15 ก.ค. เวลา 12:10 • ธุรกิจ

ถอยเพื่อตั้งหลัก? กลุ่มทุนยักษ์ยื่นซื้อ 'สตาร์บัคส์จีน'

สตาร์บัคส์ไชน่าเนื้อหอม กลุ่มทุนไพรเวตอิควิตี้ชั้นนำอย่างน้อย 30 ราย ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เปิดชื่อ 4 รายใหญ่ เซ็นจูเรียม แคปิตอล, ฮิลล์เฮาส์ แคปิตอล, คาร์ไลล์ กรุ๊ป และเคเคอาร์
กลยุทธ์ใหม่ในตลาดจีนของเชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง 'สตาร์บัคส์' (Starbucks) เริ่มปรากฎภาพชัดเจนมากขึ้นทุกขณะ ไม่ใช่เรื่องการจัดแคมเปญโปรโมชั่นหรือเปิดตัวเครื่องดื่มซีรีส์ใหม่ ๆ แต่เป็นการแสวงหา 'พันธมิตรเชิงกลยุทธ์' (strategic partner) ในแบบหุ้นส่วนทางธุรกิจ หวังกอบกู้สถานการณ์ในตลาดกาแฟแดนมังกรซึ่งมีผลประกอบการลดลงหลายปีติดต่อกัน
กระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่มีกูรูผู้รู้พยายามคาดการณ์ว่าสตาร์บัคส์เตรียมขายกิจการหรือโบกมือลาธุรกิจในจีน ก็เป็นอันว่าจบข่าวไป ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
เพราะล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาแล้วจากสื่อใหญ่อเมริกันอย่างซีเอ็นบีซีว่า ขณะนี้มี 'กลุ่มทุนชั้นนำ' จากจีนและต่างประเทศอย่างน้อย 30 ราย เสนอตัวเข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ผ่านทางการร่วมถือหุ้นธุรกิจของสตาร์บัคส์ในจีน
เรียกว่าแม้ธุรกิจในจีนไม่ประสบความสำเร็จเหมือนยุคก่อน ๆ แต่ก็ถือว่ายัง 'เนื้อหอม' มีผู้สนใจซื้อจำนวนมากทีเดียว
ซีเอ็นบีซีรายงานว่า มูลค่าการขายหุ้นในดีลนี้ อาจสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 320,000 ล้านบาทไทย สำหรับเครือขายร้านสาขาจำนวน 7,750 แห่ง ของสตาร์บัคส์ในแดนมังกร
ขณะที่โฆษกของสตาร์บัคส์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เรากำลังมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มี 'ค่านิยม' และมี 'วิสัยทัศน์' ตรงกัน ในเรื่องการมอบประสบการณ์ร้านกาแฟระดับพรีเมียม ขณะเดียวกัน เรายังคงมุ่งมั่นในตลาดจีนและต้องการรักษาส่วนแบ่งที่สำคัญในธุรกิจนี้เอาไว้
สื่ออเมริกันบางรายประเมินมูลค่าธุรกิจในจีนของสตาร์บัคส์ ไว้ดังนี้ครับ แบรนด์กาแฟดังมี 'มาร์เก็ตแคป' หรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 108,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ธุรกิจในจีนมีส่วนแบ่งรายได้ทั่วโลกมากกว่า 8% ดังนั้น มูลค่าที่สมเหตุสมผลน่าจะอยู่ในราว 9,000 ล้านดอลลาร์
ตามรายงานข่าวนั้น คาดว่าสตาร์บัคส์จะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอและรายละเอียดต่าง ๆ ไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้ไป ซึ่งในขั้นตอนการประเมินข้อเสนอนั้น กลุ่มทุนต่าง ๆ จะต้องจัดทำกลยุทธ์ 'สร้างมูลค่า' ทางธุรกิจหลังจากร่วมเป็นหุ้นส่วนกันแล้วมาให้พิจารณาด้วย
ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่า การบรรลุข้อตกลงแบบ 'ปิดดีล' น่าจะยังไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ ก็มีผู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาถึงเกือบ 30 รายด้วยกัน คงต้องใช้เวลานานนิดนึงแหละครับท่านผู้อ่าน
ในเนื้อข่าวยังบอกว่า สตาร์บัคส์อาจเลือกถือหุ้นธุรกิจในจีนเอาไว้ราว 30% นั่นก็หมายความว่าหุ้นในสัดส่วน 70% น่าจะตกเป็นของกลุ่มทุน 3 ราย ไม่เกินไปกว่านี้ เนื่องจากเชื่อว่าสตาร์บัคส์ต้องการรักษาสถานการณ์เป็น 'ผู้ถือหุ้นใหญ่' เอาไว้
อ้อ...ดีลนี้มีโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังแห่งตลาดวอลล์สตรีท เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับสตาร์บัคส์
ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจแต่ประการใดนะครับ เพราะก็มีข่าวหลุดออกมานานแล้วพอสมควรแล้วว่า เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่แดนพญาอินทรีรายนี้ กำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมด้วยช่วยกันบริหารธุรกิจในจีนให้กลับมามีผลกำไรอีกครั้ง หลังจากสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับร้านกาแฟสัญชาติจีนอย่าง 'ลัคอิน คอฟฟี่' และ 'คอตติ คอฟฟี่' ที่เน้นกลยุทธ์ขายตัดราคาคู่แข่ง จนส่งผลให้สตาร์บัคส์มียอดขายในจีนย่ำแย่หลายปีติดต่อกัน
อ่านต่อ:
โฆษณา