🇷🇺🤝🇰🇵 “พี่ใหญ่แห่งอำนาจใหม่” รัสเซีย-เกาหลีเหนือผนึกพันธมิตรแน่นแฟ้น กระทบสมดุลโลกครั้งใหญ่
North Korea, Russia Reaffirm Strong Ties in Foreign Ministers' Talks
ในเมืองชายฝั่งว็อนซานของเกาหลีเหนือ ซึ่งเพิ่งเปิดเขตท่องเที่ยวแห่งใหม่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดภาพหายากบนเวทีการทูตโลก — รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ จับมือแน่นกับคู่หู โช ซอนฮุย จากเกาหลีเหนือ พร้อมยืนยัน “พันธมิตรทางทหารที่ไม่อาจทำลายได้” หลังมีข่าวว่าทหารเกาหลีเหนือได้เข้าร่วมรบในภูมิภาคคูร์สก์ของรัสเซีย
💬 จุดยืนของทั้ง 2 ชัดเจน — สนับสนุนกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะในด้านอธิปไตยและความมั่นคง
🛬 นอกจากนี้ รัสเซียยังเตรียมขยายเที่ยวบินตรงไปยังว็อนซานเพื่อดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียให้เข้าเมืองชายฝั่งนี้มากขึ้นอีกด้วย
🌐 พลิกสมดุลอำนาจในเอเชียตะวันออก — การเดินเกมที่สะเทือนถึงจีนและสหรัฐฯ
การพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังผู้นำสูงสุดของ 2 ประเทศลงนามใน “ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม” ที่มีข้อความสำคัญว่า...จะให้การสนับสนุนกัน “ในกรณีที่ถูกรุกราน”
🧭 นี่ไม่ใช่แค่เกมระหว่างรัสเซียกับยูเครน หรือเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เท่านั้น — แต่มันคือการเขย่าจุดสมดุลของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลาฟรอฟมีกำหนดจะเดินทางต่อไปยังจีนเพื่อประชุมกับชาติสมาชิกองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO)
🌪 จุดนี้จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือจะวางโครงสร้างพันธมิตรต้านอิทธิพลตะวันตกในระยะยาว
📌 ไทยเกี่ยวอะไรด้วย? มองผลกระทบเชิงสร้างสรรค์
🇹🇭 สำหรับไทย แม้จะดูห่างไกลจากการเมืองร้อนแรงนี้ แต่ Ripple Effect ที่อาจเกิดขึ้นมีหลากหลายมิติ:
🌾 ด้านอาหารและเกษตร — หากเกาหลีเหนือต้องการพึ่งตนเองและรัสเซียเผชิญมาตรการคว่ำบาตรยืดเยื้อ ไทยอาจกลายเป็น “ทางเลือกด้านอาหาร” ผ่านการส่งออกข้าว น้ำตาล หรืออาหารแปรรูป
⚡ ด้านพลังงาน — หากรัสเซียเริ่มหันหลังให้ยุโรปมากขึ้น ไทยอาจต้องเตรียมปรับตัวต่อราคาพลังงานในตลาดโลกที่อาจผันผวน และหาทางสร้างข้อตกลงระยะยาวกับชาติพันธมิตรอื่นเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน
🛡 ด้านความมั่นคงไซเบอร์และเทคโนโลยี — เมื่อการแยกขั้วของเทคโนโลยีโลกชัดขึ้น ไทยต้องเลือกแนวทางการลงทุนในเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่น เช่น Edge Computing, Security-as-a-Service และ Data Sovereignty ที่ไม่ขึ้นกับ Big Tech ฝั่งตะวันตกหรือจีนเพียงฝ่ายเดียว
📈 ตลาดหุ้นไทยจะรับมืออย่างไร?
💥 สถานการณ์นี้แม้ดูเป็นเรื่องใหญ่ระดับนานาชาติ แต่ส่งผลสะเทือนมายังหุ้นในตลาดไทยได้หลากหลายแบบ หากประเมินแบบ Ripple Effect อย่างรอบด้าน:
🔴 HANA (ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส) – ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีตลาดส่งออกทั้งฝั่งเอเชียและตะวันตก หากเกิดความผันผวนด้านภูมิรัฐศาสตร์ ย่อมกระทบทั้ง Supply Chain และ Demand อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
🔵 WICE (ไวส์ โลจิสติกส์) – ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งระหว่างประเทศ หากเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้า เช่น ข้ามรัสเซียไปจีน หรือหันไปใช้โครงข่ายทางบกมากขึ้น อาจมีโอกาสจากการขยายบริการในเส้นทางใหม่
🟢 KCE (เคซีอี อีเลคโทรนิคส์) – อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน PCB ที่มีฐานลูกค้าฝั่งยุโรปและเอเชียตะวันออก อาจได้รับผลกระทบทั้งทางบวกหากจีนเร่งผลิตในภูมิภาค และลบหากสงครามขยายตัวในอุตสาหกรรมนี้
🟡 AU (อาฟเตอร์ ยู) – แม้จะดูไม่เกี่ยวโดยตรง แต่หากนักท่องเที่ยวรัสเซียกระจายออกจากยุโรปและญี่ปุ่นเพื่อเข้าสู่ภูมิภาคอื่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย เช่น ร้านขนม คาเฟ่ หรือลูกค้าต่างชาติก็อาจได้รับโอกาสทางอ้อม
🟣 BCP (บางจาก คอร์ปอเรชั่น) – หากมีการปรับเปลี่ยนการค้าเชื้อเพลิงจากรัสเซีย ส่งผลต่อการจัดหาน้ำมันและต้นทุน BCP โดยตรง ต้องจับตาการกระจายความเสี่ยงของการนำเข้าน้ำมัน
🧠 โลกกำลังก่อร่างอำนาจใหม่: แล้วไทยควรเล่นบทไหน?
ขณะที่โลกกำลังแบ่งขั้ว ไทยควรมองตนเองเป็น "จุดสมดุลทางภูมิรัฐศาสตร์" มากกว่าจะเลือกฝ่ายอย่างชัดเจน การลงทุนในอุตสาหกรรมที่ยืดหยุ่น นวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ การแปรรูปอาหาร และเทคโนโลยี Cybersecurity ที่ไม่ขึ้นกับมหาอำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะช่วยให้ไทยรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้อย่างชาญฉลาด
💬 คุณคิดเห็นอย่างไรกับแนวโน้มพันธมิตร รัสเซีย–เกาหลีเหนือ และการปรับสมดุลอำนาจโลกในระลอกนี้?
แล้วไทยควรตั้งรับ หรือควรใช้โอกาสตรงนี้อย่างไรบ้าง?
#ร่วมแสดงความเห็นกันได้เลยด้านล่างนี้นะคะ!
🔖 Hashtags:
#SuperpowerStage #เวทีมหาอำนาจ #NorthKoreaRussia #ภูมิรัฐศาสตร์โลก #ดุลอำนาจใหม่ #RussiaChinaAlliance #StockAtlas
📚 Reference:
The Assam Tribune: Trump govt taking prudent strategic approach toward North Korea: US official
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
