2 ก.ค. เวลา 10:15 • ธุรกิจ

ขายของแบบจีน โตเร็ว หวือหวา แต่ไม่มั่นคง

อุตสาหกรรม EV จีน กำลังมาถึงจุดสำคัญว่าจะไปต่อทางไหน
จะบูมขึ้น หรือรับสภาพความเป็นจริงแล้วลด
การผลิตลงมาให้สมดุลกับตลาด หลังผลิตปั่นยอดกันมานาน
วิกฤต EV จะว่าไปมันก็ต้องโทษรัฐบาลจีนด้วยส่วนหนึ่ง
ที่ไปเร่งการผลิตมากไป จนไม่สะท้อนความต้องการจริงๆ
แถมยังไปสนับสนุนคนซื้อด้วย
พอหมดโปรจากรัฐบาล ก็กลายเป็นปัญหา คล้ายๆโครงการ
รถคันแรก ของอดีตนายกลูกจีนโพ้นทะเลบ้านเรานั่นแหละ
…และ EV กำลังเป็นระเบิดเวลาลูกมหึมา สำหรับเศรษฐกิจจีน
ในภาพรวม ที่หนักหนากว่าวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ซะอีก…
…ใครที่สนใจเรื่องนี้ ผมแนะนำให้ไปอ่านและฟัง เพจ ด.ดล
ใน blockdit นี่แหละ เขาเล่าไว้ละเอียดมาก…
1
…ผมเองฟังบ่อย เพราะจริงๆตัวเองก็มีโครงการจะซื้อนั่นแหละ
เลยต้องหาข้อมูลกันหน่อย แล้วจนปัจจุบันก็เลยยังไม่ซื้อ….
ประเด็นที่เขียนวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจจีน
แต่เป็นเรื่องกลยุทธ์ทางธุรกิจของจีนเสียมากกว่า
ผมมองว่า กรณี EV นั้นสะท้อนวิธีคิดทางธุรกิจบางอย่าง
ที่คนจีนชอบใช้กับทุกอุตสาหกรรม จนเหมือนเป็นสัญลักษณ์
แบรนด์จีนไปแล้ว ตั้งแต่เครื่องใช้ ยันอาวุธสงครามนั่นเลย
มันดูดีนะ ในแง่ความหวือหวา แต่ถ้ามองความมั่นคงแล้ว
…มันไม่น่าใช่เรื่องดี ที่ธุรกิจจะเอาอย่างสักเท่าไหร่….
จีนนั้นดูจะติดเป็นนิสัยกับสินค้าอายุสั้นมากเกินไป
ในแทบจะทุกอุตสาหกรรม
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาทำให้ดีไม่ได้ พวกเขาทำได้
แต่นั่นมักเป็นสินค้าที่ป้อนให้กับภาครัฐเสียมากกว่า
ในขณะที่สินค้าที่ทำออกขาย ผู้ผลิตจีนมักลดต้นทุน
เพื่อให้ได้ราคาต่ำ และอายุสั้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการ
ซื้อใหม่เสมอ
ผลคือ จีนเสพติดกับการซื้อ โดยไม่จำเป็น
1
และเมื่อเวลาผ่านไป ลักษณะของสินค้าแบบนี้
นำไปสู้สภาวะล้นตลาด โมเดลใหม่ทับซ้อนโมเดลเก่า
พอโมเดลเก่าล้าสมัย ก็กลายเป็นค้างสต๊อกบานเบอะ
และหาที่ไปให้สินค้าเหล่านี้ไม่ได้ จนกลายเป็นภาระธุรกิจ
ในมุมหนึ่ง มันดีกับเศรษฐกิจภาพรวม
ที่ทำให้เกิดการหมุนเวียน ซื้อขายกันมาก
แต่ถ้าชั่งน้ำหนัก มันสร้างผลเสียมากกว่า
เพราะอย่างที่บอก มันทำให้เกิดการซื้อที่ไม่จำเป็น
ขโมยกำลังซื้อของตลาดมากจนเกินไป เมื่อถึงจุดอิ่มตัว
มันก็ระเบิดออกมา อย่างที่เห็น
เราจะเห็นว่า สินค้าจีนแทบทุกชนิด มักออกโมเดลใหม่
ถี่กว่าผู้ผลิตรายใดในโลก
คือ เรียกว่า minor in minor change ก็ไม่น่าผิด
สินค้าจีนมักเอาของเก่ามาแต่งตัวใหม่ นิดเดียวจริงๆ
แล้วเสนอขายเป็นโมเดลใหม่อยู่เสมอ
ตั้งแต่พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จนถึงรถยนต์
ซึ่งกับพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มันอาจไม่ใช่ปัญหานัก
เนื่องจากมันไม่มีลักษณะเป็นสินทรัพย์ของผู้ซื้อ ในลักษณะ
ที่จะอ้างอิงได้ในระยะยาว เนื่องจากอัตราเสื่อมนั้นสูงอยู่แล้ว
แต่กับ EV พวกเขาไม่ควรใช้วิธีนี้แต่แรก
และกลยุทธ์แบบนี้เอง ที่พา EV จีนมาสู่ปากเหว…
กั๊ก เร่งรีบ กับเทคโนโลยี พาพังทั้งระบบ
จุดสลบของปัญหา EV จีน นอกจากการทุบราคาแข่งกัน
อย่าบ้าคลั่งแล้ว อีกส่วนสำคัญที่พาพัง ก็คือการไม่ละเอียด
กับการออกโมเดลรถแต่ละรุ่น ซึ่งดูจะสุกเอาเผากินเกินไป
โดยพื้นฐาน แม้ระบบต่างๆ เช่น ช่วงล่าง หรืออย่างอื่น
EV จีนนั้นก็เหมือนผู้เล่นเจ้าตลาดเดิม คือส่งของที่มีคุณภาพ
ดีที่สุดในมือตามเงื่อนไขราคา เข้าสู่ตลาด
แต่นั่น เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ มีความนิ่ง
จากการมันพัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคสันดาป
ส่วนที่สร้างปัญหาให้ EV จริงๆ ก็คือระบบขับเคลื่อน
หรือก็คือ มอเตอร์ และแบตเตอรี่
เทคโนโลยีส่วนนี้ไม่นิ่ง เราจะเห็นว่า ในช่วงเวลาสั้นๆ
ที่ EV จีนบูมในบ้านเรา มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้
ค่อนข้างเยอะมาก
คือ ในรุ่นที่เข้ามาแรกๆ กำลังเครื่อง และระยะทาง
ที่แบตเตอรี่รองรับ จะด้อยกว่าตัวที่ไล่หลังมาเพียง
3-6 เดื่อนมาก อยู่เสมอ
นี่แหละคือปัญหา และในบ้านเขาเอง คนจีนก็รู้สึกแบบนั้น
คนเลยไม่กล้าซื้อ เพราะกลัวว่า ซื้อวันนี้ อีกสามสี่เดือน
ด้วยเงินเท่ากัน ก็ได้ของดีกว่ามาใช้แล้ว
ไอ้ที่ซื้อแล้ว ก็ขาย หรือปล่อยยึด แล้วซื้อใหม่
เนื่องจากในจีนรัฐบาลมีแคมเปญ เพื่อส่งเสริมการผลิต
โดยรัฐบาลพวกเขา มองยอดขาย ยอดผลิตมากกว่า
ที่จะมองปัญหาตามหลังในลักษณะนี้
ก็เลยผลิตกันอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นสินค้าค้างสต็อก
และรถยึดที่จอดทิ้ง หลายสิบล้านคัน ที่ทางการจีน
ก็ยังคิดไม่ออก ว่าจะเอายังไงกับรถพวกนี้
แน่นอน รถยึด มันก็กระทบกับการปล่อยกู้ในระบบการเงิน
ของจีน และสร้างปัญหาภาพรวมให้เศรษฐกิจ จนน่าห่วง
ว่าสุดท้ายแล้ว EV นี่แหละ จะทุบเศรษฐกิจจีนเสียเอง
แทนที่จะสร้างกำไรมหาศาล แบบที่ทางจีนคิดหวังเอาไว้
ถ้าเราเทียบกับรถยุโรป ที่เรามองว่าพวกเขาเพลี่ยงพล้ำ
ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อทำราคาสู้ไม่ได้
แต่ดูเหมือนว่า ระยะยาวแล้ว เมื่อพวกเขาปรับตัว
รับการแข่งขัน ปรับกำลังผลิต ในระดับที่เหมาะสมได้
ก็เริ่มกลับมาโตได้แบบค่อนข้างแข็งแกร่ง
แม้แต่ในตลาดจีนเองก็ตาม
ยอดตก แต่กำไรต่อหน่วยมาก ลักษณะนี้คือรถยุโรป
และญี่ปุ่น เกาหลีก็ใช้เป็นโมเดล ในการสู้กับรถจีนเช่นกัน
ซึ่งก็เนื่องจากว่า รถยุโรปนั้นนำเสนอสิ่งดีที่สุด
ที่พวกเขาจะผลิตได้อยู่เสมอ และไม่ค่อยเปลี่ยนโมเดล
จนเกิดการทับซ้อน แบบของจีนนั่นเอง
แม้ปัจจุบัน จีนจะเก็บภาษีรถยุโรปค่อนข้างสูง
ทำให้ในตลาดกลางและล่างนั้น รถยุโรปไม่สามารถแข่งได้
จนมียอดที่ตกลง แต่พวกเขาไม่ได้แคร์นัก
เพราะกับคนจีนที่มีเงินพอ รถยุโรปยังคงเป็นสิ่งที่พวกเขา
ต้ิองการมากกว่ารถในบ้านอยู่นั่นเอง ทำให้รถยุโรปในจีน
ยังอยู่ และสามารถทำกำไรมาก จากยอดขายที่น้อยได้เสมอ
…ซึ่งก็ไม่ต่างกับกรณีไอโฟน ที่แม้จะยอดตก แต่ถ้าคิดว่า
จีนคือผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ แต่กลับโดนแย่งส่วนแบ่ง
คาบ้านในอัตราค่อนข้างสูง มันก็ถือว่า คนจีนส่วนมาก
ถ้ามีทางเลือกโดยไม่พะวงราคา พวกเขาจะเลือกสินค้า
ที่น่าเชื่อถือได้มากกว่า อยู่ดีนั่นเอง…
ซึ่งนี่แหละ คือธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน
มนุษย์เรา ใครๆก็อยากได้ของดีที่สุดในราคาที่จ่ายไหว
การที่สินค้าจีนนั้น มักทำลายสิ่งที่เรียกกันว่าความคุ้มค่า
ของผู้ซื้ออยู่เสมอ มันกำลังกร่อนความเชื่อมั่น
ขากการผลิตแบบ mass ของพวกเขา
…แบบที่เกิดกับ EV อยู่นั่นเอง….
ตีกันเอง อันสื่อรัสเซียเลยแหละ เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังครับ
บทเรียน EV จีน จากความเละเทะในตลาดรัสเซีย…
อย่างที่เราทราบกัน หลังสงครามยูเครนเกิดขึ้น
รัสเซียถูกยุโรปแบน ซึ่งก็ลามไปถึง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
จนถอนการผลิตออกจากรัสเซีย
รัสเซียนั้นแม้มีบริษัทผลิตรถยนต์ แต่เนื่องจากกำลังผลิต
ไม่เพียงพอกับความต้องการ และสายพานการผลิต
ก็ยังตัองอิงตะวันตก และญี่ปุ่นค่อนข้างมาก
มันจึงกลายเป็นว่า เมื่อโดนแบน ชาวรัสเซียก็ขาดแคลนรถ
จีนได้จังหวะพอดี พวกเขาก็เข้ามาทำตลาด เพื่อระบายอีวี
ที่ก็โดนยุโรปเล่นงานเรื่องภาษีจนยอดตก
คือ จีนจะขายรัสเซียแทนยุโรปนั่นแหละ
ปีครึ่งแรก หลังการเข้าไป รถจีนขายดีมาก
จนมีดีลเลอร์รัสเซีย ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ทางจีนก็ได้ใจ ไปบีบให้ดีลเลอร์รัสเซีย ซื้อมาสต็อกมากๆ
แบบทั้งขู่ทั้งปลอบ ดีลเลอร์รัสเซียเองก็คิดว่าน่าจะดี
เลยสั่งสต็อกแบบบ้าคลั่ง เพราะกลัวมีปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน
ที่รูเบิลนั้นค่อนข้างมีปัญหาอยู่แล้ว
แล้วก็ได้เรื่อง มันก็เกิดปัญหาแบบเดียวกับที่อื่น
แต่คนรัสเซียนั้นไม่เคยรู้ เพราะข่าวในบ้านตัวเอง
ที่ปิดและอวยจีนหนักมาก จากปัจจัยการเมืองช่วงนั้น
ปัญหาคือ คนซื้อรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า จีนขยันเปลี่ยนโมเดลเกิน
จนราคาตก และพวกเขายังรู้สึกว่าถูกหลอกขายอีกด้วย
เมื่อสัญญาเรื่องศูนย์บริการ อะไหล่ ไม่เป็นตามที่บริษัทจีนบอก
แล้วนิสัยคนรัสเซีย ก็รู้ๆ กัน ว่าพวกเขาแรง
พวกก็เลยเริ่มรำคาญ และไม่ซื้อ ปล่อยยึดมันซะเลย
…บางรายการทุบรถโชว์ซะเลย โหดสไตล์รัสเซียอยู่แล้ว …
ดีลเลอร์รัสเซีย รวมถึงไฟแนนซ์ ก็หัวบานสิทีนี้
ขาดทุนกันยับ ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจรัสเซียหนักเข้าไปอีก
บางรายก็ไม่พอใจ ว่าเป็นทฤษฎีกลืนอุตสาหกรรมรัสเซีย
เพราะปูตินเองก็ปั่นกระแสชาตินิยมไว้ จีนเองก็คือต่างชาติ
ก็เลยโดนมองว่าเป็นภัยไปด้วย
แล้วพอมีปัญหา ทางจีนก็ไม่ค่อยจะรับผิดชอบ
ที่จริง EV ที่เข้ารัสเซียไป ชื่อค่อนข้างแปลกหูสำหรับคนไทย
เนื่องจากเป็นแบรนด์เล็ก ในลักษณะของบริษัทลูกแบรนด์
ใหญ่ๆ ที่ส่งมาขายบ้านเรา
มันจึงมีคุณภาพที่ค่อนข้างต่ำ สะท้อนว่าจีนนั้น
เหมือสักแต่ว่าระบายรถที่ล้น ตกรุ่นของตัวเองไปให้รัสเซีย
หลอกขายหน้าคุกตอนรัสเซียลำบากไหม ?
ก็พูดแบบนั้นได้เหมือนกัน…
และอย่างน้อยคนไทยก็ได้ใช้รถจีนที่ดีกว่าคนรัสเซียมากล่ะ
คุณภาพรถพวกนี้ ค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะประสิทธิภาพ
แบตเตอรี ที่ไม่สามารถตอบโจทย์อากาศหนาวสุดโหด
ในรัสเซียได้ ในฤดูหนาว
เพราะโดยธรรมชาติทางเทคนิค เเบตเตอรี่ลิเธียมทุกชนิด
จะมีปัญหาการเก็บประจุที่ต่ำลง ในอุณหภูมิต่ำเสมอ
พอเจออากาศหนาวสุดขั้วในรัสเซีย มันก็เลยยิ่งไปกันใหญ่
1
จุดอ่อนนี้ ก็เคยเกิดขึ้นในจีนมาก่อน เมื่อรถไฟฟ้าจำนวนมาก
ต้องไปจอดตายกันช่วงตรุษจีนที่คนจีนเดินทางมากที่สุด
มันเป็นลักษณะที่ผู้ใช้เห็นแหละว่าชาร์จเต็มแล้ว
และหวังว่ามันจะวิ่งได้ตามระยะที่เคลม
แต่เอาเข้าจริง มันได้สั้นกว่านั้น ทำให้ผู้ใช้กะระยะทางผิด
จนสร้างปัญหาไปจอดตาย แบตหมดเร็ว อะไรแบบนั้น
คนจีนเองก็เบื่อเรื่องนี้ ในเขตหนาวจัด พวกเขาจึงนิยม
การใช้รถ hybrid หรือดีเซลมากกว่า เพื่อความชัวร์
แน่นอน แล้วกับพวกรัสเซีย ก็ยิ่งประสาทเสียกับเรื่องนี้
และเป็นเหตุผลหลักเลย ในการทิ้ง EV จีน ของคนรัสเซีย
แล้วอย่างที่บอก พวกนี้คือของเก่า ของโละ จากแบรนด์
ส่วนเกินในจีน มันก็ยิ่งมีปัญหา จากความล้าสมัย
ปัจจุบัน ชาวรัสเซียแก้ปัญหานี้ ด้วยการหันไปซื้อรถมือสอง
จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงยุโรปมาใช้แทนเรียบร้อย
เนื่องจาก มันไม่ได้โดนแบนไปด้วย จากการค่ำบาตร
มีรถญี่ปุ่นมือสองจากทั่วโลก เต็มท่าเรือรัสเซียไปหมด
อย่างไรก็ตาม EV แบรนด์มาตรฐานของจีน ยังพออยู่ได้
ในตลาดรัสเซีย แม้จะได้รับผลกระทบด้านความเชื่อมั่น
จากที่แบรนด์เล็กสร้างชื่อเสียไว้พอสมควรก็ตาม
…แต่ถ้าให้สรุปในภาพรวม ก็ต้องบอกว่าตลาดรัสเซีย
ไม่สามารถพึ่งพาได้อีกแล้ว ที่จีนจะหวังใช้ระบายของมากๆได้
…วันนี้ผมขอเล่าในมุมธุรกิจอย่างเดียวก่อน แต่ในความเป็นจริง
มันมีเรื่องมิติทางการเมืองระหว่างรัสเซีย จีน เข้ามาสร้างปัญหา
ด้วย และส่อให้เห็นถึงรอยร้าวในความสัมพันธ์ ที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างพวกเขา ซึ่งผมจะยกยอดไปเขียนเฉพาะอีกตอนครับ….
โดยสรุป
คือแนวคิดการผลิตแบบจีนนั้น ให้ผลดีในระยะสั้น
และหวือหวาด้วยของใหม่ๆ และกลไกราคาเสมอ
แต่ในความหวือหวานั้น พวกเขาใส่ใจกับผู้ซื้อน้อยเกินไป
จนเกิดเป็นความรู้สึกไม่มั่นใจของตลาด
1
วงจรของสินค้าจีนแทบทุกชนิด กำลังเดินมาถึงจุดอิ่ม
ของปรัชญาการขายแบบนี้แล้ว
1
มันจึงไม่น่าแปลกใจนัก ที่เศรษฐกิจของจีนจะซึม
ทั้งในบ้านและการส่งออก แทบทั้งระบบ
ในขณะที่ปรัชญาการขายแบบใส่ใจลูกค้า
กำลังกลับมาแทน หลังจากตลาดทั่วโลก
พอแล้ว กับความหวือหวา และแปลกใหม่
ตลาด กลับมามองที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก
ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี คนก็จะยิ่งมองว่าต้องซื้อแล้วคุ้ม
…ซึ่งถ้าจีนยังไม่เลิกทำสินค้าลักษณะนี้…
…ก็เลิกคิดได้เลย ว่าจะแซงสหรัฐได้ มันมีแต่จะโดนทิ้งมากกว่า
คนทั่วโลก ไม่ใช่ว่าดูถูกเทคโนโลยีจีนอีกแล้ว
แต่ปัญหาที่จีนต้องแก้ คือ ทำยังไงให้คนเชื่อ
ว่าจีนจะผลิตของที่ดีที่สุดตามศักยภาพมาขายเขามากกว่า
…แนวคิดกำไรน้อย ขายมาก ไม่ได้ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม
…จีนต้องไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกหลอกขายแบบนี้…
ท่านผู้อ่านอาจมองว่าคนเขียนบทความบ้า หรือเก่งมาจากไหน
ที่ไปสอนคนจีนที่เรียกว่าสายเลือดพ่อค้าขายของ
…แต่อย่าลืม ว่าคนจีนก็บอกเองว่านักปราชญ์ยังพลาดได้…
…มันก็แน่นอนแหละ ว่าคนในระดับนโยบายจีน ก็ไม่ใช่บรรลุ
หรือเป็นเทวดามาจากไหน มันก็ต้องมีพลาดกันบ้างแหละ
แล้วผลมันก็เห็นๆกันอยู่…
ผมมองว่าเรื่องนี้ คนทำธุรกิจควรศึกษานะ
…และบางที คำว่า “ความเชื่อมั่น คุ้มค่า” นี่แหละ…
…จะเป็นกุญแจสำคัญ ให้ธุรกิจไทยใช้สู้กับทุนจีนได้…
ส่วนตัวผมเอง ถ้าใครถามว่าจะซื้ออีวีจีนไหม
ตอบเลย ว่าผมไม่ได้แอนตี้จีนอย่างที่ใครคิด
ปกติผมก็ใช้สินค้าพวกเขาไม่น้อยหรอก
( และบ้านิยายกำลังภายในมาก )
ผมจะซื้อพวกเขาแน่นอน
แต่ที่ผมต้องการ ไม่ใช่แบรนด์ในตลาดตอนนี้หรอก
…ผมรอ XIOMI เท่านั้นครับ …
1
เพราะเท่าที่ดูแล้ว หลักการบริหารของ Xiomi นี่แหละ
อินเตอร์ และดูมั่นคง เชื่อถือได้ที่สุดในบรรดาของธุรกิจจีนแล้ว
เป็นแบรนด์จีนเดียวที่ผมใช้ และรู้สึกมี Loyalty กับมัน
ผมมีเครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักพรม เครื่องปั่น และจักรยานไฟฟ้า
ของพวกเขาอยู่ และรู้สึกว่าโอเคมาก ต่างกับแบรนด์จีน
อื่นๆมากทีเดียว ในแง่คุณภาพและหลังการขาย
กับอีวีพวกเขารอมาจนป่านนี้ ไม่เร่งมาก
ก็เพราะรอจนเทคโนโลยีมันเริ่มนิ่งนี่แหละ
…มาเมื่อไหร่ผมซื้อนะ จริงๆ แม้จะแพงกว่ายี่ห้อตลาดๆ
ในตอนนี้จากจีนทั้งหมดก็ตาม …
…BYD , GWM พวกนี้ไม่ได้กินเงินผมหรอก…
…แต่แฟนอยากได้น้องปรือนี่สิ จะทำไงดี 😅…..
อีวีจีนในตลาดรัสเซีย
โฆษณา