Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
REVERILLA
•
ติดตาม
13 ก.ค. เวลา 13:29 • ไลฟ์สไตล์
กะทิ น้ำตาล มะพร้าว และเด็กชายที่ไม่รักขนมไทย
ถ้าย้อนเวลาได้ ผมอยากกลับไปถามเด็กชายคนหนึ่งว่า...
“โตขึ้น...จะทำขนมไหม?”
เขาคงเบะปากใส่ แล้วตอบเสียงแข็งว่า
ไม่มีทาง! จะไม่ทำเด็ดขาด!
เพราะย้อนกลับไปเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้ว
ตอนที่ผมยังเป็นเด็กประถมตัวเล็กๆ บ้านอยู่แถบอำเภอรอบนอกของเชียงใหม่
วันหยุดของเด็กคนอื่นอาจหมายถึงการได้วิ่งเล่น ดูการ์ตูน หรือปั่นจักรยานกับเพื่อนบ้าน
แต่ไม่ใช่สำหรับผมเลย
เพราะวันหยุด = วันแห่ง “คำสั่งของแม่”
แม่รู้ว่าผมเรียนหนังสือไม่เก่ง
แม่จึงไม่ได้บังคับให้อ่านหนังสือ หรือท่องสูตรคูณ
แต่มีอย่างหนึ่งที่แม่จะยื่นให้เสมอ “ภารกิจขนมไทย”
และผมก็รับหน้าที่เดิมซ้ำๆ ไม่เคยขาด...
• ปอก เผือก- กล้วยน้ำว้า-มัน
• เช็ดใบตองให้เงา
• ขูดเนื้อมะพร้าวทึนทึกให้เป็นฝอยบางๆ ด้วยมือ (ที่มือลั่นทีไร มีแผลทุกที)
• ช่วยแม่ปั้น ช่วยแม่ห่อ
• ล้างจาน ล้างหม้อ ล้างกระละมัง จนกลิ่นน้ำกะทิติดมือไปทั้งวัน
แน่นอน…ผมไม่ได้ทำด้วยใจรัก
แต่ทำด้วยใจจำใจ
กิจวัตรแบบนี้ มันพรากเวลาเล่นของผมไปหมด
และลึกๆ ผมก็ แอบเกลียดขนมไทย เหลือเกิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง...
ผม "หนี" ออกมาได้
ผมต้องมาเรียนระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ และนั่นคือครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกจากบ้าน
ตอนหิ้วกระเป๋าขึ้นรถทัวร์ที่อาเขตเชียงใหม่ ผมหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ว่า…
“ในที่สุด...ชีวิตก็น่าจะรอดพ้นจากกะทิ น้ำตาล และมะพร้าวเสียที!”
ผมเรียนจบ ทำงานเป็นหนุ่มออฟฟิศรุ่งเรืองอยู่กลางเมืองหลวง
ไม่มีใบตอง ไม่มีครัว ไม่มีขนมเหนอะมืออีกต่อไป
โลกของผมเต็มไปด้วยงาน เอกสาร และกลิ่นกาแฟ
เหมือนทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด
...หรืออย่างน้อย ผมก็คิดแบบนั้น
จนกระทั่ง...
เวลาผ่านไปอย่างเงียบเชียบ
มีเหตุที่ทำให้ผมต้องเกษียณจากงานประจำ และต้องกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่...อย่างถาวร
คราวนี้ ไม่ใช่เพราะคิดถึงบ้าน
แต่เพราะ พ่อป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์
แม่เหนื่อยและเครียดการจากดูแลพ่อ ผมรู้
และผมเอง...ก็เริ่มรู้สึกกลัว “ความว่างเปล่า”
เราสองคน — แม่ลูก — หาทางออกที่ไม่ต้องออกแรงมาก
แต่อยู่ได้กับมันทั้งวันโดยไม่เครียด
ใครจะคิดล่ะครับ...ว่า
คำตอบจะกลับมาในรูปแบบ “ขนมไทย” อีกครั้ง
ผมหยิบหม้อนึ่งออกมาอีกครั้ง
ไม่ใช่เพราะแม่สั่ง
แต่เพราะอยากให้พ่อที่กินเก่งได้กินขนมไทยอร่อย ไม่หวานจัด
อยากให้แม่ได้ยิ้มจากการทำในสิ่งที่เธอเคยถนัด
และอยากให้ตัวเอง…ไม่ว่างจนเหงาจนใจลอย
เราเริ่มต้นจากการ “ทำขำๆ” ทำ “แก้กลุ้ม”
แต่ทำไปทำมา กลับกลายเป็น “ทำจริงๆ”
ขนมกลายเป็นวงจรใหม่ของชีวิต
จากแค่ทำในครัว
ก็แจกเพื่อนบ้าน
จากแจก ก็เริ่มมีคนขอซื้อ
ผมลองโพสต์ขนมลงเพจของกิน
ลองรับออเดอร์เบาๆ
แล้วก็ค้นพบว่า...
ผมกำลัง “กลับเข้าสู่วงจรเดิม” ที่เคยพยายามหนี
แต่ครั้งนี้...ผม เดินเข้าไปด้วยความเต็มใจ
ใครจะเชื่อล่ะครับ
ว่าเด็กชายที่เคยหนีกะทิ แป้ง และกระทะ
จะกลับมากวนขนมด้วยความตั้งใจและอ่อนโยน
คนที่เคยวิ่งหนีใบตอง
จะกลับมานั่งพับมันด้วยมือที่เหี่ยวลง...
แต่หัวใจกลับนิ่งสงบและเข้าใจมากกว่าครั้งไหนๆ
และนี่แหละครับ—
คือ “การเริ่มต้นอีกครั้ง” ของผม
กับขนมไทยที่เคยเป็นภาระในวัยเด็ก
แต่วันนี้...มันกลับกลายเป็นทั้งเครื่องเยียวยา
เป็นบทสนทนาระหว่างผมกับแม่
และอาจเป็นงานสุดท้ายในชีวิต
ที่ผมทำด้วยความรักอย่างแท้จริง
ผมยังไม่รู้หรอกครับ
ว่าจะมีใครอ่านบทความพวกนี้หรือเปล่า
แต่สิ่งที่ผมรู้แน่ๆ ก็คือ...
ผมอยากจดจำมันไว้
ทีละตอน
ทีละกลิ่น
ทีละรอยมือบนใบตอง
เพราะบางอย่าง...ไม่ใช่แค่ความทรงจำ
แต่มันคือ "ราก" ที่ฝังอยู่ในเรา
แม้เราจะเคยพยายามลืมมันไป
📚 โปรดติดตาม บทต่อไป:
“กินหนมยาย” ขนมแรกที่ผมทำขาย (ในวัยเกษียณ) กับรสชาติที่ไม่ได้หายไปไหนเลย
It’s never too late to be what you might have been.
George Eliot
“Some sweets melt in your mouth—
But the best ones? They melt in your memory.” บางทีขนมที่อร่อยที่สุด อาจไม่ได้อยู่ในปาก... แต่อยู่ในความทรงจำ
Phoomkum
เรื่องเล่า
อาหาร
ขนมไทย
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย