ขายตรงให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย – เมื่อโรงแรมหันมาเอาจริงกับช่องทางของตัวเอง**
ในโลกของธุรกิจโรงแรมที่การแข่งขันเข้มข้นขึ้นทุกวัน ช่องทางการขายตรงกลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนจับจ้องอย่างจริงจังมากขึ้น จากที่เคยฝากความหวังไว้กับ OTA (Online Travel Agency) เป็นหลัก วันนี้หลายโรงแรมเริ่มรู้แล้วว่า “รายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย” นั้นไม่ได้มาจากการขายผ่านคนกลางเสมอไป
**ยุคที่ช่องทางขายตรงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป**
สมัยก่อน โรงแรมจำนวนมากเลือกที่จะไม่ลงทุนกับเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของตัวเองมากนัก เพราะคิดว่าปล่อยให้ OTA ทำงานแทนก็พอ แต่เวลาผ่านไป โรงแรมเริ่มเห็นตัวเลขรายได้ที่ถูกหักค่าคอมมิชชันเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อเปอร์เซ็นต์ ยิ่งห้องพักราคาสูง ยิ่งเสียเยอะ จึงไม่แปลกที่โรงแรมเล็กใหญ่จะหันกลับมามองหาวิธี “ขายตรง” ให้ได้มากที่สุด
ไม่ใช่แค่โรงแรมใหญ่ที่ลงสนามนี้ โรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น จากที่เคยคิดว่าเรื่องพวกนี้ต้องมีทีมไอทีหรือบริษัทการตลาดมาช่วย ปัจจุบันหลายแห่งเริ่มต้นจากเพจเฟซบุ๊กง่ายๆ ใช้การพูดคุยแบบตรงไปตรงมากับลูกค้า และสร้างยอดจองแบบไม่ต้องจ่ายค่าคอมให้ใคร
**Social Media และ Website ของตัวเอง – อาวุธลับที่ใช้ได้จริง**
สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนคือ โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับโพสต์ภาพวิวสวยๆ อีกต่อไป มันคือ “หน้าร้าน” ที่ลูกค้าเห็นก่อนตัดสินใจ การทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ สื่อสารให้ตรงใจ และมีช่องทางจองที่ชัดเจน เช่น ลิงก์จองตรงจากเพจ หรือระบบแชตที่ตอบได้ไว ล้วนเป็นตัวช่วยให้การขายตรงเกิดขึ้นจริง ส่วนเว็บไซต์โรงแรม ถ้าเคยเป็นแค่แหล่งรวมข้อมูลพื้นฐาน วันนี้มันต้องเปลี่ยนเป็นพื้นที่ที่ลูกค้ารู้สึกว่า “กดจองที่นี่คุ้มกว่า”
เช่น มีโปรโมชั่นเฉพาะบนเว็บไซต์ มีระบบจองที่ใช้งานง่าย รองรับมือถือได้ดี และที่สำคัญคือมีความน่าเชื่อถือ
**ขายตรงแบบง่ายๆ เริ่มได้เลย ไม่ต้องรอ**
หลายคนอาจคิดว่าการสร้างช่องทางขายตรงต้องเริ่มจากอะไรที่ซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วมันเริ่มได้ง่ายกว่าที่คิด เช่น:
1. ปรับหน้า Facebook Page ให้มีปุ่มจอง, ลิงก์ไปยัง Line OA หรือเว็บไซต์จอง
Facebook คือช่องทางที่แขกส่วนใหญ่ใช้ค้นหาโรงแรมในครั้งแรก การจัดหน้าเพจให้ดูเป็นมืออาชีพและใช้งานได้จริงจึงสำคัญมาก
- ใส่ ปุ่ม “จองเลย” (Book Now) ที่ลิงก์ไปยังระบบจองของโรงแรมโดยตรง
- เพิ่มลิงก์ไปยัง LINE Official Account หรือ Inbox เพื่อให้แขกติดต่อสอบถามและจองได้ง่าย
- ลงรูปภาพใหม่ๆ สม่ำเสมอ ให้ตรงฤดูกาล พร้อมคำบรรยายที่น่าดึงดูด
- ปักหมุดโพสต์โปรโมชั่นพิเศษสำหรับการจองตรงเท่านั้น
2. เปิดระบบแชตที่ตอบเร็ว เช่นใช้ Chatbot หรือมีคนคอยตอบช่วงเวลาที่ลูกค้าทักเข้ามาบ่อย
แขกในยุคนี้คาดหวังคำตอบแบบ Real-Time ถ้าช้าเกินไป โอกาสจองอาจหายไปอย่างรวดเร็ว
- ติดตั้ง Auto-Reply และ Chatbot บน Facebook, LINE หรือ Instagram เพื่อให้คำตอบพื้นฐานทันที เช่น ราคา, สิทธิพิเศษ, เบอร์ติดต่อ
- ตั้งเวลาให้มี Admin หรือพนักงานคอยตอบช่วงพีคไทม์ เช่น 9.00-21.00 น.
- ฝึกทีมตอบแชตให้ เน้นความสุภาพ กระชับ และมี Call-to-Action เช่น “สนใจจองคืนนี้มั้ยคะ มีโปรพิเศษอยู่ค่ะ”
3. ทำเว็บไซต์ของโรงแรมให้พร้อมใช้งานจริง เว็บไซต์ควรเป็นมากกว่าแหล่งรวมรูปภาพ ควรเป็น “เครื่องมือขาย” ที่ชัดเจน
- ลงรูปภาพที่ ถ่ายใหม่ ดูดี และแทนบรรยากาศจริงของโรงแรม
- ใส่รายละเอียดให้ครบถ้วน เช่น ประเภทห้อง, สิ่งอำนวยความสะดวก, เวลาเช็คอิน, เช็คเอาต์, ช่องทางติดต่อ
- มีระบบจองห้อง (Booking Engine) ที่ใช้งานง่าย รองรับมือถือ และมี ราคาอัปเดตแบบเรียลไทม์
- เพิ่มหน้าคำถามที่พบบ่อย (FAQ) และรีวิวจากแขกจริงเพื่อสร้างความมั่นใจ
4. ให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าที่จองตรง ทำให้แขกรู้สึกว่า “จองตรงคุ้มที่สุด” เช่น Early Check-in / Late Check-out เฉพาะลูกค้าจองตรง
- อาหารเช้าฟรี หรือ Upgrade ห้องเมื่อมีว่าง
- ส่วนลดร้านอาหาร หรือสปาภายในโรงแรม
- ส่งโค้ดส่วนลดให้ลูกค้ากลุ่มเดิมกลับมาพักอีกครั้ง
5. ใช้ช่องทางโซเชียลในการกระตุ้นการจอง อย่ารอให้แขกค้นหา ให้เราเป็นฝ่าย “ดึงดูด”
- โพสต์ Flash Sale หรือโปรจำกัดเวลา เช่น “24 ชม. นี้เท่านั้น จองตรงลด 20%”
- ใช้ภาพหรือวิดีโอสั้นบน TikTok / Reels เพื่อแสดงบรรยากาศโรงแรมในมุมที่แตกต่าง
- เปิดแคมเปญ “จองตรงลุ้นของรางวัล” หรือ Collaboration กับอินฟลูเอนเซอร์ในพื้นที่
- ติด Hashtag ที่สื่อถึงจุดเด่นของโรงแรม เพื่อให้ค้นหาเจอง่าย และกระจายไว
การขายตรงไม่ใช่เรื่องของการตัดขาดจาก OTA แต่เป็นเรื่องของการสร้างสมดุลให้ธุรกิจมีรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น การควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ และการรักษาความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า **เพราะไม่มีใครเข้าใจโรงแรมของเราได้ดีเท่าตัวเราเอง ช่องทางขายตรงจึงเป็นเรื่องที่ควรเริ่มทำ… เริ่มได้ทันที และคุ้มค่าทุกความพยายาม**
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
