
🚺 ทะไลลามะผู้หญิง? หรือจะยุติสายการสืบทอดไปเลย
องค์ทะไลลามะเคยพูดเล่นว่า ถ้ามีทะไลลามะผู้หญิง “ควรจะมีรูปร่างหน้าตาดี” แม้จะขอโทษภายหลัง แต่ข้อความชัดเจนคือ เขาเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งการสิ้นสุดสายการกลับชาติมาเกิดของตน
👁️🗨️ นักเคลื่อนไหวทิเบตในออสเตรเลียชี้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพราะชาวทิเบตอยากเปลี่ยน แต่เพราะแรงกดดันทางการเมืองกำลังบีบบังคับให้พวกเขาต้องปกป้อง “สถาบันทางจิตวิญญาณ” จากการครอบงำ
🇹🇭 มองผลสะเทือนต่อไทย: อัตลักษณ์กับอำนาจในโลกพหุวัฒนธรรม
ในมุมของไทย ข่าวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของทิเบต แต่สะท้อนภาพรวมของ “การใช้อำนาจรัฐควบคุมอัตลักษณ์และศรัทธา” ที่อาจมีความคล้ายคลึงกับหลายมิติในสังคมไทย เช่น การจัดการกับความหลากหลายทางศาสนา การควบคุมข้อมูลออนไลน์ หรือการจำกัดพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์
🧠 ถ้าเราพิจารณาจากมุมมอง Soft Power – นี่คือการต่อสู้ระหว่าง “พลังแห่งความเชื่อ” กับ “พลังทางอำนาจ” และในโลกที่การเมืองกำลังเข้าไปแทรกแซงทุกอณูของความเป็นตัวตน เราควรตั้งคำถามว่า ประเทศไทยจะสร้างระบบที่ให้พื้นที่กับความหลากหลายได้อย่างไร
📉 ผลกระทบต่อหุ้นไทย: เมื่อศรัทธากระทบเศรษฐกิจ
แม้ดูห่างไกล แต่การต่อสู้ทางจิตวิญญาณเช่นนี้ส่งผลต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ…
🔹 ท่องเที่ยวเพื่อจิตวิญญาณ (Spiritual Tourism)
หากประเด็นนี้จุดกระแสเรื่อง “ศาสนาและสิทธิเสรีภาพ” ทั่วโลก มีโอกาสที่ไทยจะกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับชาวพุทธทิเบตหรือผู้แสวงบุญในเอเชีย ทำให้กลุ่มธุรกิจเช่น
— VRANDA (วีรันดา รีสอร์ท) และ SPA (สยามเวลเนสกรุ๊ป) ที่ชูแนวคิดสุขภาพและจิตวิญญาณ อาจได้รับแรงส่งในระยะยาว
🔹 สื่อและวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อน Soft Power
หากประเด็นนี้ถูกหยิบยกในสื่อบันเทิง เช่น สารคดีหรือซีรีส์ที่เน้นสิทธิมนุษยชน อาจเป็นโอกาสของบริษัทอย่าง
— BE8 (เบริล 8 พลัส) ที่เน้น digital transformation ด้านเนื้อหาวัฒนธรรม หรือ
— AS (แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์) ผู้พัฒนาเกม ที่สามารถแทรกเรื่องราวเหล่านี้ผ่านเกมเพื่อการเรียนรู้
🔹 ความมั่นคงทางไซเบอร์-ข้อมูล
การแทรกแซงของรัฐจีนที่เข้มข้นขึ้น อาจปลุกความสนใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลหรือสิทธิดิจิทัล โดยเฉพาะบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มสารสนเทศและเครือข่าย เช่น
— INSET (อินฟราเซท) ที่เชี่ยวชาญโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
— MSC (เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น) ที่ให้บริการโซลูชันองค์กรขนาดใหญ่ อาจเป็นผู้เล่นสำคัญ
💬 ความคิดเห็นของคุณคืออะไร?
คุณคิดว่า "ทะไลลามะ" องค์ถัดไปควรเกิดในโลกเสรีหรือไม่?
คุณเห็นว่าความเชื่อควรถูกควบคุมโดยรัฐหรือควรเป็นอิสระ?
และ Soft Power แบบไหนที่คุณอยากเห็นในไทย?
🗣️ แสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย เพื่อร่วมออกแบบอนาคตที่เคารพความหลากหลายและอิสรภาพแห่งจิตวิญญาณกันค่ะ
🏷️ Hashtags:
#DalaiLama90 #TibetanFreedom #SoftPowerVsStatePower #ChinaPolitics #SuperpowerStage #WorldScope #ข่าวต่างประเทศ #สิทธิเสรีภาพ #วิเคราะห์โลก
📚 Reference: SBS News – Who will be the next Dalai Lama?
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
