🧨 “สหรัฐฯ เตรียมถอนสัญชาติพลเมืองที่ได้สัญชาติโดยมิชอบ – ใครคือกลุ่มเป้าหมาย?”
🇺🇸 US Prioritises Revoking Citizenship of Naturalised Americans – Who Will Be Impacted?
🔎 เนื้อหาสาระสำคัญของนโยบายใหม่
ภายใต้นโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ที่ออกมาเมื่อ 11 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ฝ่ายกฎหมายได้รับคำสั่งให้เร่งดำเนินการ “ถอนสัญชาติ” ผู้ที่ได้สัญชาติสหรัฐโดยผิดกฎหมาย หรือกระทำการร้ายแรง เช่น อาชญากรรมสงคราม การทรมาน การฉ้อโกง การก่อการร้าย และแม้แต่การโกหกในใบสมัครสัญชาติ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หรือก่อคดีร้ายแรงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
📌 หมายเหตุสำคัญ: การถอนสัญชาติแบบนี้เป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา ทำให้รัฐไม่จำเป็นต้องจัดหาทนายให้ผู้ถูกกล่าวหา และมีภาระการพิสูจน์ต่ำกว่าปกติ
🧷 ใครบ้างที่อาจถูกกระทบ?
🟥 กลุ่มผู้ได้สัญชาติโดยการแอบอ้างหรือปกปิดข้อมูล
🟥 ผู้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมสงคราม การทรมาน หรือการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม
🟥 ผู้มีส่วนร่วมในกลุ่มก่อการร้าย หรือมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคง
🟥 ผู้ที่มีส่วนร่วมในการฉ้อโกง เช่น PPP Loan Fraud, Medicare Fraud หรือการฟอกเงิน
🟥 ผู้ที่อยู่ในองค์กรอาชญากรรม หรือแก๊งข้ามชาติ เช่น MS-13
📌 จำนวนผู้ที่อาจถูกตรวจสอบสูงถึง 25 ล้านคน (ผู้ถือสัญชาติสหรัฐที่เกิดในต่างประเทศ)
🧭 ทรัมป์เร่งผลักดันกฎหมาย – จุดเปลี่ยนนโยบายผู้อพยพ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขยายแนวทางนโยบายของโอบามาในเรื่องการถอนสัญชาติ และตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการในเทอมที่ 2 ของเขา โดยเชื่อมโยงนโยบายนี้กับมาตรการควบคุมผู้อพยพ รวมถึงการจับกุมและเนรเทศแม้แต่ผู้ถือกรีนการ์ดหรือผู้ที่ได้สัญชาติแล้ว
📌 ผู้ที่อยู่ในสหรัฐด้วยความเชื่อว่า “การได้สัญชาติคือการรับรองความมั่นคงในชีวิต” อาจเริ่มต้องกลับมาคิดใหม่
🌐 ผลกระทบต่อชาวไทยและแรงงานต่างชาติ
สำหรับคนไทยที่ถือสัญชาติสหรัฐ หรืออยู่ในระหว่างกระบวนการขอสัญชาติ หากมีประวัติเกี่ยวพันกับการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือเคยมีคดีแม้แต่ในอดีต อาจเสี่ยงถูกสอบสวนหรือถอนสัญชาติ
🇹🇭 คนไทยที่เดินทางไปทำงานในสหรัฐในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มแรงงาน H-1B หรือกลุ่มที่มีเครือข่ายครอบครัวที่อพยพ อาจต้องเฝ้าระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีธุรกิจที่เคยได้รับเงินช่วยเหลือช่วงโควิด เช่น PPP Loan
📉 วิเคราะห์ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย: หุ้นที่เกี่ยวข้อง
📌 การเร่งกวาดล้างอาชญากรรมทางไซเบอร์ การเงิน ข้อมูล และเทคโนโลยีในสหรัฐ อาจส่งผล "Ripple Effect" มาถึงหุ้นไทยในหลายอุตสาหกรรม
🔸 ADVICE (แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท) – ธุรกิจไอทีและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจได้อานิสงส์ทางอ้อม หากสหรัฐเร่งพัฒนาและเปลี่ยนผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่ถูกถอนสัญชาติ
🔸 ACC (แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น) – มีธุรกิจด้านพลังงานและระบบควบคุม อาจได้รับผลทางอ้อมจากการส่งเสริมความมั่นคงพลังงานที่มีความสัมพันธ์ด้านข้อมูลและการนำเข้าเทคโนโลยี
🔸 AE (ออลล์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ ยูทิลิตี้) – หากการสืบสวนโยงถึงธุรกิจพลังงานและยูทิลิตี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับทุนข้ามชาติ อาจเป็นโอกาสหรือแรงกระเพื่อมสำหรับบริษัทไทยที่มีมาตรฐานโปร่งใส
🔸 AGE (เอเชีย กรีน เอนเนอจี) – บริษัทจำหน่ายถ่านหินอาจได้ผลดีจากการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเชนพลังงานที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้มากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
🔸 AH (อาปิโก ไฮเทค) – ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และโลจิสติกส์ หากสหรัฐปิดกั้นผู้ประกอบการที่มีประวัติอาชญากรรมข้ามชาติ ไทยอาจได้พื้นที่ทางการค้าเพิ่มขึ้น
💡 มุมมองต่ออนาคต: ความมั่นคง ≠ ความนิ่ง
การนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มข้นในสหรัฐถือเป็นสัญญาณว่าประเทศผู้นำกำลังให้ความสำคัญกับ "Security-Driven Governance" มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นต้นแบบให้นานาประเทศ รวมถึงไทย นำแนวคิดนี้ไปปรับใช้กับโครงการด้าน Smart Visa การตรวจสอบ Digital Identity และการจัดสรรทรัพยากรด้านความมั่นคง
📣 คุณคิดอย่างไรกับนโยบายนี้?
การถอนสัญชาติควรเป็นทางออกจริงหรือ?
แชร์มุมมองของคุณต่อประเด็นนี้ — ทั้งในมุมมนุษยธรรม กฎหมายและเศรษฐกิจ ได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างเลยค่ะ!
🔖 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#USCitizenshipPolicy #Denaturalisation #TrumpPolicy #GlobalSecurity #ImmigrationLaw #WorldScope #เวทีมหาอำนาจ #ข่าวต่างประเทศ #สหรัฐอเมริกา #สิทธิมนุษยชน #นโยบายความมั่นคง #หุ้นไทยกระทบ #StockImpact #WorldScopeNews
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
