15 ก.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🤖 AI ไม่เข้าใจ Gen Alpha | เมื่อศัพท์แสลงและมีม กลายเป็น "รหัสลับ" ซ่อนการบูลลี่

คุณเข้าใจศัพท์ที่ลูกหลานหรือน้องๆ ของคุณใช้บนอินเทอร์เน็ตมากแค่ไหนครับ?
ภาษาของเด็ก Gen Alpha (เกิดปี 2010-2025) กำลังเปลี่ยนแปลงและกลายพันธุ์เร็วจนน่าตกใจ... และความ "ตามไม่ทัน" นี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของช่องว่างระหว่างวัย แต่มันกำลังกลายเป็น "ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย" ที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่ระบบ AI ที่ฉลาดที่สุดก็ยังไม่เข้าใจว่าเมื่อไหร่ที่เด็กๆ กำลังถูกบูลลี่หรือล่อลวง
🗣️ ภาษาที่กลายพันธุ์เร็วกว่า AI
ศัพท์แสงบนอินเทอร์เน็ตของ Gen Alpha กำลังกลายพันธุ์เร็วกว่าที่ครู, ผู้ปกครอง, และแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะตามทัน – ซึ่งอาจทำให้เยาวชนต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้ง (bullying) และการล่อลวง (grooming) ที่ผู้ใหญ่ที่ไว้ใจและระบบความปลอดภัยที่ใช้ AI ไม่สามารถมองเห็นได้
มานิชา เมห์ตา (Manisha Mehta) นักเรียนอายุ 14 ปีจาก Warren E. Hyde Middle School ในเมืองคูเปอร์ติโน แคลิฟอร์เนีย และ เฟาสโต จิอุนกีเกลีย (Fausto Giunchiglia) ที่ University of Trento ประเทศอิตาลี ได้รวบรวมสำนวนและวลี 100 คำที่ได้รับความนิยมในหมู่ Generation Alpha จากเกม, โซเชียลมีเดีย, และแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยม
"ฉันรู้สึกทึ่งกับภาษาของ Gen Alpha มาโดยตลอด เพราะมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก วิธีที่สิ่งต่างๆ กลายเป็นที่นิยมและหมดความนิยมไปอย่างรวดเร็ว มันรวดเร็วมาก" เมห์ตากล่าว
🧪 การทดลองวัดความเข้าใจ
ทั้งคู่ได้ขอให้อาสาสมัคร 24 คนที่มีอายุระหว่าง 11 ถึง 14 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเมห์ตา มาวิเคราะห์วลีเหล่านั้นพร้อมกับภาพหน้าจอที่แสดงบริบทเฉพาะ พวกเขาต้องอธิบายว่าเข้าใจวลีนั้นหรือไม่, มันถูกใช้ในบริบทใด, และการใช้งานนั้นมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือการตีความที่เป็นอันตรายแฝงอยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังได้สอบถามผู้ปกครอง, ผู้ดูแลเนื้อหามืออาชีพ (professional moderators), และแบบจำลอง AI สี่ตัว – GPT-4, Claude, Gemini และ Llama 3 ด้วย
🧠 ช่องว่างแห่งความเข้าใจที่น่าตกใจ
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าตกใจอย่างยิ่งครับ:
• กลุ่ม Gen Alpha: 98% เข้าใจความหมายพื้นฐานของคำ, 96% เข้าใจบริบทที่ใช้, และ 92% สามารถตรวจจับได้เมื่อคำเหล่านั้นถูกนำไปใช้เพื่อก่อให้เกิดอันตราย
• กลุ่มแบบจำลอง AI: สามารถรับรู้การใช้งานที่เป็นอันตรายได้เพียง ประมาณ 4 ใน 10 กรณี เท่านั้น – โดยมีตั้งแต่ 32.5% สำหรับ Llama 3 ไปจนถึง 42.3% สำหรับ Claude
• กลุ่มผู้ปกครองและผู้ดูแลมืออาชีพ: มีผลงานที่ "ไม่ได้ดีไปกว่ากัน" โดยตรวจจับการใช้งานที่เป็นอันตรายได้เพียงประมาณ หนึ่งในสาม เท่านั้น
"ฉันคาดหวังความเข้าใจที่มากกว่าที่เราพบเล็กน้อย" เมห์ตากล่าว "สำหรับฝั่งผู้ปกครอง ส่วนใหญ่มันเป็นเพียงการเดาสุ่ม"
🕵️‍♂️ รหัสลับซ่อนความหมายแฝง
วลีที่ใช้กันโดยทั่วไปในหมู่ Gen Alpha รวมถึงคำบางคำที่มีความหมายสองแง่สองง่ามขึ้นอยู่กับบริบท
• "Let him cook" (ปล่อยให้เขาทำไป): อาจเป็นคำชมอย่างจริงใจในสตรีมเกม – หรืออาจเป็นการเยาะเย้ยถากถางที่สื่อว่าใครบางคนกำลังพูดเรื่องไร้สาระ
• "Kys": ครั้งหนึ่งเคยเป็นคำย่อของ "know yourself" (รู้จักตัวเอง) แต่ตอนนี้สำหรับบางคนมันอ่านว่า "kill yourself" (ไปตายซะ)
• "is it acoustic" (เป็นอคูสติกเหรอ): เป็นวลีที่อาจซ่อนเจตนาที่ไม่เหมาะสม โดยใช้เพื่อถามเยาะเย้ยว่าใครบางคนเป็นออทิสติก (autistic) หรือไม่
"ฉันคิดว่ามันสำคัญอย่างยิ่งที่ LLMs (แบบจำลองภาษาขนาดใหญ่) จะสามารถเข้าใจสิ่งที่กำลังถูกพูดเป็นอย่างน้อย เพราะ AI กำลังจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในแวดวงการดูแลเนื้อหา" เมห์ตากล่าว
"มันชัดเจนมากว่า LLMs กำลังเปลี่ยนแปลงโลก" จิอุนกีเกลียกล่าว "นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของกระบวนทัศน์ ผมคิดว่ามีคำถามพื้นฐานที่จำเป็นต้องถูกหยิบยกขึ้นมา"
"ในเชิงประจักษ์ งานวิจัยนี้บ่งชี้ถึงสิ่งที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นข้อบกพร่องขนาดใหญ่ในระบบการดูแลเนื้อหา สำหรับการวิเคราะห์และปกป้องคนหนุ่มสาวโดยเฉพาะ" ไมเคิล วีล (Michael Veale) ที่ University College London กล่าว "บริษัทและหน่วยงานกำกับดูแลน่าจะต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดและตอบสนองต่อเรื่องนี้ เพื่อให้ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายได้ในเขตอำนาจศาลจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มีกฎหมายแพลตฟอร์มที่มุ่งปกป้องคนหนุ่มสาว"
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในต่างประเทศครับ ในสังคมไทยเองก็มี "ศัพท์แสง" และ "มีม" เฉพาะกลุ่มของเด็กๆ ที่เกิดขึ้นใหม่และหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน... ซึ่งผู้ใหญ่และระบบคัดกรองเนื้อหาในประเทศก็อาจตามไม่ทัน
การศึกษานี้จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้ผู้ปกครอง, คุณครู, และผู้พัฒนาเทคโนโลยีในไทยต้องตระหนักถึงความสำคัญของการ "พยายามทำความเข้าใจ" โลกออนไลน์ของเด็กๆ มากขึ้น เพื่อสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การปิดกั้นด้วยฟิลเตอร์ที่ไม่เข้าใจความหมายแฝง
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ช่องว่างทางภาษา: งานวิจัยเผยว่า AI, ผู้ปกครอง, และผู้ดูแลเนื้อหา ไม่สามารถตามทันศัพท์แสลงและมีมของเด็ก Gen Alpha ได้
✅ AI สอบตก: แบบจำลอง AI ที่ล้ำสมัยที่สุดสามารถตรวจจับการใช้คำพูดในทางที่เป็นอันตรายได้เพียงประมาณ 4 ใน 10 กรณี
✅ ผู้ใหญ่ก็ไม่ต่าง: ผู้ปกครองและผู้ดูแลมืออาชีพก็มีความสามารถในการตรวจจับได้ต่ำพอๆ กัน คือประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น
✅ รหัสลับซ่อนการบูลลี่: วลีและศัพท์แสลงจำนวนมากมีความหมายสองแง่สองง่ามที่สามารถใช้เพื่อกลั่นแกล้งหรือล่อลวงได้โดยที่ระบบตรวจจับไม่เจอ
✅ ความปลอดภัยที่ต้องทบทวน: การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นถึง "ข้อบกพร่องใหญ่" ในระบบความปลอดภัยออนไลน์ และเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีและผู้กำกับดูแลต้องให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
เรื่องนี้ทำให้คุณกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยออนไลน์ของเด็กรุ่นใหม่มากขึ้นไหมครับ? แล้วคุณคิดว่าระหว่าง "การพัฒนา AI ให้ฉลาดขึ้น" กับ "การสร้างความเข้าใจระหว่างวัย" อะไรคือทางออกที่ยั่งยืนกว่ากัน?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🗣️ อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้คนรอบข้างได้ตระหนักถึงปัญหานี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Mehta, M., & Giunchiglia, F. (2025). Understanding Gen Alpha's Digital Language: Evaluation of LLM Safety Systems for Content Moderation. FAccT ’25. http://doi.org/ps5f
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ภาษาคือ "รหัส" ที่ซับซ้อนซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การจะเข้าใจมันได้ต้องอาศัยทั้งความรู้, บริบท, และความใส่ใจ...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักถอดรหัส" ที่จะเจาะลึกไปเบื้องหลังภาษาของวิทยาศาสตร์ แล้วแปลมันออกมาเป็นเรื่องราวที่ทุกคนเข้าใจ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถทำภารกิจ "ถอดรหัส" ความรู้ที่ซับซ้อนนี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา