🇨🇳 จีนหนุนปากีฯ ใน “ปฏิบัติการสินธุ์”? โฆษกจีนยันเป็น “ความร่วมมือปกติ” แต่อินเดียแฉอีกมุม
Did China Help Pakistan During Op Sindoor? Beijing Cites ‘Normal’ Defence Ties, Adds Caveat
📰 ความเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนภูมิภาคเอเชียใต้ และอาจสะเทือนถึงอาเซียน—หลังจากที่อินเดียเปิดเผยว่าจีนส่งข้อมูล "เส้นทางการเคลื่อนไหวสำคัญของกองทัพอินเดียแบบเรียลไทม์" ให้ปากีสถานระหว่างปฏิบัติการ “Op Sindoor” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา จีนออกมาโต้ว่าเป็น “ความร่วมมือด้านกลาโหมปกติ” กับเพื่อนบ้านอย่างปากีสถาน และไม่ได้พุ่งเป้าต่อบุคคลที่ 3
💬 คำชี้แจงจาก “เหมาหนิง” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า “จีนและปากีสถานเป็นเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดี การร่วมมือด้านความมั่นคงเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มุ่งโจมตีใคร”
✍️ แต่การที่นายพลระดับสูงของอินเดีย ออกมาเปิดโปงว่าจีน “ทดลองอาวุธบนแผ่นดินปากีสถาน โดยใช้สถานการณ์จริงระหว่างข้อพิพาท” ทำให้ประเด็นนี้ร้อนแรงขึ้นทันที และจุดกระแสความไม่ไว้วางใจต่อบทบาทของจีนในภูมิภาค
🧭 ประเด็นที่ไทยไม่ควรมองข้าม: เอเชียใต้กลายเป็นสมรภูมิทดสอบเทคโนโลยี?
📌 หากคำกล่าวของอินเดียเป็นจริง การที่จีนใช้ปากีสถานเป็นห้องทดลองทางการทหาร อาจหมายความว่า “อาวุธ ระบบ AI และอัลกอริธึมข่าวกรอง” กำลังถูกทดสอบในสนามจริง ซึ่งนั่นอาจส่งผลระยะยาวต่อสมดุลทางเทคโนโลยีในภูมิภาค
🔍 ประเทศไทยเองควรตระหนักว่าหากภูมิภาคเอเชียใต้กลายเป็นพื้นที่ทดสอบระบบสงครามไฮบริด (Hybrid Warfare) นั่นหมายถึงการเร่งพัฒนาและลงทุนในระบบข่าวกรองและความมั่นคงของตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ภัยไซเบอร์อาจรุนแรงไม่แพ้อาวุธปืน
📉 ผลกระทบต่อหุ้นไทย: ความมั่นคง-เทคโนโลยี-โลจิสติกส์มาแรง!
หากแนวโน้มความตึงเครียดขยายวง และจีน-อินเดีย-ปากีสถาน ใช้เทคโนโลยีทางการทหารระดับสูงเพื่อสร้างอิทธิพลในภูมิภาค สิ่งที่จะตามมาในไทยคือ...
🔴 หุ้นในกลุ่มความมั่นคงและระบบเครือข่ายข่าวกรองอาจได้รับความสนใจมากขึ้น เช่น
✨ INSET (อินฟราเซท) – ธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งอาจมีบทบาทในงานโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงและระบบข้อมูลระดับชาติ
✨ PROEN (โปรเอ็น คอร์ป) – มีความเชี่ยวชาญด้านโครงข่ายและบริการ IT ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในยุคที่ความมั่นคงไซเบอร์กลายเป็นแกนหลัก
✨ SIS (เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น) – ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ IT และ Cybersecurity อาจเป็นจุดรับแรงซื้อจากภาครัฐหรือธุรกิจที่ต้องเร่งปรับระบบ
🟠 กลุ่มโลจิสติกส์อาจมีความเสี่ยงจากเส้นทางการค้าที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ เช่น
✨ SJWD (เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์) – มีเครือข่ายในเอเชีย หากการค้าผ่านอินเดีย-จีนสะดุด ไทยอาจต้องเป็นจุดพักสินค้าแทน
✨ PSL (พรีเชียส ชิพปิ้ง) – เดินเรือพาณิชย์ หากเส้นทางผ่านมหาสมุทรอินเดียตึงเครียด อาจมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง
🟢 กลุ่มอุตสาหกรรมด้านชิ้นส่วน-ความมั่นคง อาจถูกหยิบมาเป็นทางเลือกใหม่ เช่น
✨ TRC (ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น) – มีประสบการณ์ด้านวางระบบใต้ดิน ท่อส่ง และนิคมอุตสาหกรรม
✨ STECON (สเตคอน กรุ๊ป) – หากรัฐเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคง บริษัทที่มีทีมงานใหญ่และงานระบบครบวงจรอาจมีโอกาสมากขึ้น
🌐 มิติด้านภูมิรัฐศาสตร์: จีน “ไม่ยืนตรงกลาง” อย่างที่พูด?
แม้ "เหมาหนิง" จะพยายามเน้นความเป็นกลาง แต่ถ้าการแชร์ข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ให้กับปากีสถานเกิดขึ้นจริง จีนอาจถูกมองว่าเป็น “ผู้เล่นในเงา” ที่ไม่เพียงแต่ส่งอาวุธ แต่ยังควบคุมข้อมูลความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งอาจยิ่งเร่งให้เกิดการแข่งขันทางเทคโนโลยีข่าวกรองทั่วเอเชีย
💡 ในมุมของไทย นี่อาจกลายเป็นโอกาสในการยกระดับ “สถาบันความมั่นคงระดับภูมิภาค” หรือก้าวเข้าสู่บทบาท “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับการเจรจาในอนาคต
🤔 คุณคิดอย่างไรกับบทบาทของจีนในเหตุการณ์นี้?
หากจีนกำลังใช้สงครามเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพล คุณมองว่าไทยควรเดินเกมอย่างไร?
📣 ร่วมแสดงความเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองในทุกมิติ — การเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและตลาดหุ้น
👇 แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์นี้เลยนะคะ!
📌 Hashtags:
#GlobalIgnitions #จุดปะทุโลก #สงครามข่าวกรอง #จีนปากีสถาน #อินเดีย #OperationSindoor #ภูมิรัฐศาสตร์เอเชียใต้ #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์หุ้น #StockImpact #SET #mai #ChinaPakistanTies #ข่าววิเคราะห์เจาะลึก #StockAtlas
🗞️ Reference: News18
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
