6 ก.ค. เวลา 08:29 • การศึกษา
Network By Shoper Gamer

Data Flow คืออะไร

โดย
ในโลกที่ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อถึงกัน Data Flow หรือ "การไหลของข้อมูล" ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารในระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล สตรีมวิดีโอ หรือ แม้แต่การควบคุมอุปกรณ์ IoT การเข้าใจหลักการไหลของข้อมูลจะช่วยให้คุณออกแบบ และ แก้ไขปัญหาเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ​Data Flow คืออะไร
Data Flow หมายถึง ทิศทางการเคลื่อนที่ของข้อมูล ระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่าย ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักตามทิศทางการสื่อสาร
1. Simplex : การสื่อสารทางเดียว
2. Half-Duplex : การสื่อสารสองทางแต่ไม่พร้อมกัน
3. Full-Duplex : การสื่อสารสองทางพร้อมกัน
☆ เปรียบเทียบง่ายๆ
- Simplex = วิทยุกระจายเสียง (ส่งได้อย่างเดียว)
- Half-Duplex = วิทยุสื่อสาร (ผลัดกันพูด)
- Full-Duplex = โทรศัพท์ (พูดและฟังพร้อมกัน)
  • ​Data Flow ทำงานอย่างไร
☆ 1. Simplex
○ ลักษณะ : ข้อมูลไหลทางเดียวเท่านั้น
○ ตัวอย่างอุปกรณ์ :
- ระบบกระจายเสียง (TV, วิทยุ)
- เครื่องพิมพ์ (Printer)
- กล้องวงจรปิด
☆ 2. Half-Duplex
○ ลักษณะ : ส่งและรับได้ แต่ไม่พร้อมกัน
○ ตัวอย่างอุปกรณ์
- วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)
- อุปกรณ์ IoT บางประเภท
- ระบบเครือข่ายแบบเก่า (Hub)
☆ 3. Full-Duplex
○ ลักษณะ : ส่ง และ รับข้อมูลพร้อมกันได้
○ ตัวอย่างอุปกรณ์
- โทรศัพท์มือถือ
- สวิตช์เครือข่าย (Switch)
- การสนทนาวิดีโอคอล
  • ​เปรียบเทียบ
☆ 1. Simplex (การสื่อสารทางเดียว)
○ ทิศทาง : ข้อมูลไหลทางเดียวเท่านั้น (ผู้ส่ง→ผู้รับ)
○ ความเร็ว : ต่ำ
○ ข้อดี
- การออกแบบ และ การใช้งานง่าย
- ต้นทุนต่ำ
○ ข้อเสีย
- ไม่สามารถตอบสนอง หรือ ส่งข้อมูลกลับได้
○ ตัวอย่างการใช้งาน
- ระบบกระจายเสียง (วิทยุ, โทรทัศน์)
- เครื่องพิมพ์
- กล้องวงจรปิด
☆ 2. Half-Duplex (การสื่อสารสองทางแบบผลัดกัน)
○ ทิศทาง : ส่งและรับข้อมูลได้ แต่ไม่พร้อมกัน (ผลัดกันส่ง)
○ ความเร็ว : ปานกลาง
○ ข้อดี
- ประหยัดช่องสัญญาณ
- เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการการตอบสนองแบบไม่เร่งด่วน
○ ข้อเสีย
- ความเร็วไม่เต็มประสิทธิภาพ
- เกิดการชนกันของข้อมูล (Collision) ได้
○ ตัวอย่างการใช้งาน
- วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)
- เครือข่ายแบบ Bus Topology
- อุปกรณ์ IoT บางประเภท
☆ 3. Full-Duplex (การสื่อสารสองทางพร้อมกัน)
○ ทิศทาง : ส่ง และ รับข้อมูลพร้อมกันได้ (ผู้ส่ง↔ผู้รับ)
○ ความเร็ว : สูง
○ ข้อดี
- ประสิทธิภาพสูง
- เหมาะสำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์
- ลดปัญหาการชนกันของข้อมูล
○ ข้อเสีย
- ต้องการช่องสัญญาณมากขึ้น
- ต้นทุนสูงกว่า
○ ตัวอย่างการใช้งาน
- การสนทนาทางโทรศัพท์
- การประชุมวิดีโอคอล
- เครือข่าย Ethernet สมัยใหม่
  • ​ประโยชน์
✅ ออกแบบเครือข่ายเหมาะสมกับงานแต่ละประเภท
✅ เลือกอุปกรณ์เครือข่ายได้ถูกต้อง
✅ แก้ไขปัญหาการสื่อสารในเครือข่าย
✅ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแบนด์วิธ
✅ ป้องกันความขัดแย้งของข้อมูล (Collision)
  • ​ตัวอย่างการใช้งาน
☆ 1. ระบบ Simplex
○ การกระจายเสียงสาธารณะ (PA System)
○ เครื่องพิมพ์ในออฟฟิศ (ส่งงานพิมพ์ได้อย่างเดียว)
○ สัญญาณไฟจราจร
☆ 2. ระบบ Half-Duplex
○ ระบบวิทยุสื่อสารของตำรวจ
○ เครือข่ายแบบ Bus Topology
○ อุปกรณ์ควบคุม IoT แบบพื้นฐาน
1
☆ 3. ระบบ Full-Duplex
○ การสนทนาทางโทรศัพท์
○ การประชุมวิดีโอคอล
○ เครือข่าย Ethernet สมัยใหม่
  • ​เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
1. CSMA/CD : ใช้ในเครือข่าย Half-Duplex แบบเก่า
2. Switch Technology : รองรับ Full-Duplex โดยธรรมชาติ
3. 5G NR : รองรับ Full-Duplex แบบจริงจัง
✏️ Shoper Gamer
  • ​IoT คืออะไร 👇
  • ​Hubs คืออะไร 👇
  • ​Switch คืออะไร 👇
Credit :
👇
  • ​https://teachcomputerscience.com/simplex-half-duplex-full-duplex/
  • ​https://il.mahidol.ac.th/e-media/computer/network/net_datacom4.htm
  • ​https://www.techtarget.com/searchnetworking/definition/full-duplex
  • ​https://www.sounddd.shop/full-duplex-communication
  • ​https://www.qsfptek.com/qt-news/half-duplex-vs-full-duplex-vs-simplex-transmission-mode.html

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา