9 ก.ค. เวลา 06:04 • ข่าวรอบโลก

🇺🇸 ศึกหยุด ‘เช็คเปล่าภาษีทรัมป์’ กับเสียงสะท้อนจากธุรกิจเล็ก

🇺🇸 Trump’s Tariff ‘Blank Check’ Challenged by Small Businesses
🧩 เมื่อภาษีกลายเป็นอาวุธ — และใครมีสิทธิ์ถือมัน?
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเผชิญแรงต้านในชั้นศาล จากกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่ชนะคดีระดับต้นว่ามาตรการเก็บภาษีนำเข้าแบบครอบจักรวาลของเขานั้น “ผิดกฎหมาย” และ “ใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดี” — โดยเฉพาะการอ้าง IEEPA หรือกฎหมายพลังอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉิน 1977 ซึ่งโดยหลักแล้วใช้ในกรณี “คว่ำบาตร-คุมธุรกรรม” ไม่ใช่การจัดโครงสร้างภาษีใหม่
⚖️ ฝ่ายธุรกิจกล่าวชัดว่า:
“หากใช้เหตุผลแบบนี้ได้ไม่จำกัด ประธานาธิบดีจะมีอำนาจตั้งภาษีได้ราวกับรัฐสภาไม่เคยมีอยู่จริง”
📅 เส้นตายชี้ชะตาอยู่แค่เอื้อม
ศาลอุทธรณ์จะพิจารณาคำร้อง 31 ก.ค. 2025 นี้ — เพียง 1 วันก่อน ที่ทรัมป์จะบังคับใช้ภาษีรอบใหม่ในวันที่ 1 ส.ค. 2025 โดยประกาศชัดว่าจะไม่เลื่อนอีกต่อไป
💣 ระเบิดเวลาการค้าโลก และผลกระทบที่อาจย้อนกลับถึงไทย
📦 หากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ถูกเปิดไฟเขียวโดยศาล ก็เท่ากับเปิดช่องให้สหรัฐฯ ใช้ “ภาวะฉุกเฉินด้านการค้า” เป็นข้ออ้างถาวรในการปรับภาษีสินค้าใดก็ได้จากประเทศใดก็ได้ — ซึ่ง ไทย เสี่ยงโดนลูกหลงแบบไม่มีเกราะป้องกัน โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ผ่านประเทศที่ถูกขึ้นภาษีก่อนหน้า
📬 และล่าสุด รัฐบาลไทยได้รับจดหมายแจ้งเตือนจากสหรัฐฯ ว่าจะมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากไทย ถึง 36% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 นี้ — ซึ่งตรงกับกำหนดบังคับใช้รอบใหม่ของทรัมป์พอดี สะท้อนว่าแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การขู่เชิงการเมือง แต่เริ่มกลายเป็นนโยบายจริงที่กระทบภาคธุรกิจอย่างฉับพลัน
⛔ ความไม่แน่นอนนี้อาจทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเร่งหาตลาดใหม่ กระจายความเสี่ยง หรือแบกรับต้นทุนเองในระยะสั้น ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างแรงบีบต่อกำไรสุทธิ และอาจกระทบหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และโลจิสติกส์ อย่างต่อเนื่อง
🇹🇭 ไทยยังพึ่งการส่งออกสหรัฐฯ อย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอาหาร
หากมาตรการใหม่กลายเป็นเครื่องมือการเมืองถาวร อาจเกิดผลลูกรอก เช่น
➤ แรงกดดันให้ประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ ต้อง "หั่นราคา" แข่งภาษี
➤ การโยกฐานการผลิตข้ามภูมิภาค
➤ การตอบโต้จากจีนหรือยุโรป ซึ่งจะส่งผลต่อเสถียรภาพตลาดโลก
📉 หุ้นไทยที่อาจได้รับผลสะเทือนแบบไม่ทันตั้งตัว
💡 กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ – เสี่ยงเจอห่วงโซ่สะดุด หากภาษีทำให้ Demand สหรัฐฯ ผันผวน:
🌐 KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ – ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ส่งออก)
🧲 HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส – รับจ้างผลิต IC และเซนเซอร์)
หากสหรัฐฯ ใช้นโยบายภาษีแบบปรับเปลี่ยนได้รายไตรมาส สัญญาออเดอร์อาจหดตัวจากความไม่แน่นอน
🚙 กลุ่มยานยนต์ – ไทยเป็นฐานการส่งออกให้หลายแบรนด์ญี่ปุ่นไปยังสหรัฐฯ:
🔧 SAT (สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี – ชิ้นส่วนเหล็กรถยนต์)
🛞 AH (อาปิโก ไฮเทค – ชิ้นส่วนและระบบส่งกำลัง)
หากทรัมป์บังคับใช้ภาษีนำเข้ายานยนต์จากเอเชียอีกระลอก อุตสาหกรรม Tier-2 ในไทยอาจโดนหางเลข
🍤 อาหารแปรรูป – ตลาดสหรัฐฯ คือเส้นเลือดหลักของธุรกิจส่งออก:
🧂 TFMAMA (ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ – บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป)
🥫 ASIAN (เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น – อาหารสัตว์เลี้ยงส่งออก)
ราคาและต้นทุนที่ผันผวนจาก “สงครามภาษี” จะทำให้ต้องปรับแผนกระจายตลาดเร่งด่วน
📈 ตลาดทุนไทยควรจับตาอะไรในระยะถัดไป?
💬 กรณีนี้ถือเป็น “Stress Test” ว่าระบบถ่วงดุลในสหรัฐฯ ยังทำงานได้หรือไม่ หากศาลยังคงอำนาจภาษีไว้กับประธานาธิบดีเต็มรูปแบบ จะยิ่งสร้างแรงเหวี่ยงให้ทั่วโลกต้องกลับมาใช้มาตรการปกป้องทางการค้า (Protectionism) อีกระลอกใหญ่
💼 นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้น โดยเฉพาะกับหุ้นที่มีรายได้จากสหรัฐฯ หรือมีห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับตลาดโลก
🗣️ คุณคิดเห็นอย่างไรกับแนวโน้มที่ "ภาษี" จะกลายเป็นเครื่องมืออำนาจนิยมระดับโลก?
หรือคุณคิดว่า “ศาลจะคว่ำมาตรการทรัมป์” หรือ “จะเปิดทางให้เดินหน้าต่อ”?
แชร์มุมมองของคุณในคอมเมนต์ 👇
เรารอฟังเสียงคุณอยู่นะคะ
🔖 Hashtags:
#BattleOfEconomies #TrumpTariffCrisis #TradeWarReignited #GlobalSupplyChainShock #RippleEffect #ThaiExportRisk #SoftPowerเศรษฐกิจ #SETWatchlist #หุ้นไทยรับแรงสะเทือน
📚 Reference:
Business Times – Trump faces MAGA meltdown over Epstein reversal

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา