10 ก.ค. เวลา 04:53 • ข่าวรอบโลก

🚨 ทรัมป์ปลดพนักงาน NASA กว่าพันคน สะเทือนทั้งวงการอวกาศโลก

Trump Administration Axes Over 2,000 NASA Staff, Sparking Global Shockwaves
🛰️ “เมื่อจักรวาลไม่ได้สำคัญเท่าเศรษฐกิจ” — ประโยคนี้อาจสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ได้อย่างเจ็บแสบ เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลทรัมป์เตรียมปลดพนักงาน NASA กว่า 2,145 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง (GS-13 ถึง GS-15) ในภารกิจวิทยาศาสตร์ การบินอวกาศ และฝ่ายสนับสนุนด้านไอทีและการจัดการ
⛔ นี่ไม่ใช่แค่การปลดพนักงานทั่วไป แต่คือการตัดตอน “สมองของอเมริกา” ที่บ่มเพาะมานานหลายทศวรรษ ขณะเดียวกันรัฐบาลทรัมป์ยังวางแผนลดงบ NASA ลง 25% ในงบประมาณปี 2026 เสี่ยงให้ภารกิจด้านวิทยาศาสตร์และอวกาศจำนวนมากต้องหยุดชะงัก
🚀 โลกจะเดินหน้าด้านอวกาศอย่างไร หากสหรัฐฯ ถอยหลัง?
ผลกระทบนี้ไม่เพียงสะเทือนต่อวงการอวกาศสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อ ความร่วมมือด้านอวกาศระดับโลก โดยเฉพาะพันธมิตรของ NASA อย่าง EU ญี่ปุ่น แคนาดา และกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย
🇹🇭 ไทยเองก็อยู่ในห่วงโซ่เทคโนโลยีอวกาศ ผ่านการเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เซ็นเซอร์ ชิ้นส่วนดาวเทียมและซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล หากงบประมาณด้านนี้หดตัว คำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ อาจชะลอลงทันที
📉 หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่อาจได้รับผลกระทบ
แม้ไทยจะไม่มีบริษัทที่ทำธุรกิจกับ NASA โดยตรง แต่ Ripple Effect จากการตัดงบอวกาศของสหรัฐฯ อาจลามถึง หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ และซัพพลายเชนวิทยาศาสตร์ ดังนี้
✨ KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) — ผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ขั้นสูง ส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรป อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมหากยอดสั่งซื้อจากกลุ่มวิทยาศาสตร์และการบินลดลง
✨ HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์) — หนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทย ที่มีฐานลูกค้าในวงการอวกาศและอุตสาหกรรมขั้นสูง
✨ SVI (เอสวีไอ) — รับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงด้านเทคโนโลยีขั้นสูง
✨ ALT (เอแอลที เทเลคอม) — การลดบทบาท NASA เปิดโอกาสให้ ALT ขยายบริการโครงข่ายอัจฉริยะและสถานีดาวเทียมสู่เวทีโลกได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อเมริกาเคยมีอิทธิพลทางเทคโนโลยีสูงสุด
✨ BE8 (เบริล 8 พลัส) — บริษัทเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีโอกาสเข้าร่วมโครงการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก หากสหรัฐฯ ลดบทบาทลง อาจเปิดทางให้ภูมิภาคอื่นเข้ามาแทน
🔻 การลดงบประมาณในสหรัฐฯ อาจก่อให้เกิด “Vacuum of Leadership” ด้านอวกาศ ซึ่งอาจกระตุ้นให้จีน อินเดีย หรืออาเซียนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองมากขึ้น หุ้นกลุ่ม Tech + AI + วิทยาศาสตร์ ในไทยอาจได้โอกาสจากจุดนี้
👨‍🚀 จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมอวกาศหรือจุดตกต่ำของ NASA?
การตั้งให้รัฐมนตรีคมนาคม Sean Duffy เป็นผู้ดูแล NASA ชั่วคราว แทนการแต่งตั้งมืออาชีพด้านอวกาศ อาจตีความได้ว่า ทรัมป์ต้องการควบคุมองค์กรนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองมากกว่าวิทยาศาสตร์
💥 และเมื่อผู้มีบทบาทอย่าง Elon Musk หรือ Jared Isaacman ไม่ได้เข้าไปมีบทบาทใน NASA อย่างที่หวังไว้ ก็อาจเกิดแรงปะทะทางอ้อมระหว่างภาคเอกชนกับรัฐในนโยบายอวกาศของสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น
🔭 ผลในทางสร้างสรรค์: ไทยควรทำอะไรต่อ?
🇹🇭 การที่อเมริกาชะลอภารกิจด้านอวกาศ อาจเป็น “โอกาสเร่งด่วน” สำหรับไทยและอาเซียนในการสร้างความร่วมมืออวกาศในภูมิภาค หรือ เสนอตัวเป็นฐานผลิตเทคโนโลยีอวกาศใหม่ ผ่าน BOI หรือศูนย์อวกาศแห่งชาติที่กำลังจะจัดตั้ง
✨ ความร่วมมือกับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือแม้แต่สหรัฐฯ ผ่านภาคเอกชน อาจเป็นทางออกที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
💬 คุณคิดว่าการปลดพนักงาน NASA ครั้งนี้ จะส่งผลต่อการสำรวจอวกาศของมนุษยชาติในระยะยาวหรือไม่?
และในฐานะคนไทย — เราควร “กลัว” หรือ “คว้าโอกาส” จากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ดี?
🧠 แสดงความคิดเห็น แชร์มุมมองของคุณในทุกมิติได้เลยค่ะ 👇
#️⃣ Hashtags:
#SuperpowerStage #เวทีมหาอำนาจ #NASAภายใต้ทรัมป์ #ตัดงบอวกาศ #อเมริกาถอยไทยต้องรุก #หุ้นเทคโนโลยีไทย #หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ #ข่าวต่างประเทศวิเคราะห์ลึก #เนื้อหามีแต่ในเพจนี้เท่านั้น #WorldScopeOriginal

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา