ดาบฆ่ามังกร !
ญี่ปุ่น กองทัพที่ถูกจับตาและขึ้นชื่อว่าพัฒนาเร็วที่สุด
ทัพหนึ่งของโลก ในรอบสิบปีหลัง
ซึ่งก็แน่นอน การมีเพื่อนบ้านแบบเกาหลีเหนือ
และข้อพิพาทกับรัสเซีย และจีน มันบีบให้พวกเขาต้องทำ
แม้จะสิ้นเปลืองเท่าไหร่ก็ต้องยอม
การเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
มันทำให้ญี่ปุ่นไปได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ
…และบางที การปลุกผีซามุไรของพญาหมีและพญามังกร…
…มันก็ไม่ใช่เรื่องที่สนุกนัก….
ล่าสุด
ญี่ปุ่นประกาศประสบความสำเร็จในการติดตั้ง
Rail gun หรือปืนใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแม่เหล็ก
บนเรือรบเป็นครั้งแรกของโลก ที่มีการยืนยันด้วยหลักฐาน
คือ จีนเคยโชว์ว่าติดเหมือนกัน แต่ไม่มีหลักฐานการใช้งาน
และขนาดก็ใหญ่ จนไม่น่าเชื่อว่าเรือจะออกทะเลได้จริง
มันก็เลยไม่ได้ถูกนับแบบญี่ปุ่น
ถ้าดูในข่าว จะเห็นว่าของญี่ปุ่นนั้นมีขนาดเล็กกว่ามาก
แต่สเปกตามอ้างนั้น จัดว่าปิศาจและฝันร้ายของศัตรูชัดๆ
เพราะมันสามารถ”เหวี่ยง”กระสุนขนาดใหญ่
ให้มีความเร็วได้มากถึงกว่า 2,000 เมตรต่อวินาที
หรือราว 6 มัค !
เร็วแค่ไหนเหรอ คิดง่ายๆ ว่าปืนใหญ่ฮาไวเซอร์
มีความเร็วเพียงราวๆ 300 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
และนี่คือความเร็วแบบไม่ต้องไต่ระดับ เหมือนขีปนาวุธ
แม้แต่ Hypersonic ก็ไม่มีความเร็วขนาดนี้ในระยะสั้น
โดยไม่พึ่งการทิ้งตัว หรือความเร็วต้นจากเครื่องบินช่วย
น่ากลัวพอไหม ?
ถ้ายัง บอกต่อว่านี่คือการยิงที่ 5 เมกะจูลล์
แต่ทางญี่ปุ่นเคลมว่า มันเร่งกำลังได้มากที่สุดที่ 20 เมกะจูลล์
หรือ มันอาจเร็วกว่านี้ได้มากถึง 4 เท่า !ตามกำลังส่ง
และอัตรายิงต่อเนื่อง คือ 120 ครั้ง !
( อาจลดลง ถ้าเร่งพลังงานไปถึง 20 เมกะจูลล์)
…นี่คืออาวุธพลังงานจลล์ที่รุนแรงที่สุดในโลกตอนนี้แล้ว….
ยังครับ ยังไม่จบ
เนื่องจากอาวุธชนิดนี้ ใช้การ”เหวี่ยง” ลูกกระสุนผ่านราง
ด้วยแรงแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้มันสามารถติดหัวรบได้หลายแบบ เช่นเดียวกับขีปนาวุธ ไม่ใช่ถูกจำกัดแบบปืนใหญ่
…ใช่แล้ว นั่นหมายรวมถึงหัวรบนิวเคลียร์ด้วย….
มันคืออาวุธเชิงรุก และรับ ในเวลาเดียวกัน
อาวุธชนิดนี้นั้นมีลักษณะพิเศษมากๆอย่างหนึ่ง
คือมันเล่นได้หลายบทบาทในตัวเอง
เป็นอาวุธยิงเรือได้ ต่อสู้อากาศยานก็ได้
สามารถใช้ต่อต้านขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคได้
และนี่คือวัตถุประสงค์หลักของมันในตอนนี้
สามารถใช้ยิงสนับสนุนขึ้นไปบนฝั่งก็ได้ ทั้งแบบยิงตรง
และยิงวิถีโค้ง ซึ่งไอ้วิถีโค้งนี่จะยิงไปเพิ่มพลังงานจลล์
ให้มีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
….จะเห็นว่ามันมีประโยชน์มากกว่าขีปนาวุธเสียอีก…
…และที่สำคัญ ต้นทุนแต่ละนัด รวมถึงตัวปืน
มีราคาที่ถูกกว่าระบบขีปนาวุธมากมายหลายเท่า….
…ถ้ามันสมบูรณ์ตามที่ญี่ปุ่นอ้าง นี่คือโคตรอาวุธ
ที่ญี่ปุ่นจะใช้ต่อกรกับจีนได้อย่างสูสีมากขึ้นหลายเท่าทีเดียว…
…ไม่มีเรือรบลำไหนของจีน ที่สามารถรอดจากอาวุธชนิดนี้ได้แน่ ถ้ามันมีโอกาสได้ยิงก่อน มันน่ากลัวสำหรับเรือรบ
มากกว่าไฮเปอร์โซนิคมิไซลล์หลายเท่านัก …
มันถูกออกแบบมาให้รับมือกับจีนโดยเฉพาะ
เนื่องจากญี่ปุ่นนั้นดูจะมียุทธศาสตร์การป้องกันมากกว่า
พวกเขาจึงไม่เลือกแนวทางของ hyper sonic แบบจีน
หรือรัสเซีย
และอย่างที่บอก จุดประสงค์หลักจริงๆของมัน
ก็คือการสกัด hyper sonic missile และต่อต้าน
อากาศยานเป็นหลัก ก่อนทำการโจมตีกลับไป
ไฮเปอร์โซนิคฯ ในระยะใกล้ที่ปล่อยจากเครื่องบินรบนั้น
มันแทบเป็นไปไม่ได้ ที่เรือรบจะสกัดได้ด้วยมิไซล์ด้วยกัน
และญี่ปุ่นก็ไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินแบบสหรัฐ
ที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
ญี่ปุ่นจึงเลือแนวทางของ Rail gun อย่างที่เห็น
บางที การไม่มีภาระทางงบประมาณมาก
จากเรือบรรทุกเครื่องบิน ก็คือจุดแข็งของญี่ปุ่นอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ทุ่มเงินกับ Rail gun ได้มากกว่ากองทัพอื่นในโลก
ซึ่งสหรัฐก็มีปัญหากับโครงการนี้ เพราะงบประมาณ
ของเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น เก็บกินงบประมาณมากไปนั่นเอง
…และนี่แหละ น่าจะเป็นเหตุผลหลัก ที่ญี่ปุ่นทำสำเร็จก่อนใคร…
ความจริงแล้ว อาวุธชนิดนี้ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรนัก
และแทบทุกชาติใหญ่ๆ ก็มีตัวต้นแบบ
มันก็หลักการเดียวกับรถไฟความเร็วสูงนั่นแหละ
คือใช้การผลักของแม่เหล็กไฟฟ้า ยก และดันวัตถุ
ไปข้างหน้าต่อๆกันบนราง ตามชื่อของมัน
ซึ่งที่จริง มันทำความเร็วได้เท่ากับไฟฟ้าเองนั่นแหละ
ปัญหาที่ทำให้มันใช้จริงๆได้ยาก คือข้อจำกัดด้านวัสดุ
คือ การยิงมันออกไปนัดสองนัดนั้น ใครก็ทำได้
แต่จะให้มันยิงต่อเนื่องเป็นร้อยนัดนั้น ยากมาก
เพราะวัสดุในลำกล้องจะพังก่อน
ของสหรัฐนั้น เคยทำไว้ที่การยิงต่อเนื่องที่ 20-30 นัด
เท่านั้น ก่อนจะแขวนโครงการไป
( แต่ส่วนมากก็รู้กันนั่นแหละ ว่าสหรัฐเอาโครงการนี้
มาแปะไว้กับญี่ปุ่น เพื่อให้ญี่ปุ่นจ่ายแทน )
ส่วนจีนนั้นไม่มีความชัดเจน ว่าอัตรายิงต่อเนื่องได้เท่าไหร่
แต่เนื่องจากจีนนั้น มีจุดอ่อนมาก ด้านเทคโนโลยีวัสดุ
จึงคาดกันว่า เต็มที่ก็ไม่ดีกว่าที่สหรัฐทำไว้
และจีนเองก็เลือกแนวทางของ hyper sonic มากกว่า
จนโครงการนี้ของจีนขาดความต่อเนื่อง
ถ้าจีนไม่ไหว รัสเซียยิ่งไม่ต้องพูดถึง รายนั้นวัสดุศาสตร์
เข้าขั้นย่ำแย่อยู่แล้ว มันไม่ใช่จุดเด่นของพวกเขาเลย
จึงตัดออกไปได้ ว่ารัสเซียไม่มีในระดับที่ติดบนเรือได้แน่
อาวุธชนิดนี้ มันมีข่าวว่า สหรัฐมีในครอบครองพอสมควร
แต่เป็นการใช้บนแผ่นดินพวกเขา เพื่อการสกัดขีปนาวุธต่างๆ
มากกว่าที่จะขนใส่เรือไปยิงใคร
และเมื่อติดบนเรือก็มีข้อจำกัดอีกอย่าง คือมันใช้ไฟฟ้าเยอะมาก
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความเสถียรด้านพลังงานบนเรือ
ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึง ที่เชื่อว่าจีนยังทำไม่ได้
เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างมีปัญหากับเรื่องนี้
เมื่อดูจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่อัตราโหลด
และปล่อยเครื่องบิน ที่ใช้ไฟฟ้ามาก ยังช้า และอยู่ในอัตรา
ที่ต่ำ ถ้าเทียบกับเรือสหรัฐ
…ซึ่งก็ไม่แฟร์นะ ที่เทียบแบบนี้ เพราะสหรัฐมันเรือนิวเคลียร์
แต่ของจีนเป็นเรือดีเซล generator มันคนละชั้นอยู่แล้ว…
การที่ญี่ปุ่นมีระบบไฟฟ้าที่เสถียรพอ มีความเป็นไปได้สูงมาก
ที่ได้องค์ความรู้เรื่องนี้จากสหรัฐ ซึ่งแสดงว่าความสัมพันธ์
ต้องปึ๊กกันจริงๆ เพราะสหรัฐหวงเทคโนโลยีนี้มาก
…Rail gun โดยเฉพาะบนเรือ จึงเป็นอาวุธที่เหมือนง่าย…
…แต่จริงๆนั้นโคตรยากเลยแหละ….
ญี่ปุ่นคงอุ่นใจขึ้นเยอะ หากอาวุธนี้ประจำการบนเรือพวกเขา
ส่วนมากได้ มันจะปกป้องเรือของพวกเขาจากมิไซล์
และเครื่องบินได้มากขึ้นแน่ๆ
น่าจะภายในสิบปีนี้ ญี่ปุ่นมีแน่ และคงเยอะด้วย
อาวุธชนิดนี้ เมื่อรวมกับระบบ AI ในการคำนวณเป้าหมาย
มันจะน่ากลัวมาก และเหยื่อของมัน ยากมากที่จะรอดไปได้
จีนเองก็คงคิดหนักมากขึ้น ถ้าจะอะไรกับญี่ปุ่นให้มากไป
…ซึ่งก็ดีนะ ภูมิภาคนี้จะได้คานอำนาจกันมากขึ้น…
…สองชาติ ถ้ากำลังรบมันสูสี ก็ไม่มีใครอยากเสี่ยง
นั่นจะทำให้ท้องทะเลแถบนั้นปลอดภัยไปอีกนานเลย…
…นี่แหละ ดาบฆ่ามังกรเล่มใหม่ …
…และมันอยู่ในมือซามุไรที่ถูกปลุกจากหลับไหลมานาน
ด้วยเสียงคำรามของพญามังกรเอง…
ถ้ามีอะไรขึ้นมา พญามังกรก็จะโทษใครไม่ได้เลย
…ที่ไปปลุกมันขึ้นมาแบบนั้น ….
ว่าไป ก็เหมือนตำนานญี่ปุ่น อย่างเทพ ซูซาโนโอะ
ปราบมังกร ยามาตาโนะโอริจิเหมือนกันนะ ใช่เลย
จะให้เท่แบบข่มมังกรจีน ก็ตั้งชื่อปืนไปเลย ว่าซูซาโนโอะ 😁
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
