5 ก.ค. เวลา 12:42 • ธุรกิจ

เปลี่ยนห้องพักให้กลายเป็นรายได้ประจำ – แนวคิด Subscription สำหรับโรงแรม

ใครสนใจอาจจะต้องลองนำแนวคิดนี้ไปศึกษาแต่และต่อยอดดูนะครับอันนี้เป็นแนวคิดที่เฮียก็ยังไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้จริงได้มากแค่ไหนแค่เห็นหลายวงการเค้ามี Subscriber Model วงการโรงแรมเราก็น่าจะมีบ้างก็เลยลองคิดดูครับ
ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความคุ้นเคยกับบริการรายเดือนหรือรายปีเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ ตั้งแต่การฟังเพลง ดูหนัง ไปจนถึงการใช้แอปฟิตเนสหรือสั่งอาหาร ด้วยโมเดล “Subscription” หรือการสมัครสมาชิก ผู้บริโภคยอมจ่ายล่วงหน้าเพื่อแลกกับความสะดวก ความคุ้มค่า และสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเอง
แล้วทำไม “โรงแรม” จะใช้โมเดลนี้ไม่ได้?
แนวคิดเบื้องต้น: Subscription Hotel Stays
แนวคิดนี้คือการให้ลูกค้าชำระเงินแบบ “รายเดือน” หรือ “รายปี” เพื่อเข้าพักในโรงแรมได้ตามจำนวนคืนที่กำหนด เช่น
• แพ็กเกจรายเดือน: จ่าย 8,000 บาท/เดือน พักได้ 4 คืนต่อเดือน
• แพ็กเกจรายปี: จ่าย 90,000 บาท/ปี พักได้ 50 คืน/ปี
ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์พักในช่วงเวลาที่ตนเองเลือก (ภายใต้เงื่อนไข blackout date หรือการจองล่วงหน้าตามระบบของโรงแรม)
ข้อดีของโมเดลนี้
✅ สำหรับโรงแรม
1. สร้างกระแสเงินสดล่วงหน้า (Cash Flow)
ลูกค้าจ่ายก่อน โรงแรมมีรายได้มั่นคง ไม่ต้องรอลูกค้า walk-in หรือ peak season
2. เพิ่มอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate)
ช่วยเติมห้องว่างในวันธรรมดาหรือช่วง low season ได้ดี
3. สร้างความภักดีในระยะยาว (Customer Loyalty)
ลูกค้าที่จ่ายล่วงหน้า มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการซ้ำ และอาจซื้อ add-on เพิ่ม เช่น อาหารเช้า สปา หรือ late checkout
✅ สำหรับลูกค้า
• ราคาต่อคืนถูกลงมากกว่าจองรายครั้ง
• ยืดหยุ่น เลือกวันเข้าพักได้
• เหมาะสำหรับคนเดินทางบ่อย ธุรกิจ พักผ่อน หรือ workcation
วิธีเริ่มต้นทำระบบ Subscription
1. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
• นักธุรกิจเดินทางบ่อย
• Freelancers หรือคนทำงาน remote
• ลูกค้าองค์กรที่ต้องส่งพนักงานมาพักเป็นประจำ
2. กำหนดแพ็กเกจ
• เริ่มจาก 2–3 แพ็กเกจที่เข้าใจง่าย
• มีทั้งแบบ Room only และรวมบริการ (เช่น อาหารเช้า)
3. ออกแบบเงื่อนไขการใช้งาน
• จำกัดจำนวนคืนที่ใช้ได้ต่อเดือน/ปี
• จองล่วงหน้าอย่างน้อยกี่วัน
• Blackout periods หรือช่วง high season ที่ใช้ไม่ได้
4. ตั้งระบบจองและติดตามสิทธิ์
• ใช้ระบบ PMS หรือ CRM ที่สามารถ track การใช้สิทธิ์ได้
• มี portal ให้ลูกค้าเช็กจำนวนคืนที่เหลือได้ง่าย
5. วางแผนการตลาด
• โปรโมตผ่าน social media, EDM และพนักงานขาย
• ใช้แนวคิด “จ่ายครั้งเดียว คุ้มทั้งปี” หรือ “มีห้องว่างเสมอสำหรับคุณ”
ความท้าทายและแนวทางแก้ไข
- ลูกค้าแห่มาใช้สิทธิ์ช่วงเทศกาล
วิธีแก้ไข = กำหนด blackout periods และบังคับให้จองล่วงหน้า
- บางเดือนลูกค้าไม่มาใช้สิทธิ์
วิธีแก้ไข = กำหนดนโยบายสิทธิ์ไม่ทบเดือนต่อเดือนเพื่อป้องกันการ overbooking
- ลูกค้าสับสนเงื่อนไข
วิธีแก้ไข = ใช้ infographics และสื่ออธิบายให้ชัดเจน เข้าใจง่าย มีการ Training พนักงานให้มีความแม่นยำในข้อมูลสามารถแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ทันที
- ระบบจองไม่รองรับการนับคืน
วิธีแก้ไข = พิจารณาใช้ CRM หรือระบบ third-party ที่ออกแบบเพื่อ subscription โดยเฉพาะ
การนำโมเดล Subscription มาใช้กับโรงแรมไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป มันคือโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ที่มั่นคง พร้อมสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าในยุคที่พฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
โรงแรมที่เริ่มต้นก่อน ย่อมได้เปรียบทั้งด้านการตลาดและความภักดีจากลูกค้า
สิ่งที่สำคัญคือการออกแบบแพ็กเกจให้ “เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย และรู้สึกว่าคุ้ม” สำหรับทั้งสองฝ่าย
เพราะในยุคนี้ เราไม่ได้ขายแค่ “ห้องพัก” อีกต่อไป แต่เราขาย “การกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า” ของลูกค้า
โฆษณา