5 ก.ค. เวลา 09:48 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

บักเจมส์ เชิร์จเวิร์ด โกหกสิ่งใด กับเราไว้บนแผนที่โลกของเขาในศตวรรษที่19???(4.3)

บทความข่าวที่แล้ว ผู้เขียนมีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าของเรานั้น น่าจะเป็นชนชาวมองโกลลอยด์ที่เป็นชาวเอเชียมากกว่าจะเป็นชาวอารยันที่เป็นฝรั่งนะครับ สถานที่ประสูติของพระองค์นั้น ก็คือ แคว้นสักกะ อันเป็นแคว้นรึแขวงเล็กๆแห่งหนึ่งในอินเดีย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมปกครองของแคว้นโกศล
แคว้นโกศลนี่ล่ะ ที่ผู้เขียนเชื่อว่า เป็นแคว้นหนึ่งในหลายๆแคว้นในอินเดีย ที่มีชาวอารยันอพยพลงมาจากตอนเหนือเข้ามาอยู่อาศัย หรือว่า อาจจะเป็นชาวอารยันที่อยู่ที่อินเดียแต่เดิมมาก็ได้ เพียงแต่ภายหลังชาวมงโกลพื้นถิ่น
หลักฐานอีกประการหนึ่งที่เห็นชัดคือ เรื่องของหน้าตาผิวพรรณของตระกูลศากยวงศ์ในปัจจุบันที่อินเดียนั้น ไม่เหมือนชาวอารยันเลยสักนิดเดียวครับ แต่ไพล่ไปเหมือนชาวมงโกลลอยด์มากกว่า
มองโกลลอยด์ในที่นี้ อาจจะไม่ได้ตีความว่า คือชาวจีนมงโกล(ทิเบโต-มองโกลลอยด์) เสมอไปนะครับ อาจจะเป็นชาวเอเชียนี่ล่ะ เพราะพระพุทธเจ้าเรานั้น น่าจะมีพระนิสัยรังเกียจพวกต่างถิ่นที่เข้ามาอยู่อาศัยแย่งพื้นที่ที่อยู่ของเผ่าพันธุ์พระองค์ ที่มาอยู่ก่อนเป็นตามธรรมดาของชาวพื้นถิ่นครับ
ชาติพันธุ์มองโกลลอยด์ อันได้แก่ชาวเอเชีย ,ชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกา,ชาวโพลินีเชียน ,ชาวนิวซีแลนด์ และชาวเอสกิโม ซึ่งส่วนมากแล้วคือคนพื้นถิ่น
นั่นก็คือ ชาวอารยัน ลักษณะความที่ไม่ชอบนี้ จึงปรากฏออกมาในคำสอนของพระพุทธศาสนาของพระองค์ เช่น คำสอนรังเกียจเรื่องยักษ์ต่างถิ่น เป็นต้น
ตามธรรมดาแล้วพระบรมศาสดาใด ท่านเกิดมาบนโลกก็เพื่อจะสั่งสอนชนเผ่าของท่านและครอบครัวก่อน ก่อนที่จะขยายไปสั่งสอนชนเผ่าอื่น และชาติพันธุ์อื่นเป็นลำดับต่อไป ผู้เขียนคิดว่า พระพุทธเจ้าก็น่าจะเป็นเฉกเช่นลักษณะนี้ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนจะขอวิเคราะห์ความคิดทั้งสองด้าน ทั้งความเห็นที่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นชาวอารยัน และ พระพุทธเจ้าเป็นชาวมองโกลลอยด์นั้น ตกลงพระองค์มีความโน้มเอียงที่จะเป็นชนชาติใดกันแน่ ??
ทวีปมู (Mu) หรือ รีมูเลีย (LeMUria) ก็เห็นพ้องต้องกันครับว่า อาณาจักรที่เก่าแก่ยืนนานที่สุดในโลกที่เป็นอารยธรรมของ"มนุษย์โลก"จริงๆนั้น คือ มู:ทวีปแห่งมารดรคือ นครอันตธานที่จมหายลงใต้ทะเลแปซิฟิกใต้เมื่อกว่า ๑๓,๐๐๐ ปี เราทั้งหลายได้รู้เรื่องราวจากจารึก นาอะคัล ที่ค้นพบในอินเดีย อันที่จริง จารึกแห่งนาอะคัลนี้ เขียนโดยสัญลักษณ์และอักขระนากา (Naga) จากตำนานกล่าวกันว่า “เขียนขึ้นที่แผ่นดินมู จารึกนี้ ได้ถูกนำเข้ามาที่พม่าก่อน แล้วจึงนำมาที่อินเดีย มีอายุเก่าแก่ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ปี”
จุดจบ คือจุดเริ่มต้น และ จุดเริ่มต้น ก็คือจุดจบ หลังจากจุดจบทวีปมูเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของอารยธรรมจุดต่าง ๆ ในโลกยุคหลังของผู้รอดจากภัยพิบัติ สายสัมพันธ์บรรพบุรุษ กำเนิดแม่น้ำคงคา
เริ่มต้นขอนำตำนานสำนวนหนึ่งของชาวอินเดียต่อแม่น้ำคงคา จากหนังสืออินเดีย แผ่นดินมหัศจรรย์ ผู้เขียนคือ คุณอรุณ เฉตตีย์ในอดีตนั้นมีฤาษีกปิละ ซึ่งบำเพ็ญเพียรอยู่บนภูเขาหิมาลัย อยู่มาวันหนึ่งพวกโอรสของท้าวสักกะกษัตริย์แห่งอโยธยาออกตามม้าที่หายไป เมื่อมาพบม้ายืนอยู่ข้างพระฤาษี ก็เลยยัวะ! ตะโกนด่าและแกล้งท่านต่าง ๆ นา ๆ จนท่านตบะแตก จ้องมองไปที่กลุ่มเจ้าชาย เกิดไฟเผาผลาญเจ้าชายกลายเป็นเถ้าถ่าน และสาปสำทับไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิด จนกว่าจะได้มีโอกาสสัมผัสกับแม่น้ำคงคา
ฤาษีกปิละใช้ตาไฟเผาผลาญโอรสของท้าวสักกะ บางตำราก็เรียกว่า “ท้าวสคระ”
ต่อมาท้าวภคีรส ผู้สืบเชื้อสายจากท้าวสักกะปฐมกษัตริย์ ซึ่งมีความเศร้าโศกเสียใจมากที่บรรพบุรุษของตนโดนสาปเช่นนั้น จึงบำเพ็ญตบะอย่างแรงกล้า เพื่อขอพรพระอิศวร (พระศิวะมหาเทพ) ให้ช่วยวิงวอนแม่น้ำคงคาให้ไหลหลั่งลงมาสู่แผ่นดินเป็นการชำระบาปของผู้ที่ต้องคำสาป และแล้วพระแม่คงคาก็เห็นใจ ยอมหลั่งสายน้ำจากเขาไกรลาสลงสู่พื้นดิน เพื่อชำระอัฐิของพวกโอรสและมนุษย์ทั้งหลายให้พ้นมลทิน นี่คือ ตำนานกำเนิดสายน้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์สำนวนหนึ่ง
ภาษา สัญลักษณ์ รหัสวิทยา ภาษาโบราณ บันทึกของทวีปมู เริ่มจากดอกบัวเป็นตัวแทนของทวีปนี้เสมอ และทุกที่ในอาณาจักร และอาณาจักรลูก
ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันมานานประมาณ 50,000 – 30,000 ปีมาแล้ว บนทวีปมู หมายถึง อาณาจักรมู สื่อเป็นภาษาภาพของอาณาจักร รวมสัญลักษณ์ตราราชวงศ์ และบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น คือศาสนธรรมโบราณ
แผนที่โบราณ
ท่านฤาษีวาลมิกิ (Valmiki) นักปราชญ์ นักโบราณคดีของอินเดีย ผู้รจนารามายณะ หรือ รามเกียรติ์ ระหว่าง พ.ศ. ๑๐๐ – ๒๐๐ ท่านวาลมิกิผู้ได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวจากการอ่านบันทึกโบราณของวัด โดยนักบวชผู้สูงศักดิ์แห่งวัดริชี (Rishi) ที่เมืองอโยเดีย (Ayhodai) กล่าวถึงนักบวชนาอะคัลว่า “มาสู่พม่าจากแผ่นดินเกิดของพวกเขา ซึ่งอยู่ทางตะวันออก” จากนั้นเหล่านักบวชนาอะคัล (Naacal) นำความรู้วิทยาการต่าง ๆ ศาสนาโบราณ การบูชาเทพเจ้าดวงอาทิตย์มาสู่มายา, ไอยคุปย์ (ตอนเหนือ), อารยัน
(ก่อนชาวอารยันเปลี่ยนชื่อเป็นวิษณุเทพ เมื่อครั้งลงมาอยู่ชมพูทวีป) นักบวชนาอะคัลดังกล่าวเข้าสู่อินเดีย และไอยคุปย์อาณาจักรตอนเหนือ โดยการเผยแพร่ศาสนาโบราณ และคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ และไอยคุปย์ (ตอนใต้) ในขณะที่ ซาอีร์ ปฏิบัติตามศาสนธรรมของโธท (Thoht) บูชาเทพโอซิริส ขณะเดียวกัน ชาวทวีปมูกลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ที่ยูคาตัง เม็กซิโก และสร้างวิหารพีระมิดขึ้นจารึกว่า
“เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่แผ่นดินตะวันตก ที่ซึ่งเราจากมา” รวมถึงพีระมิดแห่งเม็กซิโก ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม็กซิโก ซิตี้ (Mexico City) คำจารึกของพีระมิดกล่าวไว้ว่า “พีระมิดถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์แด่การล่มสลายของแผ่นดินแห่งตะวันตก” ลักษณะวิหารพีระมิดที่เป็นอารยธรรมเมโสอเมริกา แถบทวีปอเมริกากลาง รวมทั้งบันทึกการล่มสลายของแผ่นดินทวีปมู ที่รู้จักกันว่าคือชนเผ่ามายา
ประโยชน์ส่วนหนึ่งของวิหารพีระมิด ใช้เพื่อนักบวชประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เพื่อบูชาเทพเจ้าดวงอาทิตย์ รา, รามู เทพเจ้าสูงสุด และประเพณีต่างๆ ที่มาจากที่เดียวกัน
การนับถือเทพเจ้าดวงอาทิตย์เป็นสิ่งสูงสุดของชาวอารยัน, มายาในยูคาตัง, ไอยคุปย์โบราณ ล้วนมาจากมาตุภูมิที่เรียก รา-มู สัญลักษณ์ผู้สร้าง นารายาณะ พยานาค ๗ เศียร ความรู้เกี่ยวกับตำนานการสร้างโลก การกำเนิดจักรวาล และที่โมเสสถอดมาจากภาษาฮีโรกริฟริกในไอยคุปย์ ลงสู่คัมภีร์เอซรา (Ezra) แล้วแปลลงเป็นภาษาฮิบรู เป็นพันธสัญญาเก่า และพันธสัญญาใหม่ในบทการสร้างโลก (Genesis)
ว่าด้วยชาติพันธุ์ของพระพุทธเจ้า
ตามทรรศนะของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องท้าวสักกะองค์อินทร์ และกรุงกบิลพัสดุ์ของพระเจ้าสุทโธนะ เป็นดังนี้ครับ
แต่ก่อนอื่น ดูหลักความจริงกันก่อน เรื่องชนเผ่าพันธุ์ทั้งหกเผ่าในสมัยอินเดียโบราณก่อนนะครับ ว่ามีอะไรกันบ้างครับ?
ในอินเดียสมัยโบราณมีการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่หกเผ่าพันธุ์สำคัญๆดังนี้ครับ
1)เผ่ามองโกลลอยด์ ซึ่งเป็นเผ่าพื้นเมืองท้องถิ่นที่มาอยู่ก่อนนานแล้ว
เผ่ามองโกล กับ เผ่านิโกร อพยพเข้ามายังอินเดียก่อนใครๆ ทั้งสองเผ่าผสมพันธุ์กันขึ้นเกิดเป็นเผ่า โปรโต-ออสตราลอยด์ ซึ่งเป็นเผ่าพื้นเมืองของอินเดียก่อนพุทธกาลอันเรียกว่า “มิลักขะ”
ส่วนนิโกรแท้นั้นมีจำนวนน้อย อาศัยอยู่ตามป่าเขา สมัยพุทธกาลเรียกพวกนี้ว่า “นาค” พวกนาคนี้กระจายมาถึงแหลมมลายูและตามเกาะแก่งต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
เห็นไหมครับว่า พวก"นาค"เริ่มที่จะติดตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรามาแล้ว ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ใด ก็ตามตั้งแต่เริ่มมีพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นเลยทีเดียว พวกนาคที่รักและศรัทธาในพระพุทธศาสนาและพระพุทธเจ้าของเรานั้น เดิมพื้นเพจิตใจของพวกเขานั้น เป็นธาตุร้อน
เมื่อหันมาเคารพและศรัทธาศาสนาของเรา ซึ่งเหมือนดั่ง"ไฟเย็น"แล้ว จึงพากันไปอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำลึก เกาะแก่งต่างๆ รอบๆรึใกล้เคียงสถานที่พระพุทธเจ้าดำเนินไปรึนิวาสสถานอาศัย ทั้งมีจุดประสงค์ที่จะคอยคุ้มครองภัยและอุปัฐฐากองค์สมณโคดมของเราด้วย แหล่งน้ำลึกและตามเกาะแก่งต่างๆ ยังเหมาะสมสำหรับการทำวิปัสสนา เพราะมีความสงบเงียบ แลปลอดจากสายตาผู้คนที่จะมารบกวนดีนัก เพื่อจะถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าสมณโคดมของเรา
พญานาคฝ่ายพุทธเถรวาทแบบดั้งเดิม
ส่วนชนเชื้อชาติมงโกลบริสุทธิ์ อาศัยหลักแหล่งอยู่เชิงเขาหิมาลัย อยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน พวกมงโกลไม่นิยมแต่งงานกับชาติอื่นนอกจากพวกเดียวกัน พวกนี้เป็นนักรบเร่ร่อนมาก่อน ปกครองกันเองแบบประชาธิปไตย ทุกคนทัดเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ มีสภาและมีการประชุมหารือเลือกหัวหน้าขึ้นปกครอง
2) เผ่ามิลักขะ เป็นเผ่าผสมระหว่างนิโกรกับมองโกล และคนพื้นเมืองอื่นๆ ในอินเดีย นักวิชาการเรียก พวกผสมพันธุ์ดังกล่าวว่าพวกโปรโต-*ออสตราลอยด์ ผิวดำ หัวหยิก อยู่กระจายทั่วไปในอินเดีย
3) เผ่าทัสยุ (ฑราวิฑ) คือพวกที่อพยพมาจากริมทะเลสาบแคสเปี้ยน แต่มาอยู่อิหร่านเสียนาน พอมีกำลังเป็นปึกแผ่นแล้วก็รุกเข้ามาอินเดีย นักวิชาการเรียกพวกนี้ว่า**ฑราวิเฑียน (ดราวิเดียน) แต่พวกเปอร์เซียเรียกพวกนี้ว่า “ทหะ” หรือ “ทหยุ” ต่อมาเมื่อพวกอารยันเข้ามายังอินเดียได้ปราบปรามพวกนี้อยู่ในอำนาจจนนำมาใช้เป็นทาส จึงหมิ่นประมาทพวกนี้ว่าพวกทาส หรือทัสยุ พวกนี้ผิวดำแดง รูปร่างได้สัดส่วน คล้ายคลึงกับพวกมิลักขะ พวกอารยันดูไม่ออกว่าพวกไหนเป็นพวกไหน
เลยเหมาเอาว่าเป็นพวกเดียวกัน ความจริงพวกฑราวิเฑียนหรือทัสยุนี้มีอารยธรรมสูงกว่าพวกอารยันด้วยซ้ำ ดังหลักฐานโบราณคดีที่ขุดพบคือ เมืองโบราณที่ “โมเหนโจดาโร” แขวงเมืองลัคเนา และที่ “ฮารัปปา” แขวงเมืองมอนต์โกเมอรี แคว้นปัญจาบ มีความเก่าแก่ระยะเดียวกับไอยคุปต์โบราณ
4) เผ่าอารยัน ผิวขาว ร่างสูงใหญ่ นักวิชาการเรียกว่าพวกนอร์ดิก พูดภาษาอินโด-อารยัน อพยพมาจากทิศตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่เข้ามาอยู่หลังพวกมองโกลและทัสยุ รุกเข้ามาครอบครองมีอำนาจเหนือพวกมิลักขะและทัสยุ ส่วนพวกมองโกลที่อยู่ห่างไกลไปถึงหิมาลัย ภัยรุกรานของพวกอารยันจึงไปไม่ถึง ทั้งพวกมองโกลก็เป็นนักรบที่เก่งกล้าไม่แพ้อารยัน
ลัทธิความเชื่อถือดั้งเดิมของอารยันเชื่อว่ามีพระเจ้าสร้างโลก เชื่อวิญญาณล่องลอยจากคนตายได้ อย่างเดียวกับพวกไอยคุปต์โบราณ ต่างเพียงแต่ว่าพวกไอยคุปต์
เชื่อว่าสามารถรักษาร่างเดิมไว้มิให้เปื่อยเน่า วิญญาณจะหวนกลับเข้าร่างเดิมอีก แต่พวกอารยันเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ จึงสอนกันใหม่ว่า วิญญาณที่ล่องลอยไป เมื่อพบร่างใหม่ที่เหมาะสมจะเข้าสิงสู่ วิญญาณนี้เรียกว่า “ชีวะ” หรือ “อาตมัน” เป็นอมตะนิรันดร
5) เชื้อชาติกรีก เข้ามาหลังพุทธกาล (ประมาณ พ.ศ.213) อเล็กซานเดอร์มหาราช ตีอาณาจักรเปอร์เซียได้แล้วยกทัพข้ามฮินดูภูฏเข้ามาทางภาคเหนือของอินเดีย ยึดครองตักสิลาและแคว้นปัญจาบ เดินทัพเรื่อยมาจนถึงลุ่มแม่น้ำสินธุ ช่วงที่กรีกมีอำนาจเหนืออินเดีย
พระเจ้าเมนันเดอร์มหาราช ชนชาติกรีก ผู้หันมาน้อมรับพระพุทธศาสนา หลังจากได้ฟังพระธรรมจากนาคเสน
ได้นำความนิยมปั้นรูปเคารพมาเผยแพร่ด้วยจนเกิดการสร้างพระพุทธรูปในกาลต่อมา ลูกหลานกรีกสำคัญคนหนึ่งต่อมาได้นับถือพระพุทธศาสนา คือ พระเจ้าเมนานเดอร์ หรือมิลินท์
ได้โต้วาทะกับพระเถระนามว่านาคเสน รายละเอียดของการโต้วาทะระหว่างบุคคลทั้งสองมีบันทึกอยู่ในหนังสือชื่อ มิลินทปัญหา
6) ชนเชื้อชาติมุสลิม หมายถึงพวกที่นับถือศาสนาอิสลาม พวกนี้มาจากเปอร์เซีย ตุรกี อิรัก และอิหร่าน มุสลิมชื่อมูดหมัดโฆรีนำกองทัพมาตีอินเดียได้ตั้งวงศ์กษัตริย์มุสลิมปกครองอินเดียประมาณ พ.ศ.1735
มีผู้กล่าวว่าอาจเป็นไปได้ที่พระพุทธเจ้ามิใช่อารยัน
ศาสนาของพระพุทธเจ้าคัดค้านลัทธิความเชื่อดั้งเดิม ตลอดจนประเพณีพิธีกรรมบางอย่างของเผ่าของพระพุทธเจ้าก็แตกต่างจากของพวกอารยันในอินเดีย
จึงมีผู้เสนอว่าเผ่าศากยะของพระพุทธองค์น่าจะเป็นพวกมองโกล
ซึ่งในความคิดของผู้เขียน เกี่ยวกับท้าวสักกะ และ นครกบิลพัสดุ์ เป็นดั่งนี้ครับ
เมื่ออินเดียในสมัยโบราณนานมา มีชนเผ่าต่างๆเข้ามาอาศัยอยู่ในอินเดียหกเผ่าตามลำดับ 1-6 ดั่งนั้น ดังนั้น ถ้าหากใครไปอ่านเจอเขียนว่า ชนเผ่าในอินเดีย ปัจจุบันนี้ มันได้แยกออกเป็นสองเผ่าใหญ่ๆนะ คือ ชาวอารยัน กับชาวมิลักขะ ขอให้เข้าใจว่า ถูกนักประวัติศาสตร์ตะวันตกนั้นลวงแล้วนะครับ พวกเขาทำเช่นนั้น ก็เพราะต้องการจะให้พระพุทธเจ้าของเราเป็นแขกอารยันของเขา หรือชาวคอเคซอยด์จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลย
ความจริง ชนเผ่าต่างๆในอินเดียสมัยโบราณนานมามีถึงหกชนเผ่า และถ้าหากนับชาวนิโกร ที่อพยพเข้ามาจากแอฟริกาก่อนนั้นด้วยเป็นเผ่าแรกๆ ก็จะรวมเป็น 7 ชนเผ่าพอดี นักวิชาการตะวันตกเค้าคงปวดหัวมังครับ เลยจัดการรวบให้เหลือเพียงแค่2ชนเผ่าใหญ่ๆก็พอ คือ อารยัน กับ มิลักขะ อันเป็นชนพื้นเมืองเดิม ที่อาศัยอยู่ในอินเดียปัจจุบัน
ชาวพื้นเมืองเดิมของอินเดียที่ได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของดินแดนนี้ ก็คือ ชาวมงโกลลอยด์ ต่อมา เมื่อพวกนิโกรอพยพลงมาจากแอฟริกา ก็กลายเป็นพวกมิลักขะ เป็นชนเผ่าในข้อที่สอง เมื่อพวกนืโกรผสมกับชาวมองโกลลอยด์พื้นถิ่น หรือเรียกอีกอย่าง กลายเป็นเผ่าโปรโต-ออสตราลอยด์ ส่วนพวกนิโกรแท้ๆ ที่ไม่ได้ผสมกับชาวมองโกลใดๆเลย ก็ไปอาศัยอยู่ในป่า ต่อมา เรียกพวกนี้ว่า พวก"นาค"
น่าจะมีชาวอนันนูกิลงมาแล้วนะครับในเวลานี้ (จึงเริ่มเรียกพวกนิโกรที่ไม่ได้ผสมพันธุ์กับชาวมองโกลลอยด์พื้นถิ่นว่า พวกนาค)ชาวอนันนูกิ หรือก็ถือว่าเป็น ชาวอารยันพวกหนึ่งในปัจจุบัน ได้เริ่มก่อร่างสร้างศาสนาพราหมณ์-ฮินดูขึ้น ที่ทางบริเวณตกเฉียงเหนือของอินเดีย แถบลุ่มแม่น้ำสินธุ พระเจ้าโอกกาการาช ผู้สร้างนครกบิลพัสดุ์ จึงได้ประสูติขึ้นมาหลังจากที่
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเกิดขึ้นมาแล้วบนโลก ส่วนเวบเพจนี้นั้นที่ผู้เขียนไปพบเจอมา นั้นกล่าวว่า ชาวสักกะได้อพยพเข้ามาในอินเดียตั้งแต่ช่วงศตวรรษ 7-3 ก่อนคริสตศักราช
มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ??? ที่ชาวสักกะหรือชาวไซเธียนส์ของเวบเพจนี้นั้น จะอพยพเข้ามาในเวลาที่พระเจ้าจะทรงประสูติในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี เพียง 7-3ปีเท่านั้น เพียงแค่เวลาไม่เกิน7ปี จะมีศาสนาพุทธเกิดขึ้นมาเลยหรือ ???หลังจาก ชาวสักกะรึชาวไซเธียนส์ของเค้ามาที่อินเดียทางภาคเหนือ
เวบเพจนี้นั้น น่าจะเป็นอีกเวบหนึ่งในหลายๆเวบที่พยามแต่งว่า พระพุทธเจ้าของเรา มีเชื้อสายอารยัน (https://www.facebook.com/100063616686867/posts/pfbid02ZKCZyjrYB6uFyo2HWqFqvxm9utucaLH1uUtfExjyeHRiBDzTYXUa5UF6rf8UKgYUl/?app=fbl)
ที่เป็นชาวคอเคซอยด์หรือฝรั่งครับ เค้าชี้แจงว่า เป็นชาวอิหร่าน ชาวสักกะของเค้า คือชาวอิหร่าน เป็นมงโกลบริสุทธิ์เหมือนกันตามตำรา แต่ผู้เขียนพิจารณาแล้ว ชาวสักกะในตัวอักษรของเขา น่าจะเป็นชาวทัสยุหรือชาวดราวิเดียน ไม่ก็ชาวอารยันนอร์ดิกนะครับ อีกอย่างอพยพมาจากแถวๆทะเลดำด้วยแน่ะ มันไม่ใช่ชาวมองโกลบริสุทธิ์รึว่าชาวเอเชียพื้นถิ่นแน่
พระเจ้าโอกกากราช ปฐมกษัตริย์ของกรุงกบิลพัสดุ์ นั้นทรงมีตัวตนอยู่จริงหรือครับในประวัติศาสตร์???แล้วคำว่า"ชาวมองโกลบริสุทธิ์"นั้น คืออย่างไร ???
ก่อนอื่นคำว่า "ชาวมองโกลบริสุทธิ์ "น่าจะตีความว่า เป็นชาวมองโกลลอยด์พื้นถิ่นของอินเดียที่อยู่แถวนั้นมาก่อน ที่ได้แต่งงานสืบสกุลกับชาวมองโกลลอยด์พื้นถิ่นด้วยกัน ไม่ได้แต่งกับชาวนิโกรที่อพยพลงมาจากทวีปแอฟริกา จึงไม่ได้เป็นชาวมิลักขะ รึที่เรียกว่า ชาวโปรโต-ออสตราลอยด์
ชาวทิเบโต-มองโกลอยด์ ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มชาติพันธ์ชาวมงโกลบริสุทธิ์ เช่นกันกับชาวมองโกลพื้นถิ่น
จีงเรียกพวกนี้ว่า คือ ชาวมงโกลบริสุทธิ์ คือแต่งงานกับชาวมองโกลด้วยกันเองที่อยู่อินเดียแต่เดิมนานมา พวกนี้น่าจะเป็นคนละเผ่ากับชาวทิเบโต-มองโกลลอยด์นะครับ แต่ก็ได้ผสมผเสกันกับชาวมงโกลพื้นถิ่นที่ได้อาศัยอยู่ก่อน (และก็ได้เรียกเหมารวมกันว่า เป็นชาวมงโกลบริสุทธิ์) ซึ่งก็ได้อพยพลงมาอยู่ที่อินเดียเหมือนกับชาวนิโกร แต่ว่ามาจากทางฝั่งจีนรึมาจากฝั่งเอเชียตะวันออก ไม่ได้มาจากทางทิศเหนืออย่างชาวนิโกร และก็ได้มาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณ ณ เชิงเขาหิมาลัยเป็นสำคัญ
สรุปใจความง่ายๆตามตรรกะของชาวตะวันตกนั้น จาก8ชนเผ่า ก็จะเหลือเพียงแค่2ชนเผ่าใหญ่ๆในอินเดียเท่านั้นจริงๆครับ คือ ชนเผ่าตัวสูงใหญ่ มีหกชนเผ่า กับ ชนเผ่าตัวเล็ก มีสองชนเผ่า แต่ปัจจุบัน ก็ผสมผเสกันไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครตัวเล็ก ตัวใหญ่กว่ากัน ใครมาอินเดียก่อนหรือหลัง รวมชาวอังกฤษที่มาหลังสุดด้วยนะครับ
ต่อมาเราจะมาพิจารณาว่า "พระเจ้าโอกากากราช"ผู้ก่อตั้งกรุงกบิลพัสดุ์ เมืองหลวงของแขวงสักกะนั้น ทรงมีพระองค์จริงๆรึไม่ในประวัติศาสตร์เพื่อคลายความสงสัยให้กระจ่างไปเลยครับในบทความถัดไป
ขอขอบพระคุณข้อมูลอ้างอิง จาก
* ชาวโปรโต-ออสตราลอยด์ คือเผ่าพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างชาวมองโกลลอยด์พื้นถิ่นในอินเดีย กับพวกที่อพยพมาจากชาวตะวันตก อันได้แก่ ชาวแอฟริกัน ชาวบังคลาเทศ และชาวปากีสถาน เกิดเป็นพวกมิลักขะ รึว่าเผ่าพันธุ์ออสตราลอยด์เริ่มต้น ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพคล้ายๆกัน คือ หัวหยิก ผิวดำ ตัวเตี้ย จมูกใหญ่พวกออสตราลอยด์ในปัจจุบันนี้ ก็คือพวกที่อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะต่างๆ แหลมมลายู นิวกินี หมู่เกาะอินโดนีเซีย ในออสเตรเลีย เป็นต้น
** เรื่องมหากาพย์รามายณะของท่านวาลมิกิ ว่ากันว่าคือเรื่องราวของการขับไล่ชาวดราวิเดียน หรือชาวทัสยุ ของพวกอารยันที่ลงมาทีหลังให้ลงไปอาศัยอยู่ทางใต้ พวกพระรามคือ ชาวอารยัน ส่วนพวกยักษ์ คือชาวทัสยุ สงสัยว่า ท่านฤาษีวาลมิกิ คงจะเป็นชาวอารยัน นอร์ดิก ที่ลงมาอาศัยอยู่ภายหลังช่วงน้ำแข็งกำลังเริ่มจะละลาย และแต่งให้พรรคพวกตนนั้นคือพระเอก ส่วนชาวทัสยุ ที่ลงมาอินเดียก่อน คือ พวกอิหร่าน กลับเป็นฝ่ายผู้ร้ายไป
โฆษณา