📰 ทรัมป์กลับลำ! สหรัฐฯ กลับมาส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง หลังหยุดไปชั่วคราว
🇺🇸 Trump Reverses Course: U.S. Resumes Weapons Shipments to Ukraine Amid Escalating Russian Strikes
📍 เรื่องราวเริ่มต้นจากความเงียบ แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงระเบิด
หลังการโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีปูตินเมื่อ 3 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามยูเครน เมื่อรัสเซียเปิดฉากโจมตีทางอากาศที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 ด้วยการส่งโดรนกว่า 500 ลำและขีปนาวุธ 11 ลูกเข้าถล่มยูเครน
📌 ผลลัพธ์: ทำเนียบขาวต้องกลับลำ — หลังจากเพิ่งตัดสินใจ “หยุดส่งอาวุธ” เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
🛡️ ทรัมป์ประกาศพร้อมหนุนยูเครน
“ยูเครนต้องสามารถป้องกันตัวเองได้” ทรัมป์กล่าวอย่างชัดเจน พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ จะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศกลับไปทันที รวมถึงขีปนาวุธ Patriot, Hellfire และกระสุน Howitzer ซึ่งเคยถูกชะลอไว้
🇺🇦 ยูเครนเปิดสายตรง: โทร.หาทรัมป์ – ได้ผลทันตา
ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยว่า การพูดคุยกับทรัมป์ในวันที่ 4 ก.ค. 2025 เป็น "บทสนทนาที่ดีที่สุด" ตั้งแต่สงครามเริ่มต้น พร้อมขอบคุณสำหรับ “ความเต็มใจที่จะช่วยเหลือ”
📍 การเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่แค่การส่งอาวุธ แต่เป็นการ “ส่งสัญญาณ” ไปยังรัสเซีย ว่า สหรัฐฯ ยังพร้อมปกป้องแนวร่วม และยังคงมีบทบาทบนเวทีโลก
🔎 📈 ผลกระทบเชิงสร้างสรรค์: เมื่อภูมิรัฐศาสตร์กำหนดอนาคตเศรษฐกิจโลก
การกลับมาสนับสนุนอาวุธในครั้งนี้ ส่งผลกระทบหลายทาง:
🌐 ความมั่นคงทางทหารของยุโรปตะวันออกได้รับแรงเสริม
⚡ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น พลังงาน โลหะหนัก) มีแนวโน้มผันผวนอีกระลอก
💵 ทุนไหลกลับไปยังประเทศที่มีบทบาทด้านการผลิตอาวุธและเทคโนโลยีกลาโหม
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย: ความท้าทายใหม่บนสนามหุ้นและเศรษฐกิจ
แม้ไทยจะอยู่ห่างไกลจากสนามรบ แต่ผลกระทบแบบ Ripple Effect มีแนวโน้มกระทบหลายอุตสาหกรรม:
📦 ภาคส่งออกโลหะและเคมีภัณฑ์มีความผันผวนสูงขึ้น
🛢️ ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มดีดตัว หากรัสเซียลดการส่งออก
💻 ความต้องการชิปและอิเล็กทรอนิกส์ป้องกันภัยมีแนวโน้มเติบโตในภูมิภาค
💥 📊 หุ้นไทยที่ได้รับผลกระทบ: ทั้งทางตรงและทางอ้อม
🔹 SVI (เอสวีไอ – ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก)
💡 มีโอกาสได้รับออเดอร์เพิ่มจากการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางทหาร โดยเฉพาะระบบอิเล็กทรอนิกส์และสื่อสาร
🔹 HANA (ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส – เซมิคอนดักเตอร์)
⚙️ หากความต้องการชิปเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเทคโนโลยีทางการทหารและโดรน บริษัทในไทยที่มีฐานการผลิตอาจได้รับประโยชน์ทางอ้อม
🔹 RBF (อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย – ผลิตวัตถุดิบอาหาร)
🍱 ผลจากสงครามอาจเพิ่มความต้องการอาหารพร้อมบริโภคในประเทศพันธมิตร RBF อาจขยายตลาดต่างประเทศได้
🔹 SAK (ศักดิ์สยามลิสซิ่ง – ให้สินเชื่อรายย่อย)
📉 หากความผันผวนเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าอาจได้รับผลกระทบ
🔹 DOHOME (ดูโฮม – ค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง)
🏗️ หากราคาวัตถุดิบผันผวน อาจต้องปรับแผนบริหารสต๊อกโดยด่วน โดยเฉพาะวัสดุที่นำเข้าจากประเทศในกลุ่มเสี่ยง
🔹 AQUA (อควา คอร์เปอเรชั่น – ธุรกิจป้ายโฆษณาและถือหุ้นในบริการสื่อ-โลจิสติกส์)
📰 ความตึงเครียดระหว่างประเทศหนุนเม็ดเงินสื่อและข้อมูล เพิ่มโอกาสเติบโตผ่านกลุ่มศูนย์ข้อมูลและแพลตฟอร์มสื่อสารในเครือ
🚨 นโยบาย “แข็งนอกอ่อนใน” ของทรัมป์ กับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
แม้ทรัมป์จะกลับมาช่วยยูเครน แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังตามมา — ว่าเขายังไม่พร้อม "กดดันรัสเซียเต็มที่" สวนทางกับการแสดงออกของพันธมิตร NATO อื่นๆ
💭 Phillips O'Brien นักยุทธศาสตร์จาก St. Andrews กล่าวอย่างน่าคิดว่า
“ตราบใดที่ปูตินยังเชื่อว่าสงครามกำลังเอื้อประโยชน์ให้เขา และทรัมป์ไม่กดดันจริงจัง — เขาก็จะสู้ต่อไป”
📣 คุณคิดเห็นอย่างไร?
💬 ทรัมป์ควรส่งอาวุธต่อไปหรือหันหน้าสู่สันติภาพ?
🇹🇭 ไทยควรเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบอย่างไร ทั้งในด้านเศรษฐกิจ หุ้น และความมั่นคง?
👇 แสดงความคิดเห็นของคุณได้ในทุกมิติด้านล่างนี้เลยค่ะ!
🎯 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#เวทีมหาอำนาจ #SuperpowerStage #UkraineRussiaWar #TrumpReturns #Geopolitics #USForeignPolicy #อาวุธสหรัฐ #หุ้นไทย #ตลาดหุ้น #หุ้นส่งออก #SETnews #WorldScope
📎 Reference: WFDD – Trump says U.S. will resume sending weapons to Ukraine after pausing last week
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
