ทีมไทยแลนด์เร่งถกแผนรับมือ "ภาษีทรัมป์“ ทักษิณ ย่องเบาร่วมหารือด้วย
ทีมไทยแลนด์สู้ไม่ถอย! เร่งหารือเตรียมแผนรับมือพิษภาษีทรัมป์ ขณะที่นายทักษิณ ย่องเงียบเข้าประชุมด้วย คาด! ได้ทราบผลและแนวทางที่ชัดเจนขึ้นวันนี้
หลังจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2568 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ส่งหนังสือถึงประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย เพื่อแจ้งอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ หรือ Reciprocal Tariff โดยไทยยังถูกเรียกเก็บภาษี 36% ตามที่ผู้นำสหรัฐฯ เคยประกาศไว้เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในหนังสือฉบับดังกล่าว ทรัมป์ได้เลื่อนกำหนดเริ่มเก็บภาษีอัตราใหม่ออกไป จากเดิมคือวันที่ 9 ก.ค. 2568 เป็นวันที่ 1 ส.ค. 2568 อย่างเป็นทางการ
ทีมไทยแลนด์สู้ไม่ถอย! เร่งหารือเตรียมแผนรับมือพิษภาษีทรัมป์ ด้านทักษิณ ย่องเงียบเข้าประชุมด้วย คาด! ได้ทราบผลและแนวทางที่ชัดเจนขึ้นวันนี้
ทำให้ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ (11 ก.ค. 68) รัฐบาลจัดการประชุมหารือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่บ้านพิษณุโลก นำโดยทีมเจรจาการค้ากับสหรัฐ หรือ ทีมไทยแลนด์ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าเจรจาต่อรองขอปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าไปยังสหรัฐฯ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร เป็นประธานทีมเจรจา พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เช่น นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ยังมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายศักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยฝ่ายนโยบายทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ เชี่ยวชาญผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อเตรียมแผนรับมือกับมาตรการทางภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สหรัฐอเมริการได้ประกาศในการเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากไทยถึง 36 % รวมถึงแนวทางการเจรจาเพื่อขอให้สหรัฐฯทบทวนลดอัตราภาษีดังกล่าวอีกครั้ง
สำหรับประเด็นการหารือในวันนี้ คาดว่า จะมีการสรุปข้อเสนอเพิ่มเติมที่ครอบคลุมการลดภาษีนำเข้าสินค้า การลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงแนวทางการรับมือหากไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่ 36% หรือ ในอัตราภาษีใกล้เคียงเวียดนามที่ 20% ซึ่งที่ประชุมจะต้องหาข้อสรุปเรื่องหลักการใน 2 ด้าน คือ ข้อเสนอใหม่ และ การเยียวยา เพื่อเตรียมความพร้อม รวมถึงพิจารณาถึงข้อผูกพันธ์ อาทิ อัตราภาษี และกฎระเบียบเพื่อไม่ให้ผิดหลักกฎหมายในประเทศ
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 68 นายพิชัย ได้จัดการประชุม หารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. และภาคธุรกิจเอกชน ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา ไปแล้วเพื่อประเมินผลกระทบ ที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ไทยได้ข้อสรุปอัตราภาษีที่จะถูกเรียกเก็บ จากสหรัฐ อย่างชัดเจน ในวันที่ 1 ส.ค. 68 พร้อมกับให้ทางภาคเอกชนกลับไปประเมินด้วยว่า ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลืออย่างไร และในด้านใดบ้าง
โดยนายพิชัย ได้กำหนดให้ภาคเอกชนจะต้องทยอยส่งผลการประเมินดังกล่าว กลับมาภายในวันนี้ (11 ก.ค.68) ก่อนจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งหลังจากได้ผลการประเมินที่ชัดเจน
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 : https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube : www.youtube.com/@PPTVHD36
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
