1 ก.ค. เวลา 17:54 • ปรัชญา

ภาวนาตามวิถีช่าง

...ผมเริ่มสรุปความเข้าใจของตัวเองเมื่อประมาณ 5-6 ปี ที่แล้วช่วงโควิด ระบาดหนักไม่ได้ไปไหน 🥲ก็คิดไปเรื่อย ตอนนั้นความเข้าใจของผม
ในเรื่องของการ "ภาวนา"ก็คือ
......จากประสบการณ์ที่เคยไปวัดฟังธรรม ในตัวผมคิดและสรุป ว่าการภาวณานั้นอยู่ในทุกการกระทำของเรา ทุกกิจกรรมที่เราทำ สามารถภาวณาไปพร้อมกันได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิหรือเดินจงกลม .
....มันเริ่มจากตอนที่ผมใช้กระดาษทรายขัดชิ้นงานศิลปะ วันนั้น ผมกำลังใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับพื้นผิวของชิ้นงาน โดยไม่รู้ตัวว่าเรากำลังทำพฤติกรรมซ้ำๆลอกเวลาหลายวัน ผมเริ่มฟังเสียง "เสียง"ที่เกิดจากการขัด.ถู.. จังหวะการลากมือไปบนชิ้นงาน แต่พฤติกรรมนั้นจะเปลี่ยนไปเมื่อเราได้ยินเสียงรอบข้าง หรือเปิดเพลง ผมจะขัดชิ้นงานตามจังหวะเพลงทันที เพราะผมฟังเสียงเพลง
.
...แต่เมื่ออยู่กับมันนานพอ เสียงมันสม่ำเสมอขึ้นแม้ถูกรบกวน และผมสามารถกำหนดจังหวะและเสียงที่เกิดขึ้นได้
ผมไม่ได้หลับตา
ไม่ได้อยู่ในวัด
แต่ใจผม “อยู่กับสิ่งที่ทำ” จริง ๆ
และนั่นแหละ... ผมเริ่มเข้าใจว่า
การภาวนาเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา
หลังจากนั้น ผมเริ่มสังเกตคนอื่นบ้าง😄
ผมเห็นช่างคนหนึ่งกำลังตอกตะปู
เสียงตอกกระทบเหล็กดังสม่ำเสมอ
จังหวะที่เขาหยิบตะปูขึ้นมาตี เหมือนเดิมทุกครั้ง
ผมมองแล้วรู้สึกว่า...
เขาก็กำลังภาวนาอยู่ — แม้ไม่รู้ตัว
...ผมเริ่มสนุกเลยที่นี้ฮ่าๆ
....เเต่
มีอย่างหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ เราจะภาวนาไปทำไม?
ผมจึงไม่สนใจเรื่องการทำภาวณนาอีกมาจนปลายปีที่แล้ว ผมได้มาคิดอีกครั้ง เพราะผมใช้สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นพระที่ห้อยคอ ผมรู้สึกว่าใจมันนิ่ง
เหมือนกับว่าผมกำลัง “ภาวนา” โดยไม่รู้ตัว หลังจากนี้ผมคิดว่าจะทำให้การภาวนาแบบฉบับของผมให้เป็นปกติประจำ รอดูว่าจะมีอะไรเปลี่ยนมั้ย,
....ท่อนสุดท้ายคือสิ่งสำคัญ หากเราทุกคนรู้ตัวว่าตัวเองกำลังภาวนาอยู่ขณะกำลังทำงาน ให้ทำแบบเดิมดีแล้ว และจงมีสติและสมาธิจดจ่ออยู่กับทุกอย่างที่เราทำ หรือได้คำสั่งให้ทำหน้าที่ก็ขออย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเลิกงานกลับบ้าน แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำออกมาผลลัพธ์จะดีแน่นอน
โฆษณา