12 ก.ค. เวลา 02:09 • ไลฟ์สไตล์
ลำพูน

“โคมแสนดวง"

โคมแห่งศรัทธา คุณค่าทุนทางวัฒนธรรมของชาวลำพูน
หลายคนอาจคุ้นเคยชื่อและบรรยากาศอันสวยงาม ดูโรแมนติคของเทศกาล “โคมแสนดวง” ของเมืองลำพูนจากสื่อทางโซเชียลมีเดียต่างๆ และหากได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักนิดจะรู้ว่า งานโคมแสนดวง เป็นงานสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวลำพูน ซึ่งจัดขึ้นในช่วงยี่เป็งหรือวันเพ็ญเดือนยี่หรือเดือนสองของชาวเหนืออันตรงกับช่วงลอยกระทงหรือวันเพ็ญเดือนสิบสองตามประเพณีความเชื่อของไทยภาคกลาง
กิจกรรมในงานมีหลากหลาย เช่น การแขวนโคมที่วัดและอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี พิธีเปิดเทศกาล ขบวนแห่โคมนานาชาติ และการจุดผางประทีป นอกจากนี้ยังมีเส้นทางโคมเชื่อมเศรษฐกิจไปยังวัดต้นแก้ว ตำบลเวียงยอง
ซึ่งเทศกาลดังกล่าวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ช่วงเทศกาล ทว่ายังผลให้ชุมชนท้องถิ่นได้กลับมารื้อฟื้นภูมิปัญญาการสร้างสรรค์โคมหลากรูปแบบของชาวเหนือหรือชาวล้านนาเพื่อใช้ในเทศกาลต่างๆ และยังเป็นการสืบทอดประเพณี วัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ทำให้เกิดความต้องการเรียนรู้เรื่องโคมในแง่ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ความศรัทธาทางพุทธศาสนา ความหลากหลายของโคม และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอันเป็นแหล่งผลิตโคมในพื้นที่เมืองลำพูน
รากฐานทางวัฒนธรรม: โคมแห่งแสงสว่างและศรัทธา
โคมแห่งเมืองลำพูนมีประวัติมายาวนานซึ่งพบหลักฐานที่สามารถสืบค้นให้ได้ศึกษามากมาย อาทิ อักษรล้านนาในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหริภุญชัย หรือจิตรกรรมฝาผนังที่เรียกว่า “ลายคำ”
หลักฐานเหล่านี้บ่งบอกถึงการใช้โคมในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา เป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่างที่ถวายเป็นพุทธบูชามาอย่างยาวนานและเป็นพื้นฐานของชาวลำพูนที่ใช้โคมในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน อาทิ โคมบ็อกที่ใช้สำหรับส่องสว่างในยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือโคมตั้ง หรือโคมหูกระต่ายที่ใช้ถือในการเวียนเทียนทุกวันนี้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านโคมแห่งเมืองลำพูนบอกว่า จริงๆ เรียกว่า “โคมดอกจำปี” เพราะมาจากลักษณะของกลีบดอกจำปี เป็นต้น
“เมื่อเราศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจเรื่องโคมต่างๆ และโคมในแต่ละพื้นที่ จะทำให้เรารู้สึกสนุกและสนใจอยากรู้ที่มาที่ไปของโคมมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงความสวยงาม หรือแขวนไปอย่างไม่มีความหมายเพราะฉะนั้นการเห็นโคมดวงหนึ่ง ณ เวลาที่ข้อมูลมันต่างกัน เมื่อเราเข้าใจคุณค่าของโคมจริงๆ จะทำให้งานประเพณีโคมแสนดวงของชาวลำพูนเราสามารถสืบต่อไปอย่างยั่งยืนได้”
โคมและชุมชน: จากศรัทธาสู่เศรษฐกิจฐานราก
 
ในที่นี้โคมของเมืองลำพูนจึงไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของประดับเทศกาล และไม่ได้มีคุณค่าแค่เพียงเพื่อใช้การสักการะเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงวัฒนธรรมกับเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกด้วย
โครงการบริหารจัดการสื่อวัฒนธรรมชุมชน “12 พื้นที่วิจัย 44 ย่านวัฒนธรรมชุมชน” ได้ร่วมสนับสนุนการทำงานผ่านการลงพื้นที่เยี่ยมชมชุมชนต่างๆ ใน อ.เมืองลำพูน ซึ่งเทศบาลเมืองลำพูนได้ส่งเสริมให้ชุมชนในพื้นที่รื้อฟื้นการผลิตโคมให้เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ การทำโคมยังช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิม เช่น การทำโคมธรรมจักร โคมดาว และโคมไห ขณะเดียวกันก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เช่น ของที่ระลึก และของประดับตกแต่ง
โดยแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของโคมล้านนาในเบื้องต้น คือพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมือง ศูนย์การเรียนรู้ โคมแห่งศรัทธา และยังมีชุมชนต่างๆ ในเมืองลำพูนถึง 13 ชุมชนที่เป็นพื้นที่ผลิตโคมให้ได้เข้าไปเรียนรู้และฝึกทำโคมสำหรับผู้ที่สนใจ อาทิ ชุมชนชัยมงคล หรือชุมชนจามเทวี ฯลฯ เป็นต้น และยังได้มีความพยายามจัดทำ QR Code มาเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับชุมชน ช่วยให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ตลอดทั้งปี
“การพยายามจัดทำ QR Code เชื่อมต่อไปที่ชุมชนต่างๆ โดยตรงได้เลย นั่นแสดงให้เห็นว่าโคมของเมืองลำพูนไม่ใช่มีเฉพาะแค่ในฤดูกาลหรือเทศกาลยี่เป็งฤดูกาลเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงว่า ตลอดทั้งปีชุมชนก็มีโอกาสที่จะผลิตโคมให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวได้ โดยการที่เข้ามาสแกนในคิวอาร์โค้ดติดต่อโดยตรงกับชุมชน หรือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอาจได้รับประสบการณ์ตรงในการเข้ามาทํา workshop ภายในชุมชนโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดศูนย์การเรียนรู้ภายในชุมชนแต่ละแห่งได้อย่างเป็นธรรมชาติและต่อเนื่องได้”
“โคมแสนดวง” จึงเป็นตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทุนทางวัฒนธรรมนับเป็นคุณค่าที่มีความสำคัญ สามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน ชุมชน ท้องถิ่น และเมืองลำพูนได้อย่างแท้จริง และไม่เฉพาะเพียงในช่วงเทศกาล หรือฤดูกาลท่องเที่ยวเท่านั้น แต่สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นได้ทุกวันเลยทีเดียว
......................................................
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริหารจัดการสื่อวัฒนธรรมชุมชน "12 พื้นที่วิจัย 44 ย่านวัฒนธรรมชุมชน" ภายใต้โครงการวิจัย เรื่อง "การพัฒนาเมืองแห่งทุนวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเครือข่ายย่านวัฒนธรรมชุมชน" โดยมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งได้รับทุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
.......................................................
ทุนทางวัฒนธรรมชุมชน = ทุนชาติ
........................................................
#ย่านนี้ดีจัง
#12พื้นที่วิจัย44ย่านวัฒนธรรมชุมชน
#ย่านขัวมุง
#ลำพูน
ผู้เขียน : สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ นักเขียนอิสระ
โฆษณา