ทั้งนี้ DC Studios ก็กำลังพัฒนาโครงการหนังอยู่หลายเรื่อง ทั้ง “Supergirl” ที่เสร็จสิ้นการถ่ายทำแล้ว กับ “Clayface” ที่กำลังเตรียมงานการถ่ายทำ โดยที่ทั้งสองเรื่องมีกำหนดฉายในปี 2026 นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีโครงการอย่าง “Sgt. Rock” ที่กลับไปซุ่มพัฒนาและหากำหนดการเปิดกล้องใหม่ หรือกระทั่งโครงการแบบ “The Brave and the Bold” และ “Swamp Thing” ที่ยังไม่มีกำหนดฉายทางการ
ซึ่ง กันน์ ในฐานะประธานร่วมของ DC Studios ก็นำจุดยืนที่เขาชอบเกี่ยวกับคอมมิคของ DC มาใช้ ในการคุมงานสร้างของหนังแต่ละเรื่องให้ออกมาแตกต่างกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีแนวทางนำเสนอเดียวกัน นอกเหนือจากการดึงตัวละครจากจักรวาลคอมมิค DC มาใช้
“สิ่งที่ทำให้ผมรักคอมมิคและนวนิยายภาพของ DC นั่นก็คือ พวกเขาปล่อยให้ศิลปินและนักเขียนแต่ละคน ได้รังสรรค์ ผลงานของพวกเขาในรูปแบบที่เป็นตัวเอง”
“ทั้ง ‘The Long Halloween’, ‘All-Star Superman’, ‘Dark Knight’, ‘Watchmen’ ซีรีส์เหล่านั้น แทบไม่มีกลิ่นอายของโทนเรื่องที่คล้ายคลึงกันเลย นอกเหนือจากการที่เรื่องเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มตัวละครที่อยู่ในจักรวาลคอมมิค DC และตอนนี้ เราจะทำแบบนั้นกับจักรวาลภาพยนตร์ DCU” กันน์ กล่าวทิ้งท้าย