4 ก.ค. เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

WHA ชี้เวียดนามปิดดีลภาษีดี หนุนลงทุน หวั่น 5 ปีไทยโดนแซง หากไม่เร่งพัฒนา

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ดำเนินธุรกิจ 5 กลุ่มอุตสาหกรรม 1. ธุรกิจโลจิสติกส์ 2. ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน 3. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 4. ธุรกิจดิจิทัล และ 5. ธุรกิจโมบิลิตี้ (ภายใต้แบรนด์ Mobilix) ซึ่งทั้ง 5 ธุรกิจ มีทั้งรายได้ที่เกิดประจำและรายได้ที่มาจากการขาย
โดยผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 1 ปี 2568 ว่า บริษัทมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 5,193 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 5,181 ล้านบาท และกำไรปกติ 2,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% (Y-Y) เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปัจจัยที่ทำให้กำไรปกติมาจากการเติบโตของ 5 กลุ่มธุรกิจ
ทั้งนี้ WHA ได้มุ่งขยายโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่ม
สำหรับไตรมาส 1/2568 WHA Group มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด 16 แห่ง ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่กำลังก่อสร้างและรอการพัฒนารวม 7 โครงการ บนพื้นที่ 9,681 ไร่
ล่าสุด มีการพัฒนาพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 5 (WHA ESIE 5) เฟส1 พื้นที่กว่า 4,000 ไร่ ภายใต้แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ “Smart Eco Industrial Estate” ที่มุ่งเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และการพัฒนาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ขณะที่ประเทศเวียดนาม มี 2 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง พื้นที่รวม 2,297 ไร่ และอีก 1 โครงการ มีขนาดพื้นที่ 1,094 ไร่ อยู่ระหว่างการขออนุมัติใบอนุญาตลงทุน โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับรัฐบาลท้องถิ่นประจำจังหวัด Thanh Hoa เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อพัฒนาเขตอุตสาหกรรม พื้นที่รวม 4,000 ไร่
น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การที่สหรัฐปิดดีลเจรจาภาษีกับเวียดนามเรียบร้อยแล้วนั้น ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนามน่าจะดีขึ้นจากเดิมที่โดนเก็บภาษีนำเข้า 46% เหลือ 20% เพราะในช่วงแรกลูกค้ายังงงอยู่ที่เพราะคาดว่าน่าจะต่ำกว่าที่ได้ประกาศครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเจรจาของประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเท่าไหร่ โดยขณะนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งจากการติดตามข่าวเห็นบอกว่าน่าจะอยู่ที่ 18% จาก 36% และคาดว่าจะต่อรองให้ได้ 10% ซึ่งก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
โฆษณา