30 มิ.ย. เวลา 09:34 • ข่าวรอบโลก

🇦🇪 มหาเศรษฐีโยกถิ่น: UAE เตรียมต้อนรับเศรษฐี 9,800 คนในปี 2025

UAE to Welcome 9,800 Millionaires in 2025 — A Rising Magnet for Global Wealth
📌 ดูไบ-อาบูดาบี ขึ้นแท่นศูนย์กลางใหม่ของความมั่งคั่งโลก
รายงานล่าสุดจาก Henley & Partners เผยว่าในปี 2025 เพียงปีเดียว จะมีมหาเศรษฐีกว่า 9,800 คนย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ UAE โดยเฉพาะ ดูไบ และ อาบูดาบี ท่ามกลางแรงจูงใจจากนโยบายภาษีที่เป็นมิตร ความมั่นคงทางการเมือง และโครงการ Golden Visa ที่เปิดทางให้คนมั่งคั่งตั้งถิ่นฐานระยะยาว
📍 กรณีของ John Fredriksen มหาเศรษฐีน้ำมันชาวนอร์เวย์ ซึ่งย้ายออกจากอังกฤษหลังรัฐบาลยกเลิกระบบ "non-dom" สะท้อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางภาษีในยุโรปเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักคนรวยออกจากโลกตะวันตก
📍 Michael Platt เจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์จากอังกฤษ และ Shravin Mittal นักธุรกิจรุ่นใหม่สายเทคโนโลยีจากอินเดีย ต่างเลือก UAE เป็นบ้านหลังใหม่สำหรับธุรกิจและครอบครัว
📍 ขณะที่ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram และ Nassef Sawiris เศรษฐีเบอร์หนึ่งของอียิปต์ ต่างย้ายสำนักงานใหญ่และฐานทรัพย์สินมายัง UAE ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
✨ UAE กำลังกลายเป็นสนามแม่เหล็กดูดเงินจากเศรษฐีทั่วโลก และก้าวสู่การเป็น "ศูนย์บัญชาการความมั่งคั่งใหม่" อย่างแท้จริง
💡 วิเคราะห์ผลกระทบ: เมื่อเงินทุนและมันสมองไหลออกจากตะวันตกสู่ตะวันออกกลาง
🔸 การย้ายถิ่นฐานของกลุ่ม high-net-worth individuals (HNWIs) ไม่เพียงแต่หมายถึงการขนทรัพย์สิน แต่ยังนำมาซึ่ง ความรู้ เทคโนโลยี และเครือข่ายธุรกิจระดับโลก ที่พร้อมจะสร้างอิทธิพลในภูมิภาคใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง
🔸 ส่งผลให้ศูนย์กลางนวัตกรรมการเงิน (Fintech) การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) และ Private Banking อาจย้ายจุดศูนย์ถ่วงจากลอนดอน-นิวยอร์ก มายังดูไบ-อาบูดาบี
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย: โอกาสหรือความเสี่ยงในสนามแข่งขันใหม่?
🔺 การแย่งชิงฐานธุรกิจของเศรษฐีระดับโลก: หากไทยยังไม่มีนโยบายดึงดูดเศรษฐีต่างชาติที่มีความยั่งยืน เช่น เรสซิเดนซ์วีซ่าระยะยาวที่เอื้อต่อการลงทุนจริง ไม่ใช่เพียงซื้ออสังหาฯ เราอาจตกขบวนเศรษฐกิจใหม่ที่กำลังสร้างศูนย์กลางความมั่งคั่งในภูมิภาคอื่น
🔺 ทิศทางการลงทุนไทยอาจเปลี่ยนไปตามกระแสเงินโลก: นักลงทุนต่างชาติที่เคยสนใจตลาดเกิดใหม่อย่างไทย อาจหันไปตั้งฐานที่ UAE และขยายต่อไปแอฟริกา-ตะวันออกกลาง แทนการกระจายลงทุนใน ASEAN
📊 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET และ mai) ที่เกี่ยวข้อง และอาจได้รับอานิสงส์/ผลกระทบ
💼 BEAUTY (บิวตี้ คอมมูนิตี้) – การเน้นตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงอย่างตะวันออกกลางอาจกระตุ้นให้บริษัทค้าปลีกไทยปรับกลยุทธ์เจาะตลาดดูไบมากขึ้น ซึ่ง BEAUTY เคยมีแผนเจาะตลาด GCC มาก่อน
📦 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) – หากทุนจาก UAE กระจายการลงทุนสู่ ASEAN ผ่านเส้นทางโลจิสติกส์ใหม่ ไทยอาจกลายเป็นทางผ่านสำคัญ ส่งผลให้ WICE ได้ประโยชน์ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจร
🏗️ AMR (เอเอ็มอาร์ เอเซีย) – ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคที่ใช้เทคโนโลยี smart city หากมีกลุ่มทุนใหม่จากตะวันออกกลางเข้ามาในโครงการรัฐไทย AMR อาจเป็นตัวเลือกในการร่วมพัฒนา
🛫 AAV (เอเชีย เอวิเอชั่น) – หากไทยปรับตัวทันและชิงส่วนแบ่งตลาดนักลงทุนจาก UAE ที่อยากขยายเครือข่ายมายังเอเชีย AAV ในฐานะสายการบินต้นทุนต่ำอาจมีบทบาทในการเชื่อมโยงเส้นทางธุรกิจใหม่
🧴 ICHI (อิชิตัน กรุ๊ป) – แบรนด์ไทยที่เคยบุกตลาดฮาลาล หากดึงดูดใจตลาดผู้บริโภคอาหรับได้ดี อาจมองหาโอกาสเจาะลึกดูไบเพิ่มมากขึ้น
🌍 สรุป: โลกกำลังเปลี่ยนขั้วทางการเงิน – ไทยจะเป็นผู้เล่นหรือแค่ผู้ชม?
การเคลื่อนย้ายของกลุ่ม Ultra-wealthy ไม่ใช่แค่เรื่องของภาษี แต่เป็น “ยุทธศาสตร์การลงทุนโลกใหม่” ที่กำลังเบนทิศมาอยู่ในมือของประเทศที่พร้อม ทั้งนโยบาย เครือข่ายและความมั่นคง
📣 คุณคิดว่าไทยควรปรับตัวอย่างไร?
เราควรมี “Golden Visa ไทย” หรือควรผลักดันให้นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรไทยแทนอสังหาริมทรัพย์?
แสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่าง 👇 แล้วร่วมวางอนาคตเศรษฐกิจไทยไปด้วยกันค่ะ!
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#มหาเศรษฐีทั่วโลกย้ายถิ่น #UAEศูนย์กลางใหม่ #สงครามSoftPower #เศรษฐีเลือกถิ่นฐานใหม่ #GoldenVisaUAE #เวทีมหาอำนาจ #WorldScope
🗞️ Reference: NDTV – Millionaires On The Move: United Arab Emirates To Welcome 9,800 Millionaires In 2025

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา